เสียงผู้คนที่กำลังถกเถียงกันดังเซ็งแซ่ขึ้นเรื่อยๆ ต่างกล่าวโทษผู้หญิงทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเพราะเหตุผลอะไร การที่ผู้ใหญ่ลงมือกับเด็กมันก็คือผิด
ใบหน้าของผู้หญิงแดงจนลามไปถึงลำคอ ด้วยความเกลียดชังตัวเองเพราะรู้สึกละอายจนอยากจะหาที่ใดที่หนึ่งมุดหน้าหนี มันช่างน่าขายหน้าชะมัดเลย เธอหันตัวและอยากจะเดินหนีไป
แต่ซูจ้านขวางเอาไว้
สีหน้าของเขาเคร่งขรึม “ทำร้ายคนแล้วอยากจะเดินหนีเหรอ?”
“ฉันก็พูดแล้วนี่ว่าไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย แล้วยังต้องการให้ฉันทำอะไรอีก?” ผู้หญิงตะคอกกลับเสียงต่ำ แต่ถูกคนที่มุงอยู่รอบๆ หัวเราะเยาะจนตัวเธอเกรี้ยวกราดหนัก
“ที่ทำให้เสื้อผ้าคุณเลอะเทอะ พวกเราก็ต้องชดใช้ค่าเสียหายตามปกติ การที่คุณทำร้ายคนก็ต้องคิดบัญชีเช่นกัน!” ซูจ้านเชิดคางขึ้น
หัวใจของผู้หญิงเต้นระทึก ด้วยความตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลย ในที่สุดเธอก็ได้แต่โทรศัพท์ให้สามีตนเอง เพื่อให้เขาเข้ามาจัดการ
“ฉัน ฉันโทรศัพท์” ผู้หญิงรีบควานหาโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าออกมา เพื่อจะโทรศัพท์หาสามี
ไม่นานโทรศัพท์ก็รับสาย เธอยังไม่ทันอ้าปากพูด เสียงปลายสายก็มีเสียงผู้ชายที่หมดความอดทนดังแทรกขึ้นมา “นี่คุณแค่ไปกินข้าวหรือตกส้วมไปแล้วเหรอ? ทำไมยังไม่กลับมาสักที?”
“ฉัน ฉันอยู่บนถนนตรงประตูหน้าห้องน้ำ” ผู้หญิงพูดอึกอัก
เสียงผู้ชายยิ่งหมดความอดทนหนักกว่าเดิม “แล้วทำไมคุณยังไม่กลับมาสักที?”
หญิงสาวหวาดกลัวจนหนาวสั่น “ฉันถูกคนขวางเอาไว้นะสิ ไม่ให้กลับ”
“อะไรนะ?” ผู้ชายปลายสายเมื่อได้ยินแล้วถึงกลับเดือดขึ้นมา แถมยังคิดว่ามีคนจ้องลวนลามภรรยาตัวเอง พลันเปิดประตูรถลงมาด้วยความโกรธแค้น จนเดินมาถึงตรงปากทางถนนเข้าห้องน้ำ “ใคร ใครมันกล้าขวางทางภรรยาฉันอยู่?”
“ที่รัก” ผู้หญิงขวัญเสียอยู่ไม่น้อย เมื่อเห็นสามีของตนเองแล้วก็เหมือนได้เห็นความหวังสุดท้าย
ผู้ชายมองตรงมาทางนี้ พร้อมทั้งเชิดคอให้ “ใครกันที่ลวนลามเมียฉัน?”
“เมียคุณหน้าตาแบบนี้ ใครจะไปลวนลาม” ไม่รู้ว่าใครที่ไหนกลุ่มฝูงชนที่พูดโพล่งออกมาเช่นนี้
ผู้ชายพลันโกรธจนไฟปะทุทันที มาต่อว่าเมียว่าหน้าตาขี้เหร่ จนเขาเสียหน้า
“เมื่อกี้ใครพูดประโยคนั้นออกมา? มีปัญญาก็เสนอตัวออกมาเลย!” ชายหนุ่มชี้หน้าคนที่อยู่ในกลุ่มอย่างร้อนรน
“คุณคนนี้ อย่าเพิ่งโมโหเดือดดาลไป คนคนนี้ไม่ได้บอกว่าภรรยาของคุณหน้าตาขี้เหร่ แต่หมายถึงว่าจิตใจของภรรยาของคุณมันทุเรศ”
หญิงสาวที่มาดูเหตุการณ์อยู่ด้านหน้าเป็นคนพูด
การไม่อธิบายแบบนี้มันยังจะดี แต่พอมาอธิบายแล้ว มันยิ่งไม่น่าฟังเข้าไปใหญ่ หน้าตาทุเรศมันก็แค่เปลือกนอก แต่จิตใจทุเรศ มันเป็นการพรรณนาถึงไม่มีคุณธรรม ไม่มีวุฒิภาวะ หรือพวกใจดำ สรุปคือ ไม่น่าฟังเลย
ผู้ชายกระทืบเท้าทันที พร้อมทั้งชี้หน้าผู้หญิงคนที่พูด “แกพูดซ้ำอีกครั้งสิ?”
หญิงสาวที่เพิ่งพูดออกมาเมื่อครู่ตอบกลับ “ก็เมียคุณมันไม่มีวุฒิภาวะ”
ผู้ชายเงื้อมือขึ้นเพื่อต้องการจะต่อยผู้หญิงคนที่พูดคนนั้น แต่ภรรยาของเขาห้ามไว้ทันเวลา พร้อมทั้งกระซิบพูด “อย่าหาเรื่องเลย”
ผู้ชายอยากจะดุภรรยา ถึงได้เห็นว่าเสื้อผ้าของเธอสกปรกแล้ว จนสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “เสื้อผ้าของคุณจ่ายไปตั้งพันกว่าหยวน ทำไมถึงได้สกปรกขนาดนี้ไปล่ะ?”
“ลูกสาวผมทำเอง” จงจิ่งห้าวแสดงท่าทีเย็นชา ไม่ได้เบาเกินหรือหนักเกิน พร้อมใช้สายตากดดันอันคมกริบมองมา
ผู้ชายถูกสายตาตกตะลึงของเขาตึงเอาไว้ ผ่านไปนานยังตั้งสติไม่ได้
“ลูกสาวของเขาทำให้ฉันเป็นแบบนี้ ตอนนั้นฉันโมโหสุดๆ เลยตบหน้าเด็กคนนั้นไปทีหนึ่ง”
ภรรยาของเขาพูดอยู่ด้านข้าง ผู้ชายไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น สมองอื้ออึงอยู่นาน
พอตั้งสติกลับมาก็พูดอย่างจองหองทันที “ลูกสาวของคุณทำให้เสื้อผ้าของภรรยาผมสกปรก คุณต้องชดใช้”
“เงินก็นี่ไง” ซูจ้านเตะถุงที่กองอยู่กับพื้น ด้านในเงินหยวนแดงอย่างคลาคล่ำ จนทะลุออกมาจากถุง ผู้ชายก้มศีรษะมอง จนตาพร่าทันที มันเยอะขนาดนี้เชียว?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม