ตอนนี้เสี่ยวหลิวรู้สึกเสียใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่ามันจะยิ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับเสิ่นเผยซวนหรือเปล่า เขามองหน้าซางหยูอย่างไม่มีทางเลี่ยง ทำได้เพียงแค่ภาวนาไม่ให้ทุกอย่างมันเครียดเกินไป
“คุณเข้าไปเถอะครับ”เสี่ยวหลิวยืนด้านข้าง หลีกทางให้เธอ
ซางหยูมองเสี่ยวหลิว รวบรวมความกล้าและผลักประตูเข้าไป เก้าอี้สำนักงานสีเข้มดูเรียบง่ายและเรียบร้อย และยังดูเคร่งขรึมเป็นพิเศษ
ตอนที่เห็นซางหยูนั้น เสิ่นเผยซวนก็ขมวดคิ้วเข้าหากันทันที เขาประหลาดใจที่เธอปรากฏตัวขึ้นที่นี่
เขากระซิบพูดอย่างจริงจัง “เธอไม่ได้มีธุระที่นี่ ออกไปซะ”
ซางหยูยืนอยู่ข้างประตู เอามือประกบกันไว้ด้านหน้า รู้สึกประหม่าและตกใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้บัญชาการซ่ง แต่ว่าเธอก็ไม่หันหลังกลับ “เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเพราะฉันเอง ฉันคิดว่าฉันควรจะอธิบายกับหัวหน้าคุณให้ชัด”
“เหอะ”ผู้บัญชาการซ่งหัวเราะออกมา “ก็ได้ ในเมื่อเสิ่นเผยซวนไม่ยอมพูด งั้นคุณก็พูดมา ว่าเรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่? ”
“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับหัวหน้าเสิ่นเลยค่ะ”ซางหยูเงยหน้าขึ้นมองผู้บัญชาการซ่ง “ฉันเป็นคนเริ่มทุกอย่างเอง”
ผู้บัญชาการซ่งหัวเราะอย่างเปิดเผยอีกครั้ง รู้สึกว่าเด็กผู้หญิงคนนี้น่าสนุกดี เขานั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับมองไปที่ซางหยูอย่างสบายๆ “ในรูป พวกคุณกอดกัน แล้วมันจะไม่เกี่ยวกับเขาได้ยังไง? เขาเป็นใคร? คนอื่นจะคิดยังไง รู้ไหมว่ามันสร้างผลกระทบได้แรงแค่ไหน? ”
ซางหยูพูดไม่ออกไปพักหนึ่ง เธอไม่สามารถอธิบายเรื่องรูปภาพได้ และมันก็สร้างผลกระทบจริงๆ
มือทั้งสองข้างของเธอกำหมัดแน่น “ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือเปล่า แต่ว่ามันเป็นความผิดของฉันเอง ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับหัวหน้าเสิ่นเลย คุณอย่าลงโทษเขาเลยนะคะ”
ผู้บัญชาการซ่งมองไปที่เสิ่นเผยซวนแล้วก็มองซางหยู เขาทำอะไรไม่ถูกแล้วก็รู้สึกว่ามันน่าขำดี จู่ๆ ใบหน้าที่เคร่งขรึมนั้นก็เปลี่ยนไป ดูเป็นกันเองขึ้นมา
เขารู้จักนิสัยของเสิ่นเผยซวนดี ตอนที่เห็นข่าวนั้นเขาก็รู้ว่ามันต้องดีเรื่องผิดพลาดอะไรอย่างแน่นอน ตามนิสัยของเสิ่นเผยซวน ไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่
เพียงแค่ เขาเป็นข้าราชการ ข่าวแบบนี้มันจะส่งผลเสียต่อข้าราชการคนอื่นๆ ในสังคม คนอื่นจะคิดได้ว่าพวกเขาใช้อำนาจของตัวเอง ไปสร้างเรื่องวุ่นวายด้านนอก
ซางหยูเห็นว่าผู้บัญชาการซ่งไม่พูดอะไร ก็คิดว่าเขายังจะลงโทษเสิ่นเผยซวนอยู่ เธอเอ่ยปากถามว่า “ฉันโตแล้ว แค่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่เท่านั้นเอง หัวหน้าเสิ่นก็ยังไม่ได้แต่งงาน พวกเราคบกันไม่ได้เหรอคะ? การคบกันมันผิดกฎหมายเหรอ?”
เสิ่นเผยซวนมองซางหยูอย่างประหลาดใจ “คือว่า ซางหยู ฉัน……”
“ฉันก็แค่ไม่เข้าใจ มันก็ไม่ใช่ความผิดของคุณ ทำไมต้องดึงคุณไว้ด้วย ฉันก็อธิบายไปแล้ว ตอนนั้นคุณไม่ทันได้ระวังตัว แล้วฉันก็เป็นคนเริ่มก่อน แต่ว่าฉันไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนไม่เชื่อฉัน ฉันก็แค่ไม่อยากให้คุณมาได้รับผลกระทบเพราะฉันไปด้วย แต่ว่า ฉันคิดว่าตอนนี้ต่อให้ฉันจะมีซักร้อยปากก็พูดได้ไม่เคลียร์”ซางหยูตาแดง “ฉันก็แค่ไม่อยากให้คุณต้องมาซวยเพราะฉัน”
ผู้บัญชาการซ่งขมวดคิ้ว “ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงที่ดื้อรั้นขนาดนี้”
และในตอนนี้ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง มีผู้ชายคนหนึ่งที่สวมใส่เครื่องแบบเดินมาอยู่ข้างๆ ผู้บัญชาการซ่ง แล้วก็กระซิบข้างหูเขา
พอผู้บัญชาการซ่งได้ฟังคำพูดของคนนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปในทันที แต่ว่าสุดท้ายก็กลับมาสงบนิ่งเหมือนเดิม เขาพูดนิ่งๆ ว่า “เข้าใจแล้ว”
พอคนนั้นพูดจบก็เดินออกไป ผู้บัญชาการซ่งเปิดคอม แล้วก็หาข่าวที่เกี่ยวข้องกับเสิ่นเผยซวน ก็หาไม่เจอแล้ว และรูปนั้นก็ไม่มีแล้วด้วย
แต่กลับมีคำแถลงของคนโพสต์รูปว่าเป็นความผิดของเขาเอง เขาอ้างว่าเขาเป็นคนตัดต่อรูปขึ้นมา แล้วที่โพสต์รูปนี้ออกไปก็เพราะว่าเขามีปัญหากับซางหยู ก็เลยตั้งใจจะแบล็กเมล์เธอ ต่อจากนั้นก็มีแต่คำพูดที่สารภาพผิด บอกว่ารู้สึกผิดมากที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคม ขอโทษที่ทำให้ข้าราชการผู้รับใช้ประชาชนนั้นต้องมาลำบากด้วย หวังว่าจะได้รับการให้อภัย
ซูจ้านไปที่มหาลัย แล้วก็หาคนที่โพสต์ต้นเรื่องได้อย่างรวดเร็ว อาศัยมหาลัย การทำให้เขาเขียนแถลงการณ์นั้นมันเป็นเรื่องง่ายมาก ยังไงมหาลัยก็อยากจะจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดอยู่แล้ว ซูจ้านเป็นทนายก็ย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่าต้องเขียนแถลงการณ์ยังไงมันถึงจะดีต่อเสิ่นเผยซวนและซางหยู ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง ขอแค่แก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ก็พอ บวกกับฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อต่างๆ ก็ได้ลบข่าวที่เกี่ยวกับเสิ่นเผยซวนและซางหยูจนหมดอย่างรวดเร็ว แล้วก็ไม่เจอคีย์เวิร์ดนี้ใน weibo อีก
ถือว่าสามารถปิดข่าวได้แล้ว บวกกับคำแถลงการณ์ขอโทษ ก็เกือบจะแก้ปัญหาได้หมดแล้ว เดี๋ยวพอผ่านไปอีกไม่กี่วันทุกคนก็ลืม
ขอแค่ไม่ถูกก๊อบปี้ขึ้นมาอีก ปล่อยให้มันหายลับไปจากสายตาทุกคน การจะถูกลืมนั้นเป็นเรื่องที่ว่องไวมาก ตอนนี้อินเทอร์เน็ตได้พัฒนาแล้ว มีข่าวมากมายทุกประเภท ถ้าสมมุติว่ากินเผือกเรื่องนี้ไม่ได้ พวกเขาก็จะไปเผือกเรื่องอื่นแทน
เสิ่นเผยซวนเองก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าผู้บัญชาการซ่งคิดอะไร ทำไมถึงปล่อยเขาไว้ที่นี่ไม่ทำอะไรเลย?
ถ้าจะลงโทษเขาก็ต้องพูดอะไรสักอย่างสิ
“ผู้บัญชาการซ่ง มันเป็นความประมาทของผมเอง ผมรับรองว่าต่อไปจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก คือ ให้เธอออกไปก่อนได้ไหมครับ?”เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่แค่อธิบายก็สามารถแก้ไขได้ ต่อให้ซางหยูพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์
เรื่องนี้แก้ไขไม่ได้ เขาต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอน
ผู้บัญชาการซ่งไม่ได้สนใจว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ แต่เขาสนใจว่าจะแก้ไขมันยังไง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม