หลินซินเหยียนก้มหน้าลงไปหอมหัวลูกสาวของเธอ เธอก็คงคิดถึงเช่นกัน แต่จำเป็นต้องจากมา หากจงจิ่งห้าวรู้ว่าเหวินชิงคือลุงของเธอ เหวินเสียนก็คงเป็นแม่ของเธอเช่นกัน
แล้วยังต้องไปเผชิญหน้ากับการจากไปของเฉิงยู่ซิ่ว เขาควรจะตัดใจอย่างไร เพราะเห็นแก่เธอจึงปล่อยวางงั้นหรือ
หรือว่าจะไม่เห็นแก่ความรู้สึกของเธอปล่อยให้เหวินชิงงั้นมีชื่อเสียงฉาวโฉ่
ถึงเธอจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับตระกูลเหวิน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสายเลือดมันเปลี่ยนแปลงไม่ได้
แต่เมื่อคนสองคนประจันหน้ากันแล้ว อย่างน้อยในใจก็คงมีความรู้สึกมองหน้ากันไม่ติดบ้างอยู่แล้ว
แทนที่จะให้เขารู้สึกลำบากใจ เธอยอมออกมาจากชีวิตเขาเสียยังดีกว่า จะให้เขาวางมือแล้วไปทำ เรื่องที่ตัวเองอยากทำคงดีที่สุด
หากเธอยังอยู่ข้างกายเขาต่อไป เขาคงพะว้าพะวังอยู่อย่างนั้น
เธอไม่อยากทำให้เขาต้องลำบาก ไม่อยากให้เขาต้องวางมือเพื่อตัวเธอแล้วมานั่งเสียใจชีวิตของตัวเองภายหลัง
แต่ถึงคราวที่เธอต้องเผชิญกับคำถามของลูกสาว เธอเองก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบมันอย่างไร
สิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือกอดลูกของเธอให้แน่นที่สุด ให้อุณหภูมิร่างกายมอบความอบอุ่นนั้นให้แก่ลูกของเธอ
" หม่ามี๊ " หัวของหลินลุ่ยซีมุดอยู่ในอกของหลินซินเหยียน ไม่รู้ว่าถูกอารมณ์และความรู้สึกของหลินซินเหยียนแผ่ใส่หรือเปล่า ก็เลยพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆว่า " หนูไม่ถามแล้ว หม่ามี๊อย่าเสียใจไปเลยนะ "
เธอจูบไปที่หน้าผากของลูกสาว " มีพวกลูกๆ อยู่ข้างหม่ามี๊แล้ว หม่ามี๊ก็ไม่เสียใจหรอกจ้ะ "
ภาพวิวที่อยู่นอกหน้าต่างรถเหมือนค่อยกลับถอยหลังไปเรื่อยๆ ความเจริญที่ยังคงอยู่ของเมืองนี้ ถนนที่มีผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา
เธอมองออกไปจากนอกหน้าต่างรถ สีหน้าแววตาดูนิ่งสงบลง
เพิ่งจะจากมาแท้ๆ เธอก็คิดถึงเขาเสียแล้ว
ครั้งนี้ลูกทั้งสองดูเงียบมาก เธอหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดมาที่หน้าข้อความ มีคำพูดมากมายที่เธออยากจะพูดกับเขา แต่พอถึงเวลาที่จะต้องพูดจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าจะพูดมามันออกมาอย่างไร
เธอจ้องหน้าจอโทรศัพท์นั้นอยู่นาน พอจอจะดับก็กดให้สว่างอย่างนั้น ซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง......
อีกฝั่งหนึ่ง จงจิ่งห้าวที่มาถึงโรงพยาบาลแล้ว จวงจื่อจิ่นเมื่อเห็นเขาก็ตกใจเล็กน้อย วันนั้นที่พาเธอเข้าโรงพยาบาลเขาก็มาแล้วรอบหนึ่ง แล้วก็ไม่ได้มาอีกเลย มีแค่เสิ่นเผยซวนที่มาบ้างบางครั้งบางครา
" เหยียนเหยียนสบายดีไหม " จวงจื่อจิ่นเปิดปากถามก่อน เพราะว่าเป็นห่วงหลินซินเหยียนมาโดยตลอด ท่าทีของเธอวันนั้นดูเหมือนอยากจะขับได้แล้วกีดกันหล่อนออกไป
จงจิ่งห้าวหรี่ตามอง เหมือนจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป ตอนนั้นเสิ่นเผยซวนโทรมาบอกเขาว่าจวงจื่อจิ่นมีเรื่องจะคุยกับเขา เกี่ยวกับเรื่องของหลินซินเหยียน เขาก็เลยไม่ไปหาหลี่จ้านที่บริษัทก่อน เพราะได้ยินว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับหลินซินเหยียน ดังนั้นก็เลยรีบมาที่นี่
แต่เห็นท่าทางของจวงจื่อจิ่นแล้ว หล่อนทำเหมือนกับว่าไม่มีเรื่องอะไรจะพูดกับเขาเลย
หลินซินเหยียนเธอคิดจะทำอะไรกันแน่
ไม่ใช่แล้ว......
เหมือนเขานึกขึ้นมาได้ว่าหลินซินเหยียนคิดจะทำอะไร ก็รีบหันตัวจะไป จวงจื่อจิ่นก็เรียกเขาไว้ " วันนั้นเหยียนเหยียนมาที่นี่ เธอรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับฉันแล้ว ตอนนี้เธอกำลังตั้งท้อง แค่อยากรบกวนให้คุณดูแลเธอดีๆ หน่อย เหมือนวันนั้นฉันจะพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป คุณช่วยบอกเธอหน่อยนะ ถ้าเธอไม่อยากรู้ ฉันจะไม่พูดเรื่องนั้นอีกแล้ว "
จงจิ่งห้าวมองหน้าหล่อนด้วยใบหน้าสงบนิ่ง " วันนั้นคุณพูดอะไรนะ "
จวงจื่อจิ่นหันตัวแล้วเดินไปตรงหน้าต่าง ตอนนี้เขาและหลินซินเหยียนต่างก็เป็นสามีภรรยากัน ก็คงไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องปิดบังเขา
หล่อนครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จึงจะค่อยๆ เปิดปากพูดอย่างช้าๆ " ตอนนี้เหยียนเหยียนเป็นภรรยาของคุณแล้ว เรื่องของเธอคุณก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ ฉันจะไม่ปิดบังคุณ เพราะฉันเองก็ไม่ใช่แม่ที่แท้จริงของเธอเช่นกัน แม่ที่แท้จริงของเธอก็คือเหวินเสียน "
เพราะหลังจากที่หล่อนแต่งงานกับหลินกั๋วอันไปแล้ว เนื่องจากมดลูกมีปัญหาจึงตั้งครรภ์ยาก หล่อนก็เลยกินยาจีนเพื่อปรับสมดุลมาโดยตลอด พอผ่านการรักษามาเป็นเวลาครึ่งปีในที่สุดเธอก็ได้มีลูกเหมือนคนอื่นเขา
ในตอนนั้นหลินกั๋วอันเองก็ดีใจมาก เสิ่นซิ่วฉิงไม่ได้มีบทบาทอะไรขึ้นมาไม่ชีวิตการแต่งงานของพวกเขา หลินกั๋วอันไม่ได้เผยธาตุแท้ที่เขาเป็น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม