" คุณเฉินคุณนี่พูดจาน่าขันจริงๆ ความสัมพันธ์ของคนอื่น คนนอกจะไปรู้อะไร อีกอย่างคุณก็ไม่ใช่ซุนหงอคงเสียหน่อย ที่จะมีตาวงแหวนอะไรนั่น ตามหลักแล้วก็คงมองไม่ออกหรอกค่ะ อีกอย่างอาหารมื้อนี้คุณเฉินก็เป็นตัวหลักอยู่แล้ว "หลินซินเหยียนยิ้มอย่างนุ่มนวล ไม่ต้องเปลืองแรงอะไรมากมายก็สามารถทิ้งประเด็นหัวข้อสนทนาให้กลับมาได้
เฉินชือหานแสร้งยิ้มออกมาทั้งที่ในใจไม่ได้ยิ้มก่อนจะพูดว่า " ฉันจะเป็นตัวหลักได้ยังไงกันล่ะ ไม่ควรเป็นคุณหรอกเหรอ "
หลินซินเหยียนค่อยๆกลืนอาหารในปากยังไม่รีบร้อน ก่อนจะตอบกลับไปว่า " ฉันกับจิ่งห้าวเป็นสามีภรรยากัน ส่วนคนนี้คือคุณลุง พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน จะมีก็แต่คุณเฉินที่เป็นแขกไม่ใช่หรอกเหรอคะ "
ตอนนี้ใบหน้าของคุณเฉินแทบจะไม่มีรอยยิ้มผุดออกมา
หลินซินเหยียนทำเป็นมองไม่เห็น ก่อนจะพูดต่อ " ตั้งแต่โบราณ เขาว่าแขกนั้นเป็นใหญ่ โดยเฉพาะแขกที่เชิญมายังโต๊ะอาหาร คุณเฉินไม่ใช่ตัวหลักของวันนี้เหรอคะ "
จริงๆแล้วเธอไม่ใช่คนโหดร้ายใจดำขนาดนั้น แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนที่เริ่มยั่วยุเธอก่อน เธอก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้ง่ายๆ!
เพราะเธอรู้มาตั้งนานแล้วว่า ยิ่งอ่อนแอมากเท่าไหร่ คนอื่นก็จะอาศัยจุดด้อยของเธอรังแกเธอมากขึ้นเท่านั้น
ตั้งแต่เข้ามา เฉินชือหานเหมือนจงใจที่จะพูดอะไรบางอย่าง หวังที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างหล่อนกับจงจิ่งห้าว
เธอไม่รู้ว่าคำพูดของเฉินชือหานที่บอกว่าเคยเจอที่บาร์นั้นคือเมื่อไหร่
เพราะในขณะเดียวกันเธอก็ไม่แน่ใจแล้วรู้สึกไม่สบายใจแบบแปลกๆ
แต่ว่า เธอรู้ดี ถ้าแสดงจุดยืนออกไปตอนนี้ ก็จะทำให้คนอื่นสงสัยความสัมพันธ์ของเธอและจงจิ่งห้าว
เรื่องแบบนี้ เธอจึงยอมที่จะถามจงจิ่งห้าวแบบส่วนตัว
แน่นอนว่าจะไม่ยอมถามต่อหน้าคนอื่น ไปซักถาม และสงสัย
สีหน้าของเฉินชือหานตอนนี้ดูซีดขาว จากที่ดูไม่ได้แล้วก็ยิ่งดูไม่ได้เข้าไปใหญ่
สุดท้ายก็กลั้นมันไว้ไม่อยู่ ก่อนที่จะยันเก้าอี้แล้วลุกขึ้นยืน " ปากนี่มีลิ้นเหมือนมีขลุ่ยจริงๆเลยนะ!"
หลินซินเหยียนยังคงพูดยิ้มขึ้นมาบนใบหน้าดังเดิม " คุณเฉินก็ชมเกินไปแล้วนะคะ ฉันแค่อยากรู้ความจริงเฉยๆ ทำไมคุณต้องโกรธด้วยล่ะคะ "
"ลุงเหวิน ฉันอิ่มแล้วค่ะ " เฉินชือหานพูดจบก็คว้ากระเป๋าแล้วตรงดิ่งออกจากห้องอาหารไป
หล่อนรู้สึกว่าหลินซินเหยียนทำให้หล่อนขายหน้า
เกรงว่าถ้าหล่อนยังอยู่ต่อ ก็มีแต่จะขายหน้าคนอื่น
โตมาขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่หล่อนรู้สึกจนตรอกสู้ไม่ได้
สีหน้าเหวินชิงก็ดูเคร่งขรึมมากกว่าเดิม " หล่อนเป็นคนที่ฉันเชิญมา ทำไมเธอต้องพูดจาเสียดสีเพื่ออะไรกัน "
หลินซินเหยียนกำลังจะเปิดปากพูด จงจิ่งห้าวกลับกุมมือเธอไว้ " ไปรอผมในรถไป "
เขามีเรื่องจะคุยกับเหวินชิง
หลินซินเหยียนลังเลไปพักหนึ่ง ไม่อยากไปจากตรงนี้ เพราะไม่วางใจจงจิ่งห้าว
เธอไม่รู้เลยว่าเขาจะพูดอะไรกับเหวินชิง ก็เป็นเพราะว่าไม่รู้ มันเลยทำให้เธอลังเลแบบนี้
กลัวว่าพวกเขาจะทะเลาะกันใหญ่โต
เพราะเธอยังอยากรักษาความสัมพันธ์ระหว่างเหวินชิงกับจงจิ่งห้าวเอาไว้
" เมื่อกี้เป็นเพราะว่าฉันทำตัวเกินเหตุไปหน่อย ทำให้คุณเฉินไม่ค่อยพอใจ.... "
" ออกไปก่อน "จงจิ่งห้าวพูดตัดบทเธอขึ้นมา
ความผิดของใคร ตัวเขานั้นรู้ดีที่สุด
เธอไม่จำเป็นต้องขอโทษใคร
เธอไม่ผิด และไม่จำเป็นต้องทำเรื่องแบบนี้ด้วย!
หลินซินเหยียนเม้มปาก ความสามารถของเธอมีขีดจำกัดจริงๆ เธอไม่สามารถควบคุมสถานการณ์นี้ไว้ได้
เธอลุกขึ้นแล้วลากเก้าอี้ จากนั้นเดินออกไปจากห้องอาหาร
ไม่นานนักห้องก็เงียบสงบลง
จงจิ่งห้าวเช็ดมือ ก่อนจะเอาผ้าเช็ดมือทิ้งลงไปบนโต๊ะ ก่อนจะเอนตัวไปข้างหลังเพื่อพิงเก้าอี้
ถ้าจะบอกว่าเมื่อก่อนท่าทีของเหวินชิงทำให้เขารู้สึกสงสัย ถ้าอย่างนั้น มื้ออาหารครั้งนี้ ทำให้เขามั่นใจแล้ว
" คุณมีปัญหาอะไรกับเธอหรือเปล่า " เสียงของเขากดต่ำลง
สำหรับเหวินชิงแล้วเขาก็ยังคงมีความเคารพอยู่
เพราะเขาก็หวังเช่นกันว่าคนที่เขาแคร์นั้น จะแคร์เขาอย่างเท่าเทียมกัน
แต่ว่าตอนนี้ดูเหมือนสิ่งที่แสดงออกมาจะแตกต่างจากที่เขาคิด
ก่อนหน้านี้ท่าทีของเหวินชิงที่แสดงต่อหลินซินเหยียนไม่ได้บ่งบอกถึงความเกลียดชังอะไร....
ร่างกายและท่าทางของเขา ดูพิงเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย
เหวินชิงไม่ได้ตอบออกมาตรงๆ แต่พูดออกมาว่า " ดื่มกับฉันสักแก้วสิ "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม