ความคิดเห็นในอินเทอร์เน็ตนั้นค่อนข้างที่จะแย่มาก ส่วนใหญ่จะพูดเกี่ยวกับซางหยู
เขาเหลือบมอง ก็เห็นคอมเม้นที่ไม่น่าดูมากมาย บ้างก็บอกว่าซางหยูอาศัยความเป็นวัยรุ่นของตัวเองล่อลวงผู้ชาย
แถมยังมีคนบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ไร้ยางอาย ยังอายุน้อยอยู่ก็ไม่ตั้งใจเรียนให้ดี ขายตัวเพื่อแสวงหาความฟุ้งเฟ้อ……
เขาไม่ได้อ่านต่อ ถ้าอ่านต่อไปก็จะมีแต่โกรธมากขึ้นเรื่อยๆ เท่านั้น หลังจากขึ้นไปนั่งบนรถออกจากสนามบินแล้ว เสิ่นเผยซวนก็พูดกับคนขับรถว่า “ไปมหาวิทยาลัยฮั๋วชิง”
ซูจ้านกลับยื่นมือไปแตะคนขับรถเบาๆ “ไม่ต้องฟังเขา พวกเราจะไปที่อีห้าวฟู๋ตี้”
“ฉันไม่กลับบ้าน” เสิ่นเผยซวนขมวดคิ้ว เขาต้องไปดูให้ได้ว่าซางหยูเป็นยังไงบ้าง
ซูจ้านเลือกมองเขา รู้สึกว่าเขาโง่ ตอนนี้ซูจ้านรู้สึกว่าเสิ่นเผยซวนช่างไม่มี IQ เอาซะเลย เขาหัวเราะอย่างเย็นชา “ถ้าเกิดว่าแกไปหาเธอตอนนี้ ก็มีแต่จะทำร้ายเธอเปล่าๆ ลองคิดตามความสัมพันธ์ของพวกแกดู แกลองคิดดูนะ ถ้าเกิดว่าตอนนี้แกไปปรากฏตัวที่มหาลัย มันจะเป็นภาพเหตุการณ์แบบไหน? คนอื่นจะคิดยังไง? แกเป็นผู้ชาย ไม่เสียเปรียบอะไรหรอก แต่ว่าเธอเป็นแค่เด็กผู้หญิง ต่อไปเธอจะมีหน้าไปเจอคนอื่นยังไง? จะยืนอยู่ในสังคมยังไง คนอื่นจะมองเธอด้วยสายตาแบบไหน? ”
พอเสิ่นเผยซวนสงบลงและลองคิดดูอีกครั้งมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ถ้าเกิดว่าตอนนี้เขาปรากฏตัวที่มหาลัย ก็มีแต่จะทำให้ความคิดเห็นของประชาชนจัดการได้ยากขึ้นเท่านั้น
“บอกที่อยู่เธอมา เดี๋ยวฉันจะไปหาเธอเอง แกกลับไปล้างหน้าสระผมเถอะ” ซูจ้านพูด
เสิ่นเผยซวนตบไหล่เขา “ขอบคุณนะ เมื่อกี้ฉันคิดไม่รอบคอบเอง”
ซูจ้านยักไหล่อย่างรังเกียจ และสะบัดมือของเขาออก “แกนี่มันน่าเบื่อจริง พวกเราเป็นอะไรกัน? พูดขอบคุณนี่คือเห็นฉันเป็นอะไร? ”
เสิ่นเผยซวนยิ้มเล็กน้อย รู้ว่ามันเป็นนิสัยเด็กๆ ของเขา ก็เลยไม่ได้เก็บไปใส่ใจ ในใจเขากังวลแค่ว่าเรื่องนี้มันเปิดเผยออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และไปถึงขั้นไหนแล้ว แล้วก็ไม่รู้ว่าที่ทำงานรู้เรื่องนี้หรือยัง เขาควรจะกลับไปอาบน้ำล้างหน้า และสงบลง พอสดชื่นขึ้นก็ต้องมาเผชิญหน้ากับเรื่องต่อมาที่จะเจอ
รถแล่นไปยังที่อยู่ของเสิ่นเผยซวน ซูจ้านไม่ได้ลงจากรถ แล้วก็เอ่ยถามที่อยู่ของซางหยู เขาต้องไปหาเธอ เรื่องนี้ต้องถูกแก้ไขโดยเร็ว เพราะว่าคำพูดของคนน่ะน่ากลัว
ถ้าเกิดว่าปล่อยให้มันนานไป มันจะไม่ดีกับทั้งสองคน
เสิ่นเผยซวนเอ็งก็อยากรู้สถานการณ์ในตอนนี้ของซางหยูเหมือนกัน พอลงจากรถแล้วเขาก็พูดว่า “แกไปหายามที่หน้ามหาลัย แล้วก็บอกว่ามาหาซางหยู แล้วจะมีคนไปบอกเธอเอง”
ซูจ้านตอบรับ แล้วก็ย้ำว่า “ไม่ต้องคิดมาก มีฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ ถ้าเกิดว่าฉันไม่ไหวจริงๆ ก็ยังมีจิ่งห้าวอีกไม่ใช่หรือไง? ทีมประชาสัมพันธ์ของบริษัทเขาไม่ได้มีไว้โชว์เฉยๆนะ ไม่เคยมีเรื่องที่แก้ไขไม่ได้มาก่อน จัดการได้ทุกครั้ง”
เสิ่นเผยซวนบีบไหล่ของเขา เขาไม่ได้พูดคำว่าขอบคุณ แต่ว่าสิ่งนั้นมันแฝงอยู่ในการกระทำของเขาอยู่แล้ว
“อย่ามาทำตัวผิดปกติกับฉัน ฉันไปล่ะ” ซูจ้านชัดมากขึ้น มิตรภาพระหว่างพวกเขาทั้งสองคน เรื่องนี้ไม่ถือว่าเป็นธุระเลยด้วยซ้ำ เขาให้คนขับออกรถไป
หลังจากคนขับแท็กซี่ขับรถออกไป ก็มองผ่านทางกระจกหลัง “คนคนนั้นคือผู้ชายที่อยู่ในข่าวใช่ไหมครับ? ”
ซูจ้าน,“……”
“คุณขับแท็กซี่ก็ยังมีเวลาดูข่าวอยู่เหรอครับ? ”ซูจ้านกะพริบตา ตอนนี้ข่าวนี้ดังจนใครๆ ก็รู้แล้วเหรอ
คนขับแท็กซี่ตอบ “ตอนที่ยังไม่มีงานผมก็เล่นโทรศัพท์เพื่อฆ่าเวลานะครับ หาเรื่องให้เบิกบานใจ ข่าวซุบซิบนี้มันดึงดูดสายตามาก ก็เลยค่อนข้างที่จะแพร่หลายอย่างรวดเร็ว”
ซูจ้านทำท่าทางเหมือนเข้าใจ หนุ่มใหญ่กับนักศึกษา ‘มั่ว’กันมันจะไม่น่าสนใจได้ยังไง?
ยังไงตอนนี้คนหลายคนเวลากินข้าวอิ่มแล้วไม่มีอะไรทำ ก็จะชอบทำตัวเป็นเกรียนคีย์บอร์ด แสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือด คนเราจะชอบตัดสินถูกและผิดบนอินเทอร์เน็ต
“ส่วนใหญ่มันเกี่ยวข้องกับตัวตนของเพื่อนผม คนว่า คนเราจะคบกันมันผิดกฎหมายเหรอครับ? แล้วก็ไม่มีกฎหมายข้อไหนกำหนด ว่าคนแก่กับเด็กห้ามคบกันคุณว่าไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม