นิ้วมือของจงจิ่งห้าวที่จับพวงมาลัยรถอยู่นั้นขยับเล็กน้อย เหลือบตามองเธอแล้วพูดว่า“ก็พอใช้ได้”
หลินซินเหยียนผ่อยคลายลงไม่พูดอะไรอีก
ทั้งสองไม่มีบทสนทนากันเลย
บรรยากาศในรถเงียบสงบ
สายตาของหลินซินเหยียนนั้นไปหยุดอยู่ที่มือที่จับพวงมาลัยของเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ นิ้วมือเขานั้นเรียวยาว สัดส่วนข้อนิ้วชัดเจน เล็บมือตัดอย่างสะอาดเรียบร้อย ดูดีน่ามองเป็นอย่างมาก
ทำให้คนที่มองนั้นสามารถที่จะจดจำได้เหมือนกับเจ้าตัวเลย
“สวยไหม?” เขาพูดโดยที่ไม่หันมามอง
ตอนนี้หลินซินเหยียนถึงจะรู้ตัวว่าเมื่อสักครู่เธอมองตาค้างไปแล้ว จึงรีบหันออกไปมองนอกหน้าต่าง ทำเป็นไม่ได้ยิน
จงจิ่งห้าวหันไปมองเธอ มุมปากยกยิ้มบางๆ “ใบหน้าของผมดูดีกว่านิ้วมือใช่ไหม?”
หลินซินเหยียนยังคงทำเป็นไม่ได้ยิน เลยหลับตาทำเป็นว่านอนซะเลย
ในใจก็อดที่จะบ่นขึ้นมา ไหนละสง่าสุขุมที่ว่า?
ทำไมตอนนี้ถึงเหมือนเป็นคนขี้อวยตัวเองขนาดนี้?
ผ่านไปประมาณยี่สิบนาที รถคันหรูก็จอดที่หน้าตระกูลหลินแล้ว
หลินกั๋วอันกลับมานานแล้ว เสิ่นซิ่วฉิงเตรียมอาหารเย็นอย่างหรูหราน่าทาน หลินกั๋วอันพอใจเป็นอย่างมาก ความโกรธเคืองก่อนหน้าก็หายไปหมด
“คุณหนูกลับมาแล้วค่ะ” คนใช้เดินเข้ามาแจ้ง
หลินกั๋วอันมองไปที่เสิ่นซิ่วฉิงและหลินหยู่หาน พูดเตือนว่า “เรื่องครั้งนี้สำคัญกับผมมาก อย่าทำให้เสียงานก็แล้วกัน!”
เสิ่นซิ่วฉิงเก็บความโกรธไว้ ส่งยิ้มให้เขาแล้วจัดชุดสูทให้“คุณวางใจเถอะค่ะ ตีมาฉันไม่ตีกลับ ด่ามาฉันก็จะไม่ด่ากลับ ก็คือจะทำให้นางนั้นหายโกรธ ให้นางช่วยบริษัทของเราผ่านช่วงวิกฤต เรื่องทางบริษัทฉันช่วยอะไรคุณไม่ได้ เรื่องแค่นี้ฉันก็ยังพอทำให้คุณได้อยู่”
หลินกั๋วอันรู้สึกไม่เสียแรงที่รักเธอ “รอจัดการเรื่องของบริษัทได้แล้วผมจะทดแทนให้คุณเอง”
พูดจบหลินกั๋วอันก็เดินออกไปต้อนรับพวกเขาด้วยตัวเอง
หลินซินเหยียนยืนอยู่ข้างๆจงจิ่งห้าว ในมือก็ถือเอกสารสัญญาที่ดินอ่าวรีพัลส์เบย์ที่อยู่ตรงอ่าวรีพัลส์เบย์
จงจิ่งห้าวมองไปที่เธอแล้วยกแขนขึ้นมา “ควงแขนผมไว้”
หลินซินเหยียนยกมือขึ้นควง แล้วก้าวเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกัน
“ผมกำลังรออยู่เลย เข้ามาเร็วเข้า” หลินกั๋วอันเดินเข้ามาผายมือเป็นการบอกให้เชิญเข้าไป
ณ ตอนนี้ไม่มีการถือตัวแม้แต่น้อย เหมือนคนต่ำต้อยที่เข้าประจบประแจงเอาใจ
กับหลินกั๋วอันแล้วจงจิ่งห้าวไม่เคยรู้สึกดีด้วยเลย มุมปากของเขาเบ้เล็กน้อย ให้ความรู้สึกเยือกเย็นไปหมด เขาเพียงพยักหน้าตอบ
หลินกั๋วอันหน้าตึง เดิมเขาคิดว่าตัวเองเป็นถึงคุณพ่อของหลินซินเหยียน เป็นพ่อตาของเขา อย่างน้อยก็คงไว้หน้ากันหน่อย ใครจะคิด ว่าจงจิ่งห้าวนั้นไม่ไว้หน้าเขาเลยสักนิด
สีหน้าเขาถึงกับเอาไม่อยู่!
หลินซินเหยียนยิ้มตอบว่า “เขาก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ”
สีหน้าของหลินกั๋วอันถึงจะดีขึ้นมาบ้าง “รีบเข้ามาเถอะ”
เสิ่นซิ่วฉิงในวันนี้รับเป็นศรีภรรยาที่ดี กำลังวุ่นอยู่กับการจัดโต๊ะทานข้าว พอเห็นพวกเขาเดินเข้ามาก็ส่งยิ้มที่แสนฝืนใจออกไป“กลับมากันแล้วเหรอคะ มานั่งทานข้าวกันเร็ว เหยียนเหยียนลูกรู้ไหมว่าตอนที่พ่อบอกว่าลูกจะกลับมา ก็เรียกแม่เตรียมอาหารไว้รอเลย บอกว่าต้องหรูหรา ไม่รู้ว่าพวกเธอพอจะทานได้หรือเปล่า”
รอยยิ้มยังคงประดับอยู่บนใบหน้าของหลินซินเหยียน แสดงละคร ใครจะทำไม่เป็นกัน?
“หนูก็ไม่ได้เป็นคนนอก ไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้ก็ได้ค่ะ” พูดแล้วก็กระชับมือที่ควงแขนจงจิ่งห้าวไว้แน่นขึ้น
จงใจที่จะทำพวกเขาดู
เสิ่นซิ่วฉิงมองการแต่งตัวของหลินซินเหยียนก็รู้สึกหงุดหงิดใจ แต่สีหน้าของเธอก็ยังคงเต็มไปด้วยความเอ็นดู “ลูกพูดถูก”
หลินซินเหยียนเดินควงจงจิ่งห้าวไปนั่งลง ตรงข้ามเป็นเสิ่นซิ่วฉิงกับหลินหยู่หาน
วันนี้หลินหยู่หานใส่กระโปรงสีแดง ใบหน้าถูกแต่งอย่างสวยงาม อายุยังน้อยแต่กลับแต่งตัวเซ็กซี่เกินวัย
หลินซินเหยียนเหลือบมองเธอไม่ให้เธอนั้นรู้ตัว
ยิ้มเยาะในใจ นี่คือคิดจะอ่อยจงจิ่งห้าวเหรอ?
ดูสายตาของนางสิ เธอพูดขึ้นเล่นๆว่า “น้องมองหน้าพี่เขยตัวเองขนาดนั้นทำไมเหรอ? บนหน้าเขามีดอกไม้บานอยู่หรือไง?”
หางตาของจงจิ่งห้าวกระตุกเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้นี่มัน
ผู้หญิงที่แต่งหน้าแต่งตัวจัดจ้านนั้นเขาพบเห็นมาเยอะแล้ว ชุดสีแดงเหมือนกัน แต่ หลินซินเหยียนที่ไม่แต่งหน้าเลยนั้นสวยงามกว่า มองแล้วดูสบายตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม