ห้องทำงานของจงจิ่งห้าวนั้นมีความทันสมัยเป็นอย่างมาก ห้องกว้างสะอาดตา ออกแบบเรียบง่าย เป็นสีโทนเดียว ให้ความรู้สึกใจเย็นและน่าเกรงขาม ด้านข้างเป็นกระจกบานใหญ่ แสงสว่างในห้องดีมาก
ยืนอยู่ตรงนั้น สามารถที่จะมองเห็นทิวทัศน์ทั่วเมืองได้
จงจิ่งห้าวกำลังอ่านเอกสารอยู่ ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง
หลินซินเหยียนถือเอกสารเดินไปตรงหน้า แล้วยื่นออกไป
จงจิ่งห้าวไม่ได้รับ แต่เป็นการพูดบอกให้ว่า “วางบนโต๊ะ”
หลินซินเหยียนวางเอกสารลง อ้าปากที่จะพูดหลายครั้งแต่ก็คิดคำพูดไม่ออก
แบบนี้มันจะเริ่มยังไงดี?
พูดว่า คุณจงนายสามารถกลับบ้านกับฉันหน่อยได้ไหม?
แค่คิดหลินซินเหยียนก็รู้เลยว่าต้องถูกปฏิเสธแน่ๆ
จงจิ่งห้าวคิดว่าเป็นไป๋จวู่เวย “มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
เขาพลิกกระดาษไปอีกหนึ่งหน้า ยังคงไม่ละสายตาจากเอกสาร
“ฉันมีเรื่องอยากให้คุณจงช่วย” หลินซินเหยียนกลั้นหายใจพูดออกไป
เหมือนว่าเสียงที่ได้ยินนั้นไม่ใช่ไป๋จวู่เวยเขาเลยเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นหลินซินเหยียนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
หลินซินเหยียนส่งยิ้มไปให้ทันที“คุณจง”
วินาทีที่เห็นเธอนั้น ดวงตาของเขาแวบผ่านความชอบใจขึ้น แต่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว
เหมือนว่าการที่เธอมายืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขาเป็นเรื่องเหนือการคาดหมายมาก
จงจิ่งห้าวปิดเอกสารที่ดูอยู่ลง นั่งเอนตัวไปพิงเก้าอี้ สายตาจึงตกไปอยู่ที่ตัวของเธอ การมองพิจารณาที่ไม่คิดจะเก็บสักนิด ใบหน้า ลำคอ หน้าอก เอวบางของเธอ ทุกที่ทุกตารางนิ้ว เขาไม่คิดจะพลาดเลยสักนิด
“มาหาผมมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
หลินซินเหยียนหลบสายตาหยอกล้อของเขา“คุณจง คุณรู้หรือเปล่าว่าเพราะคุณทำให้ฉันต้องลำบากขนาดไหน?”
“หืม?” จงจิ่งห้าวแปลกใจไม่น้อย
หลินซินเหยียนกำมือตัวเอง พูดอย่างใจเย็นว่า“ไป๋จวู่เวยหาเรื่องฉันในบริษัท เรื่องนี้คงไม่ต้องให้ฉันพูด คิดว่าคุณจงคงรู้แล้ว มีอีกอย่างคือ เมื่อวานฉันเกือบโดนคนลอบทำร้าย ก็เพราะแต่งงานกับนาย เพราะฉะนั้นแล้ว เพื่อความปลอดภัยของฉัน คุณจงกลับบ้านพร้อมฉันได้หรือไม่?”
จงจิ่งห้าวใช้มือข้างหนึ่งค้ำหน้าผากไว้ แล้วใช้นิ้วกดตรงขมับตัวเอง เหมือนว่าเขานั้นจะล้ามากแล้ว ไม่ยอมส่งเสียง
หลินซินเหยียนที่ยืนอยู่นั้นก็ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าเขานั้นหมายความว่าอย่างไร
ผ่านไปสักพัก เขาก็ลืมตาขึ้น“เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ?”
“นายกลับตระกูลหลินพร้อมกับฉันหน่อยได้ไหม” หลินซินเหยียนพูดอีกครั้ง
เสียงของเขาต่ำและนุ่มนวล“อ่อ”
ได้หรือไม่ก็ตอบหน่อยสิ
ในใจของหลินซินเหยียนทรมานไม่น้อย
อยากถาม แต่ก็รู้สึกว่าไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ คิดไปคิดมาแล้ว สายตาของเธอก็ตกไปอยู่ที่เขาที่กำลังกดนวดตรงขมับของตัวเอง
ในใจก็คิดว่าตอนนี้เธอมาขอความช่วยเหลือหลินซินเหยียนใจกล้าเดินอ้อมโต๊ะทำงานเข้าไป พูดด้วยท่าทีทำตัวไม่ถูกว่า “ให้ฉันช่วยนวดนะ”
เขาเก็บมือ แล้วหลับตาลง เหมือนว่าอนุญาตแล้ว
หลินซินเหยียนไม่มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน เลยลองที่จะกดที่ขมับเขาดู
ในตอนที่ผิวทั้งสองได้สัมผัสกันนั้น ทำให้กล้ามเนื้อของเขาตึงขึ้นมาในทันที
หลินซินเหยียนคิดว่าเขาไม่สบาย เลยผ่อนแรงลง“แบบนี้พอได้หรือเปล่า?”
เขาตอบรับด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
หลินซินเหยียนใช้แรงแบบนี้นวดขมับทั้งสองข้างให้เขา กล้ามเนื้อของเขาแน่นไปทุกส่วน มีความยืดหยุ่น ตรงมุมที่เธอยืนอยู่นั้น มองลงไป โครงหน้าด้านข้างของเขาไปถึงจนคอ ลูกกระเดือกที่นูนออกมา ทำให้ดูเซ็กซี่เป็นอย่างมาก
หลินซินเหยียนไม่กล้ามองอีก หลบสายตาไปที่อื่น ลองถามขึ้นว่า“ที่ให้นายไปตระกูลหลินกับฉันเนี่ยไม่ได้มีความหมายอะไรทั้งนั้น แค่ไปทานข้าวธรรมดา ”
เขามองด้วยสายตาที่ไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูด น้ำเสียงนั้นมีความหยอกเล่นปนอยู่ “ใช่เหรอ?”
ใจหลินซินเหยียนกระตุก นี่คิดจะปิดบังเขาไม่ได้จริงๆ
พูดตามความจริง“ฉันก็แค่อยากให้หลินกั๋วอันเห็นว่านายนั้นที่จริงก็ชอบฉันอยู่ ในมือของเขามีของของฉัน ฉันอยากได้คืนมา ฉะนั้นแล้ว คุณจง ตอบตกลงได้ไหม?”
หลินซินเหยียนกลัวว่าเขานั้นจะปฏิเสธ ก็พูดขึ้นอีกว่า “คุณจง วันนี้ฉันเกือบโดนน้ำร้อนสาดใส่ ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงของนายเห็นว่าฉันมีค่าขนาดนั้น ฉันก็คงไม่เจออะไรแบบนี้หรอกใช่ไหม?”
เธอหยุดไปสักพักก็พูดต่อว่า“เอกสารครั้งที่แล้วที่ฉันแปลให้ที่บ้าน ถึงจะคุยเรื่องราคากันแล้ว แต่นายก็ยังไม่ได้เอาเงินให้ฉันเลย นั่นฉันใช้เวลาทั้งคืนเลยนะ ตอนนี้ฉันไม่เอาแล้ว ขอแค่คุณจงช่วยฉัน”
ในที่สุดเขาก็ลืมตาขึ้น“เธอพูดขนาดนี้แล้ว ผมก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธแล้วล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม