สายฟ้าที่น่าหวาดผวาแว๊บผ่านในใจฉินยา ผู้หญิงคนนี้คือ?
ในใจมีการคาดเดาแล้ว แต่ว่า เธอไม่อยากยอมรับว่าซูจ้านจะแอบไปเจอแฟนเก่าลับหลังเธอ
แต่ถ้าไม่ได้ไปเจอ ผู้หญิงที่รับสายคนนี้คือใคร?
เธอกุมมือถือไว้แน่นไม่พูดจา
“ฉันคือหลิวเฟยเฟย เราเคยเจอกันที่หน้าร้านขายเฟอร์นิเจอร์เมื่อเช้านี้ค่ะ” หลิวเฟยเฟยส่องกระจก ผู้หญิงที่สะท้อนออกมาจากกระจกยังคงสวยอีกเช่นเคย ถ้าจะให้บอกว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไร ก็แค่หางตามีริ้วรอยเพิ่มขึ้นเส้นนึง แต่ไม่กระทบกับความสวยของเธอเลย
“เขามาหาฉัน เราอยู่ด้วยกันตลอด ฉันบอกว่าฉันหิวข้าว เขาก็ลงมือไปเข้าครัวเพื่อฉัน ถึงแม้เขาแต่งงานกับคุณ ฉันว่าในใจเขายังคงมีฉันอยู่นะคะ” หลิวเฟยเฟยแกล้งพูดเสียงเบา เพื่อไม่ให้ซูจ้านที่อยู่ด้านนอกได้ยิน
ฉินยาเก็บมือถือกลับ และตัดสายทิ้ง เธอมองโทรศัพท์ในมือ เหมือนมันที่ลวกมือ มีหลายครั้งที่อยากจะโยนทิ้ง
ไม่นึกเลยว่าซูจ้านจะอยู่กับหลิวเฟยเฟย!
ทันใดนั้นเธอกุมหน้าอกไว้ ไม่นึกเลยว่าเธอจะเจ็บแน่นหน้าอก
ไม่รู้ว่าเพราะซูจ้านโกหกเธอ หรือเพราะเธอมีใจให้เขาแล้ว
ไอรอนปิดประตูหน้าร้าน เดินออกมาเห็นฉินยายังยืนหน้าร้านจึงได้ถามว่า “เธอไปได้สักพักแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมยังยืนอยู่ที่นี่?”
ฉินยาหันหน้าไปอีกทาง เพื่อหลบสายตาไอรอน “เอ่อคือ ฉันกำลังรอคนอยู่หน่ะ”
“อ๋อ อากาศหนาวขนาดนี้กลับบ้านเช้าหน่อย อ้อใช่ วันหลังเธอต้องเลี้ยงข้าวฉันนะ แต่งงานแล้ว เหล้ามงคลฉันก็ยังไม่ได้ดื่มเลย” ไอรอนไม่พบความความผิดปกติของเธอ ตบไหล่เธอทีนึง “ฉันไปแล้วนะ”
“อืม” ฉินยาตอบ
เดินไปได้สองก้าว จู่ๆไอรอนหยุดฝีเท้าแล้วหันมามองฉินยา “ให้ฉันไปส่งเธอมั้ย?”
ฉินยารีบส่ายหัว “ไม่ต้องเธอกลับก่อนเลย เดี๋ยวเขาก็มาแล้ว”
“งั้นโอเค ยัยตัวดี เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อน” ไอรอนแซวเธอเล่นด้วยรอยยิ้ม จากนั้นหันหลังขึ้นรถไป
หลังจากไอรอนไปแล้ว ฉินยาเดินมาโบกรถที่ข้างถนน นั่งเข้ามาในรถ สมองของเธอสับสน ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ใจนึงก็กลัวมาก กลัวว่าซูจ้านกับหลิวเฟยเฟยจะถ่านไฟเก่าคลุก
เธอปิดปากปิดจมูกไว้ มองนอกกระจกรถ แสงไฟสลวยแว๊บผ่านตรงหน้า เธอกลับไม่มีกะจิตกะใจชื่นชมความสวยงามนี้ น้ำตาไหลลงมาจากเบ้าตาเงียบๆ
“ถึงแล้วครับ” ฉินยายังจมอยู่ในโลกส่วนตัว คนขับได้ขับรถมาจอดอยู่หน้าหมู่บ้านคอนโดแล้ว
ฉินยาเช็ดหน้าให้แห้งแล้ว ควักเงินออกมาจ่ายค่ารถ
เธอยืนอยู่ที่ช่องลม เป่าความชื้นของใบหน้าให้แห้งสนิท ตบแก้มตัวเอง เพื่อให้ตัวเองดูแล้วปกติ
ถึงแม้เธอร้องไห้ ก็ไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าซูจ้าน ยิ่งไม่อยากให้เขาเห็น
เธอล้วงกุญแจออกมาเปิดประตู ตอนเช้า ตอนที่ซูจ้านส่งท่านย่ากลับมา ท่านย่าได้ยัดกุญแจมาให้เธอดอกนึง
แถมยังพูดด้วยว่า “นี่ก็คือบ้านของหนู หนูจะต้องมีกุญแจเข้าบ้าน”
ท่านคิดรอบคอบมาก
เธอเปิดประตู เห็นท่านย่านั่งอยู่บนโซฟา เห็นเธอกลับมา ได้รีบลุกขึ้นมาจากโซฟาแล้วเดินมาหา “เสี่ยวยา หนูเลิกงานแล้วเหรอ?”
ฉินยาอาศัยท่าทางที่แขวนเสื้อผ้าหลบหลีกสายตาของท่านย่า และตอบอืมอย่างเรียบเฉยคำนึง
“ซูจ้านไม่ได้ไปรับหนูกลับมาด้วยกันเหรอ?” ท่านย่าได้ถามอีก
มือที่ฉินยาแขวนเสื้ออยู่ได้ชะงักไว้ ผ่านไปครู่หนึ่งเธอพูดว่า “เขามีธุระค่ะ อาจจะกลับมาดึกหน่อย”
“มีอะไรต้องยุ่งด้วย? เขาไม่ต้องไปสู้คดีเองสักหน่อย มีลูกน้องอยู่เยอะแยะขนาดนั้น” ท่านย่าสีหน้าเปลี่ยนทันที “เดี๋ยวรอเขากลับมา ย่าต้องสั่งสอนเขาสักหน่อยแล้ว เป็นคนมีภรรยาแล้ว ยังไม่มีแนวความคิดด้านเวลาอีก”
ฉินยาฝืนยิ้ม
“ไป เราไปทานข้าวกันก่อน เดี๋ยวเขากลับมา ให้เขาอดตายไม่ต้องกินอะไรเลย” ท่านย่าดึงมือฉินยาเดินไปที่โต๊ะอาหาร
ท่านย่าจับมือฉินยาไว้ “หนูผอมเกินไป ย่าต้องขุนหนูเยอะๆหน่อยแล้ว”
ฉินยาไม่รู้จะตอบรับความใจดีของท่านย่ายังไง แค่ก้มหน้าไว้เงียบๆ
อีกฝั่งนึง หลิวเฟยเฟยออกมาจากห้องน้ำ ซูจ้านยังอยู่ในห้องครัว เธอลบประวัติการโทรทิ้ง แล้วเอามือถือใส่กลับเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของเขาใหม่
ซูจ้านต้มบะหมี่น้ำใสให้หลิวเฟยเฟยชามนึง เขายกมาวางที่บนโต๊ะของห้องรับแขก “รีบทานตอนร้อนๆซะ”
หลิวเฟยเฟยเงยหน้ามองเขา “คุณไม่ทานกับฉันเหรอคะ?”
ซูจ้านหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาใส่ “ไม่แล้วครับ คุณทานเองเลย ดูแลตัวเองดีๆ”
ซูจ้านพูดจบก็ได้หันหลัง พอเดินมาถึงหน้าห้องเขาได้หยุดลงมา “นี่เป็นการเจอกันครั้งสุดท้ายของเรา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม