กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม นิยาย บท 508

สรุปบท บทที่508 ได้คิดถึงยังดีกว่าเจอหน้าไม่พูดจา: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

บทที่508 ได้คิดถึงยังดีกว่าเจอหน้าไม่พูดจา – ตอนที่ต้องอ่านของ กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

ตอนนี้ของ กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม โดย จาวฉายจิ้นเป่า ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่508 ได้คิดถึงยังดีกว่าเจอหน้าไม่พูดจา จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ซูจ้านหันไปมองเสิ่นเผยซวนด้วยสีหน้าตกตะลึง นี่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตกหรือยังไง เขาถึงได้มีเรื่องจะมาถามตัวเองแบบนี้

ปกติเขาว่าเป็นคนที่ทนตัวเองไม่ได้มาโดยตลอด หรือว่าดวงจันทร์ที่เมืองY กับ ประเทศZมันไม่เหมือนกัน จะทำให้คนนิสัยเปลี่ยน

" มึงพูดมาสิ "

พอเขาสบตาซูจ้าน ' ที่ดูคิดไม่ซื่อ ' เท่าไหร่ เคงขาก็เลยเกินคำถามที่อยากพูดลงไปเหมือนเดิม ถ้าเขาพูดเรื่องที่ซางหยูจูบเขากับซูจ้านละก็ ซูจ้านต้องหาเรื่องแซวและหัวเราะเยาะเขาแน่

จึงรีบเปลี่ยนเรื่องที่จะพูด " เรื่องนั้นน่ะ ผู้หญิงที่ชื่อฉินเยี่ยนเยี่ยน นายไม่ได้สังเกตเหรอ เธอสวยไหมล่ะ "

เสิ่นเผยซวนลงน้ำเสียงหนักคำว่าฉิน มันอยากจะให้เขารู้ตัว

แต่จุดสนใจของซูจ้านดันไปอยู่ที่ความสวยของผู้หญิงคนนั้นทั้งหมด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเสิ่นเผยซวนพูดชมผู้หญิงคนหนึ่ง

เขาจึงขำเหอะๆ น้ำเสียงดูเย็นชา

เสียงหัวเราะของเขาทำให้เสิ่นเผยซวนประหลาดใจ ในใจก็เริ่มกลัว " มึงขำอะไรวะ "

" กูขำที่มึงกับจิ่งห้าวถูกผู้หญิงคนนั้นทำให้สับสนน่ะสิ " เขาใช้แรงตีเข้าไปที่เสิ่นเผยซวน ก่อนจะพูดอย่างจริงจัง " เชื่อกูสิ ถ้ามึงไม่คบก็เด็กมัธยมนั่น มึงจะไม่ได้อยู่ในสังคมนี้อีกเลย หลอกง่ายก็จริง แต่มึงของควบคุมตัวเองไม่ได้หรอก อย่าคิดไปเชียว "

เสิ่นเผยซวน " ..... "

ที่มันเตือนก็ชัดเจนอยู่หรอก

หรือว่าไอ้บ้านี่สมองจะใส่แต่ขี้ลงไป

ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะสบถออกมา แต่ไอ้บ้านี่มันซื่อบื้อตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

ซื่อบื้อจนไม่มียาไหนรักษาได้แล้ว!

" ไม่พูดละ กลับไปหาเหล้ากินดีกว่า " เสิ่นเผยซวนไม่อยากคุยกับซูจ้านแล้ว เพราะเขาเกรงว่าตัวเองจะโกรธจนหัวระเบิดตายซะก่อน

ซูจ้านก็ยังรู้สึกแปลกใจอยู่ว่าจงจิ่งห้าวไปทำอะไรกันแน่ ก็เลยถามขึ้นว่า " มึงไม่อยากรู้เหรอวะว่าจิ่งห้าวไปไหน "

เสิ่นเผยซวนปรายตามองเขา " มึงคิดว่าตอนนี้มันสนใจเรื่องอะไรล่ะ "

ซูจ้านคิดอยู่สักพัก " หรือว่าที่ไปกะทันหัน เพราะไปหาพี่สะใภ้เหรอ "

เสิ่นเผยซวนคิดในใจ ว่าสมองมันยังไหวอยู่นะเนี่ย ยังรู้ว่าจงจิ่งห้าวให้ความสำคัญกับเรื่องอะไร ความคิดก็ยังปกตินี่ แต่ทำไมเป็นเรื่องของตัวเอง ถึงให้ดูโง่ขนาดนี้

" มันไม่ได้อยู่กับเราตลอดเหรอ เอาเบาะแสมาจากไหน " ซูจ้านงงไปพักใหญ่ จากนั้นก็เดาขึ้นมาว่า " หรือว่าเขาจะแอบให้คนไปสืบ "

เสิ่นเผยซวน " ...... "

ซูจ้านไม่ได้สังเกตถึงสีหน้าสงสารและสมเพชของเสิ่นเผยซวน อย่าพูดเองเออเองว่า " โคตรแย่เลยว่ะ แม้กระทั่งพวกเราสองคนยังปิดบังได้ลงคอ เนี่ยเราเห็นว่ามันเสียใจ ก็ว่าจะไปสืบให้ แล้วดูสิ ใครจะไปรู้ว่าตัวเองจะไปสืบหาเรียบร้อยเสียแล้ว "

" คนอื่นเขายังใส่ใจเรื่องภรรยาตัวเองเลย แล้วมึงอ่ะ " เสิ่นเผยซวนอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา

เมื่อพูดถึงฉินยาท่าทีและสีหน้าของซูจ้านก็ไม่ได้ผ่อนคลายเหมือนเมื่อกี้ แต่ตอบออกมาอย่าห่อเหี่ยว " มึงก็ใช่ว่าไม่รู้สถานการณ์ของกูตอนนี้ ตอนนั้นก็ปิดบังที่อยู่ของฉินยากับกู เบาะแสเดียวที่จะรู้ได้ก็คือที่อยู่ของพี่สะใภ้ ตอนนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธออยู่ที่ไหน กูก็ไม่กล้าออกไปหา เพราะกลัวว่าจะทำเธอตกใจ กูกลัวเธอเห็นกูแล้วจะไปกระตุ้นความรู้สึกและอารมณ์ ทำให้เธอต้องเจ็บปวดอีก "

เขาหันไปมองหน้าเสิ่นเผยซวน " เผยซวนกูปวดใจว่ะ "

จนมาถึงวินาทีนี้ ในใจของเขามันได้ก่อเกิดความสับสนขึ้น ถึงได้รู้ว่าทำไมเธอถึงต้องไป

ถ้าเธอไม่ได้จากเขาไป เวลานี้ ไม่ว่าจะเธอหรือเขา ก็คงจะเต็มไปด้วยความทุกข์ระทมอย่างที่สุด

ได้คิดถึงก็ยังดีกว่าเจอหน้าแล้วไม่พูดจา

" หม่ามี๊ คุณน้าเยี่ยนเยี่ยนจะกลับมาเมื่อไหร่ล่ะคะ " จงเหยียนซีถาม เพราะว่าใบหน้าและทุกอย่างของฉินยาได้เปลี่ยนไปแล้ว เธอเลยเปลี่ยนชื่อ หลังจากนั้นเด็กทั้งสองก็เรียกได้ถนัดมากขึ้น เรียกได้เป็นธรรมชาติมากกว่าคุณน้าฉินยา เสียอีก

หลินซินเหยียนเพิ่งออกมาจากโรงปักผ้า จากนั้นก็ไปรับลูกทั้งสองจากโรงเรียนเตรียมอนุบาล พอค่ะกลับพวกเขาก็แวะห้างสรรพสินค้า เป็นเพราะว่าห่างจากที่อยู่ไม่มาก พวกเขาก็เลยไม่ต้องขับรถ อีกอย่างเมื่อเดินไปตามทางก็มีต้นเมเปิ้ลแผ่กิ่งก้านปกคลุมเป็นเงาระหว่างที่เดินกลับ จงเหยียนเฉินจูงมือจงเหยียนซีแกว่งไปแกว่งมา ที่หลังยังแบกกระเป๋าที่ในนั้นมีตำราเรียนแสนง่าย เป็นตำราที่ต้องใช้ในระหว่างเรียน

" น่าจะใกล้ถึงแล้วจ้ะ พรุ่งนี้ก็คงกลับมาแล้วล่ะ " หลินซินเหยียนได้รับสายของฉินยา พอรู้เรื่องฟังนู้นแล้ว หลังจากที่งานเสร็จสิ้น ก็ยังมีเรื่องมากมายที่ต้องจัดการ ดังนั้นก็เลยไม่ได้กลับมาทันที

ในมือของเธอถือของพะรุงพะรัง

เพราะลูกทั้งสองของเธออยากกินเกี๊ยวน้ำ หลินซินเหยียนจึงซื้อแป้งเกี๊ยวน้ำกับเนื้อสัตว์ เพื่อที่จะเตรียมกลับไปทำให้พวกเขากิน

เมื่อได้ยินเสียงแว่วมาจงจิ่งห้าวที่ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าก็หันหน้ามาดู ห่างออกไปไม่ไกลก็เป็นเงาของเด็กสองคนและผู้ใหญ่อีกหนึ่งคน สะท้อนเข้ามาในม่านตาของเขา

ลูกทั้งสองคนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป จงเหยียนเฉินสวมเสื้อแขนสั้นสีขาว และกางเกงสีครีม รองเท้าสวมเป็นผ้าใบสีขาว ส่วนจงเหยียนซีใส่ชุดเดรสที่มีลูกไม้สีชมพูอยู่ด้านข้าง และใส่รองเท้ามีสายที่ขอบมีเพชรเล็กๆ ประดับอยู่ เคยให้เห็นเท้าขาวเล็กๆ นั้นครึ่งหนึ่ง สองพี่น้องจูงมือกันดูรักใคร่กลมเกลียว

เมื่อเทียบกับจงเหยียนเฉินแล้ว จงเหยียนซีจะอยู่ไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่ เวลาจะเดินก็ต้องกระโดดไปเหยียบใบไม้เล่นไปมา

หลินซินเหยียนก็ใส่เดรสผ้าชีฟองเช่นกัน ที่เอวยังใส่เป็นเข็มขัดเส้นเล็กๆ มัดเป็นโบ ทิ้งตัวลงไปด้านขวา ก่อนหน้านี้ไม่ได้เห็นท้องที่นูนออกมา แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่ากำลังตั้งท้องอยู่ พอลมพัดมาตามแรงลมนั้น ทำให้ผ้าแนบลงไปบนร่างกาย ยิ่งเห็นชัดไปกันใหญ่ และเปิดให้เห็นแขนเรียวขาว ที่กำลังซื้อของอยู่ เธอก้มหน้าลงไปมองลูกทั้งสอง บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มจางๆ ออกมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม