“ฉันจะยังไม่ให้ใครรู้” เรื่องที่เธอสามารถทำผ้าไหมกวางตุ้งได้ งานนิทรรศการเสื้อผ้าหลังปีใหม่ก็เอาไว้ก่อน
ไม่ใช่ว่าเธอยอมแพ้ แต่แค่ต้องการโอกาสที่เหมาะสมเท่านั้น
ถ้าตอนนี้เธอไปทำเรื่องนี้โดยที่ไม่สนใจอะไรเลย มีแต่จะทำให้จงจิ่งห้าวต้องตกอยู่ในความยากลำบากจากทั้งสองด้านเท่านั้น
ดีที่ยังมีเวลาอีกเยอะ
ปากของเขาเลื่อนมาถึงที่ใบหูของเธอ แล้วพูดด้วยเสียงที่แหบซ่านว่า “ยังไงคุณก็ยังไม่ยอมบอก”
เหงื่อเป็นเม็ดๆ ขึ้นเต็มหน้าผากและสันจมูกของเธอ ในใจยังคงขัดขืนไม่ยอมหยุด สั่นเทาไม่ยอมหาย
สุดท้าย เธอก็ไม่ได้หลุดปาก
ตอนบ่ายสามกวนจิ้งโทรศัพท์เข้ามา บอกว่าทางนั้นเตรียมการเสร็จหมดแล้ว ตอนนี้จงจิ่งห้าวสามารถไปได้แล้ว
หลินซินเหยียนยืนจัดเนกไทให้เขาอยู่ที่ทางเข้าห้องรับแขก ตั้งใจและแน่วแน่ เขาโอบเอวของเธอไว้ “ผมไม่อยากไปแล้ว ทำยังไงดีครับ?”
หลินซินเหยียนพูดด้วยความลังเล “ถ้าคุณไม่กลัวจะทำร้ายความรู้สึกของพนักงาน คุณก็ไม่ต้องไปค่ะ”
แค่พวกระดับสูงของบริษัทกับสาขาย่อยก็มีร้อยสองร้อยคนแล้ว หลายๆคนทั้งปียังไม่ได้เจอหน้าเขาเลย ถ้าการประชุมประจำปีแล้วยังไม่ไปอีก มันจะดูน่าเกลียดเอามากๆ เลย
จงจิ่งห้าวบีบคางของเธอเอาไว้ จ้องมองด้วยความตั้งใจ ปลายนิ้วของเขาเลื่อนผ่านริมฝีปากของเธอ “คุณจะรอผมกลับมามั้ยครับ?”
หลินซินเหยียนพยักหน้า “ค่ะ”
“ผมจะพยายามกลับมาให้เร็ว” เขาจิกลงที่ริมฝีปากของเธอเบาๆ ด้วยความนุ่มนวล ยิ่งจูบยิ่งอยากจูบ ดึงเธอเข้ามากอดเพื่อเพิ่มความลึกซึ้งในการจูบครั้งนี้
แกร็ก
เสียงเปิดประตูดังขึ้น หลินซินเหยียนรีบผลักเขาออก จงจิ่งห้าวปล่อยเธอออกไปตามแรง
จงฉีเฟิงกับเฉิงยู่ซิ่วเดินตามกันเข้ามา พอเห็นจงจิ่งห้าวที่แต่งตัวเป็นระเบียบ จงฉีเฟิงจึงได้ถามไปว่า “จะออกไปข้างนอกเหรอ”
“ไปบริษัทครับ” จงจิ่งห้าวตอบไปอย่างง่ายๆ
จงฉีเฟิงเข้าใจ และไม่ได้พูดอะไร ยังไงเขาก็ไม่ได้ยุ่งกับเรื่องในบริษัทตั้งนานแล้ว ความสามารถของจงจิ่งห้าวนั้นไม่จำเป็นต้องให้เขาต้องพูดอะไรมากเลย
หลินซินเหยียนกางเสื้อโค้ทออก สองมือของจงจิ่งห้าวสอดเข้าไปในแขนเสื้อ กระตุกหัวไหล่ เสื้อโค้ทก็ถูกสวมเข้ามาบนร่างกายอย่างเป็นระเบียบ เสื้อโค้ทขนแกะอย่างดี ไม่มีรอยยับเลยแม้แต่นิดเดียว ทำให้บรรยากาศของเขาดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร
หลินซินเหยียนส่งเขาออกจากบ้าน
ด้านนอกหนาว จงจิ่งห้าวบอกให้เธอเข้าไป
พอเห็นรถขับออกจากลานหน้าบ้านไปแล้ว หลินซินเหยียนก็ปิดประตูเข้าบ้าน
“พวกเธอไปบ้านตระกูลเหวินมาเหรอ?” ทันทีที่หลินซินเหยียนหันหลังกลับ ก็เห็นเฉิงยู่ซิ่วที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอเข้า
เธอตอบไปตามตรง “ใช่ค่ะ”
“เขาไม่ได้ทำอะไรเธอใช่มั้ย?”
“ไม่ค่ะ เขาไม่รู้ว่าเป็นฉัน จิ่งห้าวรับแทนไป ฉันคิดว่า เขาไม่น่าจะรู้ในเร็วๆ นี้แน่นอนค่ะ” ถ้าไม่รู้ ก็จะไม่ทำอะไร
สมมติถ้าเขารู้เข้า เห็นแก่ที่เธอเป็นภรรยาของจงจิ่งห้าว เธอคิดว่า เหวินชิงก็ไม่น่าจะโหดร้ายเหมือนเมื่อก่อนแน่นอน
เธอดูออก ว่าเขาแคร์จงจิ่งห้าวเอามากๆ
ส่วนเรื่องแซ่ที่เด็กสองคนใช้ เหวินชิงไม่ได้ติดใจที่ไม่ได้ใช้แซ่ตามตระกูลจง แต่เป็นเพราะไม่ใช้แซ่ตามจงจิ่งห้าวต่างหาก
ตั้งแต่ที่จงฉีเฟิงแต่งานกับเฉิงยู่ซิ่ว เขาก็ไม่ได้รู้สึกผูกพันอะไรกับอดีตน้องเขยคนนี้แล้วมั้ง
เฉิงยู่ซิ่วแอบโล่งอกลง“แบบนั้นก็ดีแล้ว”
เธอกลัวว่าจะทำให้หลินซินเหยียนต้องลำบากมาก
เฉิงยู่ซิ่วกวักมือให้หลินซินเหยียน บอกให้เธอไปนั่งที่โซฟา
ให้คนรับใช้ยกชาร้อนๆ มาสองแก้ว
“วันนี้เราไปที่หลุมศพของเหวินเสียน” พวกเขาจะไปที่นั่นทุกปี “ตอนแรกฉันก็อยากชวนเธอไปด้วย แต่มีเด็กสองคน ฉันจึงไม่ได้ชวน”
ไม่ว่ายังไง เหวินเสียนก็ช่วยเธอดูแลจงจิ่งห้าวมานานกว่าหกปี ถึงเหวินชิงจะทำกับเธอเกินไปจริงๆ แต่เหวินเสียนก็ไม่ได้ทำอะไรที่ผิดต่อเธอเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม