“ถ้าหากว่าเลือกได้ ผมจะไม่เลือกเขามาเป็นพ่อของผม!” หลี่จ้านพูดจบก็สบัดมือหลี่จิ้งออก และวิ่งออกประตูบ้านไป
หลี่จิ้งนั่งร้องไห้อยู่บนโซฟา เธอบ่นและระบายกับเหวินชิง “ลูกชายโตขนาดนี้แล้ว คำที่คุณพูดมันแย่มาก เป็นฉันฉันก็โกรธ ตั้งแต่เขาเกิดมาคุณก็ยุ่งตลอด เวลาที่อยู่บ้านไม่เยอะเท่าเวลาที่อยู่กองทหาร ตอนเด็ก เขาเหมือนเด็กที่ไม่มีพ่อ พอโตขึ้น คำแรกที่คุณพูดก็คือให้เขาไปเป็นทหาร เขาไม่เต็มใจไป คุณก็ทำร้ายเขา แล้วเขาจะฟังคุณมั้ย? คุณทำหน้าที่ของพ่อได้ครึ่งหนึ่งรึยัง? คุณมักจะพูดว่าเขาดื้อรั้น คุณก็ไม่เคยคิดเลยว่าทำไมเขาถึงดื้อรั้นกับคุณ ”
หลี่จิ้งยิ่งพูดยิ่งน้อยใจ ตัวเองก็น้อยใจ เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ดูแลบ้านหลังนี้ สามีเป็นผู้ชายแข็งทื่อ ทั้งชีวิตไม่เคยจะอ่อนโยน นี่ก็ชั่งมันเถอะ เธอมีลูกชายคนเดียว ทั้งสองคนพบกันก็ทะเลาะกัน เจอกันก็ทะเลาะกัน ตรงไหนหรือที่เรียกว่าครอบครัว
หลี่จิ้งร้องไห้เสียใจ น้ำตาไหลริน
เหวินชิงบ่น “ คุณอายุตั้งเท่าไรแล้ว ทำไมถึงยังร้องไห้อีก คนเขาจะมองเรายังไง?”
ทันใดนั้น หลี่จิ้งก็ยืนขึ้น “ฉันจะร้องไห้ เดี๋ยวฉันจะเข้าไปร้องไห้ในหมู่บ้านเดี๋ยวนี้แหละ ให้คนอื่นเห็น ทำให้คุณเสียหน้าให้หมด!”
“ไม่มีเหตุผล!” เหวินชิงโมโหหันหลังจะเดินจากไป
หลี่จิ้งเรียกเขาให้หยุด “เหวินชิง ฉันขอบอกคุณไว้เลยนะ ต่อไปนี้ถ้าคุณทะเลาะกับลูกอีก ฉันจะหย่ากับคุณ! ”
เหวินชิงตกตะลึง แต่งงานกับหลี่จิ้งมา10กว่าปี เธอมีความขยันหมั่นเพียร แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยขัดใจเขา ยิ่งไม่เคยพูดคำว่าหย่าออกมาแบบนี้เลย
“คุณบ้าไปแล้วรึไง?”
“ใช่ ฉันบ้าไปแล้ว โดนคุณบังคับจนบ้า ฉันอยู่กับคุณมาสิบกว่าปี ฉันเคยขอร้องคุณอะไรบ้างมั้ย? ฉันก็แค่อยากให้บ้านเป็นบ้าน ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ฉันก็สนับสนุนคุณเสมอ ไม่เคยพูดคำว่าไม่เลย แต่คุณล่ะเคยใจกว้างกับฉันบ้างไหม? เคยคิดถึงความรู้สึกฉันบ้างรึเปล่า?” หลี่จิ้งสะอึกสะอื้นร้องไห้ พูดความรู้สึกคับข้องใจตลอดหลายปี “ฉันท้อง คุณอยู่ข้างๆฉันกี่วัน? ต้องไปตรวจครรภ์คนเดียว ตอนกลางคืนขาเป็นตะคริว ยิ่งหลายเดือนก็นอนไม่หลับ ฉันพลิกไปพลิกมา สามีของฉัน พ่อของลูกฉัน ไม่เคยจะอยู่ข้างฉันเป็นห่วงฉันเลย”
เหวินชิงยืนตะลึงอยู่ ครั้งแรกที่หลี่จิ้งยืนต่อหน้าเขาอย่างเสียสติ พูดออกมามากมายขนาดนี้
ไม่ว่าหัวใจจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่หัวใจก็ถูกสร้างมาจากเลือดและเนื้อ หัวใจของเหวินชิงผันแปร
เขายอมรับ ตอนที่เขายังหนุ่มนั้นยุ่งแต่เรื่องงาน สำหรับครอบครัว ไม่ได้ใส่ใจมากพอ
คุณจะให้เขายอมรับผิด เป็นไปไม่ได้
เขาก็เป็นคนนิสัยแบบนี้ อาจจะตระหนักถึงความผิดของตัวเอง แต่จะให้เขาก้มหัวขอโทษง้อคุณและพูดคำว่าขอโทษนั้น เขากลับทำไม่ได้
เหวินชิงเดินเข้ามา หยิบกระดาษทิชชู่ให้หลี่จิ้งเช็ดน้ำตา “พอแล้ว”
หลี่จิ้งหันมาไม่พูดอะไร
เหวินชิงถอนหายใจ “อายุก็ปูนนี้แล้ว ต้องให้ผมมาง้อคุณอยู่หรอ?”
น้ำตาของหลี่จิ้งไหลลงมาเยอะกว่าเดิม
คนคนนี้ก็ตรงแบบนี้ หลี่จิ้งไม่เคยสงสัยในความรู้สึกของเขา สมมุติว่าหมูสามารถปีนต้นไม้ได้ เขาก็ไม่มีทางนอกลู่นอกทางแน่นอน เพียงแค่ไม่เข้าใจความอ่อนโยน
ชีวิตครึ่งชีวิตแล้ว หลี่จิ้งเข้าใจนิสัยของเขาเป็นอย่างดี อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ อยากให้เขาแก้ไขนั้นคงเป็นเรื่องยาก ที่พูดว่าจะหย่านั้นก็แค่ขู่เขาเท่านั้นแหละ จะหย่าได้จริงๆรึไง?
แต่ความน้อยอกน้อยใจในใจนั้นคือเรื่องจริง
ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่โหยหาความรัก
เธอก็เหมือนกัน เธอก็แค่ผู้หญิงธรรมดา
เธอผลักเหวินชิงออกไป หันหลังและเดินเข้าห้องไป
เหวินชิงยืนอยู่ที่ห้องรับแขก จะเข้าไปก็ไม่ถูก จะออกไปก็ไม่ได้
เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอย่างไร
แก่ขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่เป็นแบบนี้ไม่รู้จะทำอย่างไร
เขาถอนหายใจแรงและนั่งลงบนโซฟา
และก็ไม่ได้ไปหาจงจิ่งห้าว
หลี่จ้านออกจากตระกูลเหวิน ไม่ได้ไปหาจงจิ่งห้าว แต่ไปหาซูจ้าน
ขณะนี้ซูจ้านได้ร่างเอกสารฟ้องร้องเสร็จแล้ว และเตรียมที่จะไปศาล บังเอิญโดนซูจ้านหยุดไว้พอดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม