หลินซินเหยียนไม่ได้พูดเจตนารมณ์ของหลี่จิ้งออกมาตรงๆ แต่แกล้งพูดว่า “คุณป้าบอกว่าคุณเป็นคนที่มีฐานะสูงส่ง ส่วนฉันไม่ใช่อะไรเลย เหมือนคุณป้ากำลังบอกฉันว่าฉันไม่เหมาะกับคุณ เพราะฉันไม่มีฐานะครอบครัวที่ร่ำรวย และไม่มีเงินทองที่นับไม่ถ้วน เราอยู่ด้วยกันไม่เหมาะสมกันเลย”
เธอคิดอยู่ในใจว่า ใช่ เธอไม่มีสิ่งเหล่านี้ ทั้งชีวิตนี้ก็ไม่สามารถครอบครองสิ่งเหล่านี้ สิ่งเดียวที่เธอสามารถทำได้ก็คือยืนอยู่ข้างกายเขา
ร่วมเดินหน้าถอยหลังด้วยกันร่วมทุกข์ยากด้วยกัน
จงจิ่งห้าวมองเธอแว๊บนึงแต่ไม่ได้พูดอะไรเลย แค่นั่งกลับมาที่เดิมแล้วสตาร์ทรถ
หลินซินเหยียนหันไปมองหน้าเขา “คุณไม่มีอะไรจะพูดเลยเหรอคะ?”
เขาเพ่งมองตรงหน้า แววตาลึกๆเกิดความสงสัย ถ้าก่อนหน้านั้นเขาแค่รู้สึกว่าเหวินชิงอาจจะมีเรื่องปิดบังเขา งั้นตอนนี้เขาสามารถแน่ใจได้แล้ว
ถ้าอยากเรียกเขากับหลินซินเหยียนทานข้าวจริงๆ แจ้งเขาคนเดียวก็พอแล้ว
หลี่จิ้งไม่จำเป็นต้องวิ่งมาที่ร้านเสื้อผ้าของหลินซินเหยียนเลย
อีกอย่าง ตั้งแต่เขาจำความได้ ทุกครั้งคนที่รับผิดชอบติดต่อเขาล้วนเป็นหลี่จิ้งถึงแม้เหวินชิงมีความสัมพันธ์สนิทสนมกับเขา แต่น้อยมากที่จะโทรศัพท์ติดต่อตัวเอง
ไม่ใช่เขาไม่ยอมติดต่อ แต่ว่าเวลานานเข้า เขาติดนิสัยชอบให้หลี่จิ้งทำแทน
แต่คราวนี้ เขาเป็นฝ่ายติดต่อกันสองครั้งรวด
นี่เพียงพออธิบายปัญหาได้แล้ว บวกกับอารมณ์ของหลินซินเหยียนผิดสังเกต จะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ
เรื่องนี้ หลินซินเหยียนก็คงรู้อยู่บ้าง ส่วนเธอรู้เท่าไหร่นั้นเขาก็ไม่ทราบเหมือนกัน
“ไม่มีใครสามารถก้าวก่ายเรื่องของผมได้”
เหวินชิงก็ไม่ได้!
เขาแสดงท่าทีของตัวเองออกมาอย่างชัดเจน ขอแค่เขาชอบ ไม่มีใครสามารถขัดขวางเขาได้!
หลินซินเหยียนเป็นฝ่ายใกล้เข้ามาซบที่ไหล่เขา “คุณเชื่อเรื่องโชคชะตามั้ยคะ?”
“ไม่เชื่อ” เขาเชื่อแค่ตัวเองเท่านั้น
หลินซินเหยียนเงยหน้ามองเขา และมองอย่างจริงจัง “แต่ฉันเชื่อค่ะ”
“คุณไม่รู้สึกว่าเรามีวาสนาต่อกันเหรอคะ?”
คืนที่จับพลัดจับผลูคืนนั้น เดิมทีนึกว่าชีวิตนี้จะไม่มีการคลุกคลีกันอีก แต่ไม่คิดมาก่อนเลยว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นคู่ครองที่ถูกหมั้นหมายกับตัวเองไว้ตั้งแต่เด็ก
เป็นวาสนาที่มหัศจรรย์มาก
จงจิ่งห้าวเว้นมือออกมาข้างนึงกอดเธอไว้ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เผยฟันที่ขาวสวยออกมา “ที่คุณพูดถูกหมดเลย”
หลินซินเหยียนจ้องเขาแว๊บนึง “นี่พูดจาลวกๆกับฉันเหรอ?”
จงจิ่งห้าวจับมือเธอมากดไว้ที่ทรวงอก พร้อมกับอมยิ้ม “ผมพูดจากใจจริงครับ ไม่มีอะไรต้องละอายใจ”
หลินซินเหยียนไม่พูดจาไร้สาระกับเขา ถ้าจะเถียงขึ้นมาจริงๆ เธอเถียงเขาไม่ไหวจริงๆด้วย
เวลาเขาไร้ยางอายขึ้นมา พอๆกับนักเลงเลย
ตอนนี้รถได้จอดลงที่ร้านอาหารที่เหวินชิงนัด
ร้านอาหารจีน
นิสัยของเหวินชิงค่อนข้างหัวโบราณ และไม่ชอบทานอาหารตะวันตก ร้านอาหารที่เขาเลือกส่วนมากจะเป็นร้านอาหารจีนทั้งหลายที่รสชาติค่อนข้างดีในเมืองB
ร้านอาหารร้านนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น เพื่อให้ลูกค้าได้ฟิวที่ไม่เหมือนกัน สไตล์การตกแต่งของร้านอาหารดูมีเอกลักษณ์มาก โครงสร้างของสไตล์จีน รายละเอียดของสมัยใหม่ พนักงานชายใส่สูทสีดำ ส่วนพนักงานหญิงใส่กี่เพ้า พนักงานชายหญิงยืนด้วยกัน ช่างสามัคคีปรองดองและเหมาะสมกันมาก
พวกเขาเดินมา พนักงานต้อนรับที่หน้าร้านได้เปิดประตูทันที พร้อมกับทำท่าทางเชิญ
หลังจากเข้ามาในร้าน พนักงานชายที่ใส่สูทผูกโบว์ได้เดินมา “ไม่ทราบได้นัดไว้หรือเปล่าครับ?”
จงจิ่งห้าวพยักหน้าเล็กน้อย “หาคุณเหวิน”
“เชิญมากับผมเลยครับ” พนักงานชายแค่ฟังก็รู้เลยว่านี่เป็นลูกค้าของห้องนั้น เขาได้เดินไปนำทางที่ข้างหน้าอย่างมีมารยาทและเคารพนอบน้อม
มาถึงหน้าห้องVIP เขายืนไปที่ข้างๆ “ห้องนี้เลยครับ”
หลินซินเหยียนจับแขนจงจิ่งห้าวไว้แน่น จะเผชิญหน้ากับเหวินชิง ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม