ครั้งนี้เป็นจงจิ่งห้าวที่ตกตะลึง เขามองหลินซินเหยียน
ไม่รอให้จงจิ่งห้าวถาม เธอยิ้มพร้อมพูดว่า “อยากจะถามว่าทำไมฉันเข้าใจมันดีขนาดนี้ใช่มั้ยล่ะ? จริงๆแล้ว งานประมูลครั้งนั้น ฉันก็ไปด้วย”
เธอไม่ได้ไปซื้อสินค้า แค่อยากไปเปิดหูเปิดตาสักหน่อย นี่เป็นของประมูลชิ้นสุดท้ายของงานประมูลวันนั้น
เป็นดีไซเนอร์คนหนึ่ง เธอต้องการแรงบันดาลใจมากมาย แล้วก็ต้องการเก็บเกี่ยวประสบการณ์
จงจิ่งห้าวครุ่นคิด 3ปีก่อนในงานประมูลจิวเวลรี่แห่งศตวรรษ ตอนจบงานแยกย้ายกันกลับ เขาเห็นเงาร่างที่เหมือนเธอมากคนหนึ่ง ตอนที่เขากำลังวิ่งตามไป คนก็หายไปแล้ว ตอนนั้นคนพลุกพล่านมาก เขาไม่สามารถตามหาได้ เลยให้กวนจิ้งไปขอดูกล้องวงจรปิด แต่ว่าก็บังเอิญแบบไม่น่าเชื่อ วันนั้นกล้องวงจรปิดเกิดเหตุขัดข้อง
นั่นหมายความว่า วันนั้นเขาไม่ได้ตาฝาด เงาคนนั้นก็คือเธอ!
หลินซินเหยียนนึกขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน หลินซินเหยียนจ้องจงจิ่งห้าวตาค้าง “เป็นคุณที่ซื้อมันมาหรอ?”
เธอยิ้ม เธอลืมไปได้ยังไง ว่าจงจิ่งห้าวเป็นนักธุรกิจ
ตั้งแต่ปี1947เดอร์เบียร์สได้ออกโฆษณาเพชรว่า ‘เพชรเป็นนิรันดร์ หนึ่งเดียวคงอยู่สืบต่อไป’ เพชรก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของ‘ความรัก’
แต่งงานต้องมีแหวนเพชร แสดงถึงฉันรักคุณ ‘เพชรเป็นนิรันดร์ หนึ่งเดียวคงอยู่สืบต่อไป’ ซึ่งมีความหมายว่าการแต่งงานของคนสองคนจะคงอยู่ตลอดไป
รักฉันต้องซื้อเพชรให้ฉัน เพื่อพิสูจน์ว่าความรักของคุณแข็งแกร่งกว่าเพชร ก้อนหินก้อนหนึ่ง หลังถูกมอบหมายให้เป็นคุณค่าของ‘ความรัก’ มันก็กลายเป็นสิ่งล้ำค่า และยังนำความร่ำรวยมหาศาลมาสู่ผู้ที่ค้าขายมันอีกด้วย
หลินซินเหยียนลูบไข่นกพิราบที่อยู่ในกล่องกำมะหยี่ เบ้ปาก “ไม่เจ้าเล่ห์ไม่ใช่พ่อค้า”
เธอไม่ค่อยรู้จักธุรกิจของว่านเซิ่งกรุ๊ปเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าจงจิ่งห้าวเปิดธุรกิจไว้มากขนาดไหน
“คุณพูดถึงผมหรอ?”เขากอดเอวเธอไว้จากด้านหลัง “สวมดูสิ”
หลินซินเหยียนปฏิเสธ “ฉันกลัวถูกปล้น”
ของสิ่งนี้สวมไว้บนมือมันสะดุดตาเกินไป อีกอย่าง ไข่นกพิราบแบบนี้ไม่เหมาะกับนิ้วเรียวเล็กของเธอสักนิด
“หืม?”เขาเปล่งเสียงออกมาจากในทรวงอก กระชับวงแขน แผ่นหลังของเธอถูกเบียดจนชิดติดอกของเขา เธอรู้สึกได้ถึงเสียงหัวใจเต้นแรงของเขาอย่างชัดเจน
จงจิ่งห้าวหยิบแหวนวงนั้นออกมาจากกล่องกำมะหยี่ สวมเข้าที่นิ้วของเธอ เพชรใหญ่มาก นิ้วมือของหลินซินเหยียนเรียวเล็กเกินไป แหวนใหญ่ไปหน่อย เขาถอดออกแล้วสวมเข้าที่นิ้วกลางของเธอ ยังคงใหญ่ไปหน่อย สุดท้ายสวมเข้าที่นิ้วชี้ของเธอ พอจะสวมไว้ได้อยู่ เขาคิ้วขมวด “นิ้วของคุณทำไมเล็กขนาดนี้?”
หลินซินเหยียนหัวเราะ “ไม่ใช่นิ้วของฉันเล็กซะหน่อย แหวนวงนี้ไม่เหมาะกับฉันต่างหาก”
จงจิ่งห้าวนิ่งขรึมไปสักพัก แล้วเอ่ยขึ้น “งั้นผมจะหาช่างฝีมือ ทำเป็นสร้อยคอ?”
หลินซินเหยียน “…”
“ฉันไม่เอาด้วยหรอก” สิ่งนี้ทำเป็นอะไรก็สะดุดตาทั้งนั้น
เธอเองก็ซื้อเครื่องประดับอยู่บ้าง เป็นแบบอันเล็กๆประณีต เธอยังเข้าร่วมงานปาร์ตี้แฟชั่นมาไม่น้อย เป็นดีไซเนอร์คนหนึ่ง ค่อนข้างจะเซนซิทีฟต่อแฟชั่นสูงมาก
เขางับเข้าที่คอของเธอ ถามเสียงอู้อี้ “ไม่เอาอะไร?”
หัวใจของหลินซินเหยียนสั่นไหว เธอกัดริมฝีปาก “ไม่เอาอะไรทั้งนั้นแหละ”
จงจิ่งห้าวนิ่งไปสักพัก แล้วกัดแรงขึ้นราวกับเพื่อเป็นการลงโทษ หลินซินเหยียนรู้สึกเจ็บ เลยร้องฮึ่ยออกมา
เมื่อวานเพราะเธออ้างว่าปวดเอว เขาเลยไม่ได้ทำอะไรเธอ วันนั้นที่เป็นรอยเขาเป็นคนทำจริงๆ แต่ว่าหนึ่งวันหนึ่งครั้ง เธอเป็นคนรับปากเอง
เขาแสยะยิ้มอยู่ในผมยาวของเธอ “วันนี้ต้องสองรอบ ชดเชยของเมื่อวาน”
“จงจิ่ง… ฮึ”
เธอยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกเขาจับเอวแล้วหมุนพลิกตัว กดลงบนเตียง
จงจิ่งห้าวคว้าที่ชายเสื้อของเธอ แล้วดึงขึ้น ตั้งใจจะถอดมันออก “ต่อไปอย่าใส่เสื้อผ้าแบบนี้อีก”
ถอดยาก
สวมแบบกระดุมดีที่สุด ถอดง่ายหน่อย
หลินซินเหยียนหายใจเร็วขึ้น ตื่นเต้นจนสองมือกำผ้าปูเตียงใต้ร่างไว้แน่น
เห็นใบหน้าที่แดงก่ำตื่นเต้นของเธอ จงจิ่งห้าวก็เชยคางเธอขึ้น มองหน้าเธอซ้ายขวาอย่างละเอียด ยิ้มตาหยี ผ่านไปสักพัก ทำเป็นรังเกียจแล้วพูดขึ้นอย่างหยอกล้อ “ทำไมหน้าตาขี้เหร่อย่างนี้?”
หลินซินเหยียนจ้องเขา “ฉันขี้เหร่ตรงไหน ขี้เหร่คุณก็ยัง…”นอนกับฉัน คำหลังเธอไม่กล้าที่จะพูดออกมา
เขาทำท่าคุณชายใหญ่บรรพบุรุษรุ่นที่แปด “ทำไงได้ เปลี่ยนไม่ได้แล้วนิ ก็ต้องแก้ขัดไปก่อน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม