หลินซินเหยียนหน้าแดงไปทั้งหน้า
ถ้าหากหลินซินเหยียนยินยอม เธอก็แย่งตำแหน่งของจงจิ่งห้าวได้จริงๆ ยังไงเสีย ในมือเธอก็มีหุ้นอยู่50%
เฉิงยู่ซิ่วก็เตรียมของขวัญไว้ให้เด็กทั้งสองเหมือนกัน แตกต่างกับของจงฉีเฟิง ไม่ใช่เงินทอง แต่เป็นของแสดงน้ำใจ
เธอไปขอเครื่องรางนำโชคถึงวัดหัวหนานด้วยตัวเอง หวังว่าเด็กทั้งสองคนจะอยู่ดีมีสุข ไม่เจ็บไม่ป่วย เติบโตอย่างแข็งแรงสมบูรณ์
เฉิงยู่ซิ่วคล้องที่คอของพวกเขาด้วยตนเอง ถุงนำโชคทำจากผ้าไหมสีเหลือง ลวดลายที่ปักด้านบน น่าจะเป็นลวดลายเกี่ยวกับพุทธศาสนา
นี่ไม่ใช่การงมงาย แต่เป็นของทางใจชิ้นหนึ่ง
ใช้เชือกแดงคล้องไว้ เด็กทั้งสองคนรู้สึกดีใจ
“วันนี้เป็นวันสิ้นปี ฉันเองก็จะมามือเปล่าไม่ได้”เสิ่นเผยซวนเองก็เตรียมของขวัญให้เด็กสองคนเหมือนกัน จี้หยกเหอเถียน “ฉันเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องหยก แต่ว่าได้ยินมาว่า ห้อยสิ่งนี้ไว้ถือว่าไม่เลว ตอนที่ฉันซื้อหยก เจ้าของร้านบอกกับฉันว่า ผู้ชายสวมกวนอิม ผู้หญิงสวมพระ ฉันเองก็ไม่รู้ว่ามันหมายความว่าไง”
เขาเอากวนอิมให้แก่หลินซีเฉิน พระพุงโตให้แก่หลินลุ่ยซี เด็กหญิงน้อยเปิดกล่องกํามะหยี่สีแดงออก พระพุงโตที่อยู่ด้านใน แกะสลักคล้ายของจริงมาก ในมือกำลังถือลูกประคำ ฉีกยิ้มกว้าง รูปร่างน่าพอใจเป็นอย่างมาก
เด็กหญิงน้อยชอบมาก ใช้นิ้วมือลูบไปมา “ขอบคุณค่ะคุณอาเสิ่น หนูชอบมากเลย”
เสิ่นเผยซวนถอนหายใจ “ฉันก็กลัวว่าพวกเธอจะไม่ชอบซะอีก”
นี่คือการฉลองเทศกาล ของขวัญให้ราคาน้อยไปก็จะไม่เหมาะสม แพงมีค่ามากเกินไปเขาก็ให้ไม่ไหว แถมยังกลัวเด็กๆจะไม่ชอบอีก ตอนที่ซื้อจี้หยกคู่นี้มา ในใจเขาก็กังวลอยู่ตั้งนาน
กลัวว่าเด็กๆจะไม่ชอบ ให้ของขวัญต้องคำนึงถึงคนรับ แต่ว่าเขาจะให้พวกตุ๊กตาของเล่นพวกนั้นก็ไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็เป็นถึงวันสิ้นปี
หลินซีเฉินก็มีมารยาทมาก “ขอบคุณคุณอาเสิ่น ผมก็ชอบเหมือนกัน” เขาโตมาจากเมืองนอก ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องมารยาทชาวพุทธในประเทศเท่าไหร่ เขาพูดต่อจากคำพูดของเสิ่นเผยซวนเมื่อกี้นี้ “ผู้ชายสวมกวนอิม ผู้หญิงสวมพระ เพราะว่าเป็นผู้หญิงเลยต้องสวมผู้ชาย ผู้ชายก็เลยต้องสวมผู้หญิงใช่มั้ยครับ?”
พระเป็นผู้ชาย กวนอิมเป็นผู้หญิง เขาเข้าใจแบบนี้
บนโต๊ะเงียบไปชั่วขณะ
ทุกคนแทบจะคิดไม่ถึงว่าหลินซีเฉินจะถามประโยคนี้ออกมา
หลินซินเหยียนลูบหัวของลูกชาย “จะเข้าใจแบบนี้ไม่ได้นะ แล้วก็พูดแบบนี้ไม่ได้ด้วย แบบนี้มันเป็นการลบหลู่”
“ไม่เป็นไร เด็กไม่รู้ประสีประสาน่ะ”จงฉีเฟิงโบกมือยกหนึ่ง “กินข้าว”
เพราะว่ามีเสิ่นเผยซวนอยู่ จงจิ่งห้าวเลยดื่มกับเขาสองแก้ว ไม่เยอะ รวมตัวครั้งนี้จะไม่ดื่ม ก็ไม่มีสีสันน่ะสิ
ทั้งซ้ายทั้งขวาต่างก็มีคนขับรถอยู่ ต่อให้ดื่มจนไม่เป็นผู้เป็นคน ก็พากลับได้
ข้างนอกมีจุดพลุ เสียงดังตุ้มๆ
เด็กหญิงตัวเล็กรีบกินข้าวให้ไวขึ้น หลินซินเหยียนป้อนซุปให้เธอ เด็กหญิงก็ยกถ้วยขึ้นแล้วดื่ม หลินซินเหยียนคิ้วขมวด “ช้าๆหน่อยลูก รีบอะไรขนาดนั้น?”
“หนูอยากจุดดอกไม้ไฟนี่คะ”เด็กหญิงน้อยอยากรีบกินให้เสร็จ ไม่แม้แต่เงยหน้าขึ้นมาตอบเธอ
หลินซินเหยียนลูบผมของเธอ “ถ้างั้นก็ไม่ต้องรีบขนาดนี้หรอก เรามีกันตั้งหลายคนนะ ลูกกินเสร็จแล้วคนเดียว ก็ไปจุดคนเดียวไม่ได้อยู่ดี ถูกมั้ย?”
เด็กหญิงคิดอยู่สักพัก เป็นแบบนั้นจริงๆด้วย เธอไปจุดคนเดียวก็ไม่สนุก ต้องไปเล่นด้วยกันทุกคนถึงจะสนุก
เธอไหลตัวลงจากเก้าอี้ แล้วเร่งทีละคน “รีบกิน รีบกินหน่อยค่ะ หนูอยากจุดดอกไม้ไฟ ช่วยรีบกินกันหน่อยค่ะ อย่าให้หนูรอนานนะคะ”
เสิ่นเผยซวนยิ้มขำ “อาหารเยอะขนาดนี้ ฉันกินอย่างละคำ คงจะใช้เวลาประมาณ20นาทีนะ”
เด็กหญิงน้อยกะพริบตาปริบๆ“ถ้างั้นคุณอาก็กินปลาจานที่อยู่ตรงหน้านี้สิคะ”
เสิ่นเผยซวน “…”
“ไม่ได้”เขาคีบซาลาเปาปูชิ้นหนึ่ง “ฉันต้องกินให้อิ่ม อีกอย่างฉันไม่ชอบกินปลา”
เด็กหญิงน้อยกะพริบตา “คุณอากินเยอะเกินไป จะอ้วนเอานะ คนอ้วนหาแฟนไม่ได้นะคะ ดูคุณอาซูสิคะ คู่กับคุณน้าฉินยาไปแล้ว คุณอาคู่กับใครคะ? ใครอยากจะคู่กับคนอ้วนละคะ?”
บนโต๊ะอาหารเงียบไปชั่วขณะ หลังจากนั้น หัวเราะกันยกใหญ่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม