ตอนที่เหวินเสียนจากไปจงจิ่งห้าวก็คงจะอายุประมาณเจ็ดแปดขวบได้ ตอนนั้นเธอเพิ่งเกิดเสียด้วยซ้ำ คิดไปคิดมาแล้ว จดหมายฉบับนั้นก็คงจะมีอายุมากกว่าเธอเสียอีก
เวลาผ่านไปนานแล้ว คนที่ว่านั่นจะยังมีชีวิตอยู่ไหมนะ หรือว่าจะจากไปที่อื่นแล้ว
เป็นไปได้ที่จะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เธอก็เลยอยากดูให้มันชัดเจน
พนักงานเมื่อครู่ก็ยังคงมองสำรวจตัวเธอ " ไม่ทราบว่าคุณเป็นอะไรกับเขาเหรอคะ "
พาลูกสองมาบริษัท แถมยังเรียกชื่อประธานช่าวออกมาโต้งๆ แบบนี้ ผู้หญิงคนนี้มายังไงกันแน่
" คุณแค่จัดการบอกเรื่องที่พวกเราอยากรู้ก็พอว่าคนคนนี้อยู่ที่นี่หรือเปล่า จะถามอะไรเยอะแยะ " หลินซีเฉินพูดออกไปเชิงรำคาญ พนักงานคนนี้ดูก็รู้ว่าจงใจที่จะไม่พูด แล้วก็ถามคำถามที่ไม่เกี่ยวกับหัวข้อที่พูดออกไปเลย
หลินซินเหยียนลากลูกชายออกมา " แม่ไม่อนุญาตให้ลูกพูดจาไม่มีมารยาทนะ "
" ก็พ่อบอกว่าคนเราอ่ะไม่ควรอาศัยอำนาจที่มีรังแกคนอื่น แต่เราก็ไม่ควรยอมให้ใครมารังแกง่ายๆ เช่นกัน พวกเราแค่ถามดีๆ ว่ามีคนที่ชื่อช่าวหยุนอยู่ไหม แต่เธอดันมาถามแม่ว่าเป็นใครเป็นอะไรกัน มันหมายความว่ายังไงล่ะ มันก็เห็นอยู่ทนโท่แล้วว่าเธอกำลังสงสัยสถานะของแม่ แล้วจงใจที่จะไม่พูด เพราะเราไปกันเถอะ ไม่ต้องถามแล้ว แค่คนคนนี้ยังไม่ตาย ยังไงเสียพวกเราก็หาต้องหาจนเจออยู่แล้วน่า " หลินซีเฉินว่าแล้วก็จูงมือหลินซินเหยียนไป หลินลุ่ยซีเองก็เห็นด้วยกับคำพูดของพี่ชาย ลูกทั้งสองเลยจูงมือคนละข้างของเธอไปยังประตูทางออก " หม่ามี๊ พวกเราไปกันเถอะ "
พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ยังคงตะลึงอยู่ ไม่คิดเลยว่าเด็กไม่กี่ขวบจะพูดถ้อยคำแบบนี้ออกมาได้ แสดงว่าต้องผ่านโลกมามากพอสมควร ก็เลยดูไม่กลัวคนเท่าไหร่
" ถ้างั้น ฉันโทรถามให้ไหมคะ " พนักงานตะโกนรั้งพวกเขาเอาไว้
เด็กน้อยหยุดเดินอยู่กับที่ แต่ก็ยังไม่ได้กลับไป
พนักงานคนนั้นจึงต่อสายไปยังเลขาท่านประธานโดยตรง " ที่นี่มีคนมาหาประธานช่าว "
" นัดไว้หรือเปล่าล่ะ "
" ไม่ได้นัด "
" ไม่ได้นัดตามขั้นตอนแล้วก็คงเข้าพบไม่ได้ ยังจะต้องโทรมาถามอีกหรือไง "
" ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ " ขณะที่พนักงานพูดสายตาก็มองมายังหลินซินเหยียน " เป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง พาลูกสองคนมาด้วย แล้วเรียกชื่อของประธานช่าวออกมาโดยตรง "
" ผู้หญิงพาลูกมาด้วยเนี่ยนะ " ดูเหมือนเลขาจะอยากรู้อยากเห็นไปด้วยคน พาลูกเข้ามาบริษัทจะเป็นอะไรไปได้เสียอีก
เลขาจึงตอบว่า " เธอถามสิว่าให้เรียกว่าอะไร "
หลินซินเหยียนอ้าปากเตรียมจะพูดชื่อตัวเอง แต่คิดว่าถ้าคนที่ชื่อช่าวหยุนคนนี้ยังมีชีวิตอยู่ ก็คงจะรุ่นราวคราวเดียวกับเหวินเสียน อาจจะไม่ได้รู้จักเธอก็ได้ จึงพูดออกไปว่า " เหวินเสียน "
พนักงานเคาน์เตอร์บอกกับเลขาอีกที ไปสายแล้วบอกทราบแล้ว จึงวางโทรศัพท์ไป พนักงานหน้าเคาน์เตอร์จึงบอกให้หลินซินเหยียนรอสักครู่
" ไม่งั้นคุณไปนั่งก่อนก็ได้นะคะ " พนักงานลองพูดขึ้นมา
" ไม่ต้อง " หลินซีเฉินปฏิเสธอย่างเย็นชา
หลินซินเหยียนขมวดคิ้วมองลูกชาย " เสี่ยว..... " เมื่อเธอกำลังจะอ้าปากเรียกชื่อเด็กชายว่าเสี่ยวซี ก็มันชินนี่นา มันแก้ยากจริงๆ ก็เลยไม่เรียกมันเสียเลย
จากนั้นเลขาจึงไปเคาะห้องทำงานของประธานช่าว
ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของผู้ชายดังออกมา เลขาจึงเปิดประตูเข้าไปห้องทำงานนั้นดูกว้างขวางและสว่างไสว มีเก้าอี้นั่งทำงาน รวมทั้งโต๊ะเก้าอี้ใหญ่ที่เอาไว้ใช้เจรจาพูดคุยทุกตั้งอยู่ด้านหน้า และทั้งหมดก็เป็นเฟอร์นิเจอร์สีแดงเข้มที่ถูกสั่งทำจากประเทศลาวโดยเฉพาะ ตัวเฟอร์นิเจอร์อ่านดูหม่นไปบ้าง ส่วนโต๊ะทำงานด้านหลัง ก็มีภาพวาดโบราณที่มองยังไงก็เตะตาแขวนอยู่ บนนั้นยังมีชื่อของนักว่าชื่อดังเขียนเอาไว้ ตัวกระดาษเริ่มจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้ว แต่ก็ไม่ได้ดูเหมือนของปลอมเท่าไหร่ แต่เป็นถึงประธาน JK อย่างประธานช่าว คงไม่ถึงกับของมีค่าไม่กี่ชิ้นก็ไม่มีปัญญาซื้อหรอก เพราะขนาดเฟอร์นิเจอร์สีแดงทั้งชุด ก็ปาเข้าไปเป็นล้านแล้ว
ชายตรงหน้าก็อายุราวๆ ห้าสิบปี แต่ดูเหมือนจะไม่ยอมแก่ตามอายุง่ายๆ เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าลายดอกไม้เต็มตัว ส่วนล่างใส่เป็นกางเกงเก้าส่วนโชว์ข้อเท้าที่กำลังเป็นเทรนด์นิยมของวัยรุ่นในตอนนี้ ส่วนเท้าใส่เป็นรองเท้าหนังสีขาวที่มีเชือกผูก อายุเท่านี้แต่งตัวแบบนี้ ไม่เพียงแค่จิตใจยังไม่ยอมแก่ แต่เกรงว่าร่างกายก็เช่นกัน
ดูเหมือนไม่มีภูมิฐานตามอายุที่ควรจะเป็น ขาทั้งสองข้างไขว่ห้างอยู่บนโต๊ะทำงาน แล้วก็แกว่งไปมาไม่หยุด
ท่าทีดูสบายอารมณ์ เลขาเองก็ชินกับท่าทีแบบนี้ไปแล้ว ก็เลยไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร " ชั้นล่างมีคนมาขอเข้าพบคุณค่ะ "
ในมือของชายวัยกลางคนกำลังถือแฟ้มสีฟ้าอยู่ สายตาไม่ได้ละไปจากเอกสาร แต่ก็ถามต่อ " เป็นผู้ร่วมธุรกิจกับเราใช่ไหม "
" ไม่ใช่ค่ะ เป็นผู้หญิง ได้ยินพนักงานด้านล่างบอกว่าสวย แล้วยัง.... ยังพาลูกมาด้วยอีกสองคน แล้วเรียกชื่อคุณห้วนๆ เลยค่ะ "
ช่าวหยุนวางเอกสารในมือลง แล้ววางเท้าลงจากโต๊ะ แล้วค่อยๆ นั่งตัวตรง " เธอพูดว่าไงนะ ผู้หญิงคนหนึ่ง พาลูกมาอีก แล้วเรียกชื่อผมห้วนๆ เนี่ยนะ "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม