สองวันก่อนเธอไปที่ดื่มเหล้าคนเดียวที่ผับ แล้วเจอกับหลินหยู่หานที่นั่น
โต๊ะของทั้งสองอยู่ข้างๆกัน ตอนนั้นหลินหยู่หานก็ดื่มไปเยอะพอสมควรแล้ว เพราะเห็นว่าจงจิ่งห้าวไม่ได้พิการ และพลาดโอกาสที่จะแต่งงานเข้าตระกูลจง
ไป๋จวู่เวยเลยทำทีเข้าไปตีสนิทด้วย ละได้รู้มาจากเธอว่า นางก็เป็นคนของตระกูลหลินเหมือนกัน และเกลียดหลินซินเหยียนเช่นกัน
ไป๋จวู่เวยอยู่กับจงจิ่งห้าวทุกวัน ถ้าเธอลงมือจัดการกับหลินซินเหยียนเองกับมือละก็ ต้องโดนจับได้แน่ๆ
ดังนั้นในตอนนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะใช้หลินหยู่หานเป็นเครื่องมือ
ถึงแม้หลินหยู่หานนั้นได้มีหน้าตาเหมือนกับเสิ่นซิ่วฉิง แต่กลับไม่มีสมอง สภาพจิตใจของเด็กอายุสิบเจ็ดนั้นไม่ได้โตขนาดนั้น
ไป๋จวู่เวยนั้นก้าวเข้ามาในสังคมก่อนแล้ว ยิ่งอยู่กับจงจิ่งห้าว การพูดนั้นก็ถือว่าไม่เลว
เธอบอกกับหลินหยู่หานว่าตัวเธอนั้นได้ทำงานอยู่ในว่านเซิ่งกรุ๊ป สามารถที่จะช่วยเธอจัดการกับหลินซินเหยียนได้
หลินหยู่หานที่ได้ยินคำพูดโน้มน้าวของไป๋จวู่เวยแล้วก็ตกลงช่วยกัน
และในตอนนี้ที่หลินหยู่หานกลับไปแล้ว ก็ไปพูดความเห็นของตัวเองกับเสิ่นซิ่วฉิง
เสิ่นซิ่วฉิงก็กลัวว่าหลินซินเหยียนจะใช้อำนาจมาล้างแค้นเหมือนกัน
แปดปีก่อน เธอได้ตั้งครรภ์เด็กชายตัวเล็กๆเลยได้ขึ้นมายังตำแหน่ง แล้วเพราะเด็กคนนี้ทำให้เธอนั้นถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้หลินกั๋วอันส่งสองแม่ลูกนั้นออกไป
ฉะนั้นหลินหยู่หานที่เสนอขึ้น เสิ่นซิ่วฉิงก็ตอบตกลงทันที
ทั้งสองได้จ้างผู้ชายคนหนึ่ง วางแผนเอาตัว หลินซินเหยียนไปที่ที่ไม่มีคน ข่มขืนเธอแล้วถ่ายรูปไว้ ทำลายเธอ ให้จงจิ่งห้าวนั้นเกลียดเธอ
แต่คิดไม่ถึงว่าเธอนั้นหนีพ้นไปเสียได้
หลินหยู่หานที่ได้รับสายจากไป๋จวู่เวยก็วิ่งลงตึก อยากที่จะคุยกับเสิ่นซิ่วฉิงว่าขั้นต่อไปจะทำอย่างไรกับหลินซินเหยียน แต่กลับพบว่าบรรยากาศในห้องรับแขกนั้นตึงเครียดไปหมด
สีหน้าของหลินกั๋วอันและเสิ่นซิ่วฉิงนั้นไม่ค่อยดีนัก
เธอเดินเข้ามา นั่งลงข้างๆเสิ่นซิ่วฉิง ควงแขนเธอไว้ “แม่คะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
เสิ่นซิ่วฉิงเรียบตึง ไม่พูดอะไร
สีหน้าของหลินกั๋วอันนั้นก็เรียบตึงเช่นกัน เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ผมก็ไม่ได้ให้คุณทำอะไร แค่ให้คุณขอโทษนาง ให้นางนั้นไม่ถือสากับเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา ตอนนี้บริษัทกำลังประสบปัญหา ต้องการความช่วยเหลือจากนาง!”
พูดให้ถูกก็คือต้องการความช่วยเหลือจากจงจิ่งห้าว
เหมือนว่าหลินซินเหยียนนั้นได้รับความชื่นชอบจากจงจิ่งห้าว เขาเลยต้องใช้หลินซินเหยียนเป็นตัวช่วย
วันนั้นที่ฟังน้ำเสียงของหลินซินเหยียนแล้ว รู้สึกว่าเธอนั้นยังคงถือเรื่องในตอนนั้นอยู่
หลินกั๋วอันยังคงมีความรู้สึกกับเสิ่นซิ่วฉิง ถ้าไม่ถึงขั้นบานปลายก็ไม่ได้คิดที่จะหย่ากับเธอ
“พ่อคะ พ่อจะให้แม่ขอโทษใครเหรอคะ?” หลินหยู่หานงงไปหมด
“ลูกก็ด้วย เหยียนเหยียนเป็นพี่สาวของลูก หลังจากนี้ก็ดีกับนางหน่อย” หลินกั๋วอันมองไปที่เสิ่นซิ่วฉิง “คุณคิดให้ดีๆละกัน ฉันจะโทรไปหานางเรียกมาทานข้าวเย็นด้วยกัน”
หลินหยู่หานนิ่งไม่ได้เหมือนเสิ่นซิ่วฉิง พอได้ยินว่าให้แม่ขอโทษหลินซินเหยียนก็ลุกพรวดขึ้นมาจากโซฟาทันที “พ่อคะ ทำไมแม่ต้องขอโทษเธอด้วยคะ?”
ตาของหลินกั๋วอันกระตุกทันที ลูกสาวที่ปกติจะทำตัวน่ารักเชื่อฟังนั้น ตอนนี้กลับเถียงกลับแบบนี้ทำให้เขาชะงักไปเล็กน้อย
“ฉันเป็นพ่อของแก มันสมควรแล้วเหรอที่ลูกพูดแบบนี้กับพ่อน่ะ?” เธอทำให้หลินกั๋วอันโกรธจนได้ “ฉันจะบอกอะไรให้นะ ถ้าคุณยอมพูดขอโทษโดยดี เราก็จะพูดกันง่ายหน่อย ถ้าไม่ยอมพูดละก็ งั้นเราก็หย่ากันซะ! ”
ถ้าให้เลือกระหว่างผู้หญิงกับบริษัท เขาเลือกบริษัทอยู่แล้ว
ถ้ามีฐานะในสังคม อยากได้ผู้หญิงแบบไหนที่จะไม่มี?
ไม่มีเงิน ไม่มีฐานะในสังคม แบบนั้นแหละที่เรียกว่าไม่มีอะไรเลย!
“พ่อคะ——”
“หานหาน!” เสิ่นซิ่วฉิงพูดขัดลูกสาวตัวเองขึ้นมา เรื่องนี้แสดงให้เห็นชัดแล้วว่าหลินกั๋วอันเลือกบริษัท ยังไว้หน้าเธอที่ไหนกัน?
ถ้าเขาจริงจังขึ้นมาก็คงจะหย่ากับเธอจริงๆ
เขาก็เคยเป็นสามีภรรยากับจวงจื่อจิ่นมาตั้งหลายปี ยังบอกว่าหย่าก็หย่าเลย
หลินหยู่หานโกรธจนกระทืบเท้าลงพื้น“ทำไมล่ะคะพ่อ? หลินซินเหยียนมันคือใครกัน ทำไมต้องขอโทษเธอด้วย?!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม