ฉินยาที่พิงเข้ากับขอบประตูนิ่งอึ้งไปแป๊บนึง จากนั้นก็ก้าวเดินเข้าไป เห็นเตียงนอนที่ถูกนอนมาแล้วจริงๆ หันหน้าไปอีกทางนึงไม่กล้าที่จะมองหลินซินเหยียน ร้อนตัวที่เธอได้บอกรหัสผ่านเปิดประตูบ้านให้กับจงจิ่งห้าวไป
สันนิษฐานว่าคงจะถือโอกาสตอนที่พวกเธอไม่อยู่แล้วเข้ามามาก่อน เพียงแต่เธอคิดไม่ตกเลยว่าวิ่งแจ้นมาเพื่อนอนบนเตียงของหลินซินเหยียนกลางวันแสกๆ? เขาคิดได้ยังไงกันเนี่ย?
นอนก็นอนไปเถอะ ตอนที่ไปทำไมไม่ปูกลับไปให้เหมือนเดิม?
ทิ้งร่องรอยเอาไว้ ยังต้องให้เธอมาอธิบายอีก
“เธอจำผิดไปแน่เลย เธอไม่ได้ปูแล้วก็ไป” ฉินยาอธิบายออกมาอย่างใจเย็น “ไม่ใช่ว่าผู้หญิงที่คลอดลูกแล้วจะโง่ไปสามปีไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้เธอก็คืออยู่ในขั้นนี้ เธอจำผิดไปแล้ว ฉันพาเด็กๆออกไปกินข้าวแล้วนะ”
พูดจบฉินยาผันร่างเตรียมที่จะเดินออกไป
“ไม่สิ ฉันจำได้ชัดเจนมาก ฉันปูเอาไว้แล้ว นี่เป็นความเคยชินของฉัน ไม่ชอบให้ห้องมันยุ่งเหยิง” หลินซินเหยียนนึกย้อนไปอย่างละเอียด ก็ยังคิดว่าตัวเองจำไม่ผิด เธอปูที่นอนก่อนแล้วค่อยเดินออกมา
“เด็กทั้งสองคนไปเรียน ฉันก็อยู่กับเธอมาทั้งวัน เหลือแค่ช่าวหยุนที่รู้รหัสเข้าบ้าน หรือว่าจะเป็นเขางั้นเหรอ? เห็นได้ชัดว่ามันไม่มีทางแน่ คือเธอจำผิดไปเองนั่นแหละ” ฉินยาพูดออกมาอย่างมีเหตุมีผล ทำอย่างกับมันเป็นเรื่องอย่างนั้นจริงๆ
หลินซินเหยียนยืนอยู่ตรงหัวเตียง เปลี่ยนมาลังเลคิดไม่ตกขึ้นมา หรือว่าตนจะจำผิดไปจริงๆงั้นเหรอ?
ฉินยาพูดถูก คนที่รู้รหัสบ้านมีแค่พวกเขาไม่กี่คน ช่าวหยุนถึงแม้ว่าจะลอยชายไปวันๆ แต่ความคิดก็ละเอียดรอบคอบ ไม่มีทางจะเข้ามาโดยที่ไม่บอกไม่กล่าวทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าพวกเธออยู่ที่นี่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นผู้หญิงกับเด็กทั้งนั้น
ยิ่งไม่มีทางที่จะมานอนบนเตียงของเธอ
“เอาล่ะ เธออยากกินอะไร? ฉันจะซื้อมาให้เธอ? เธอก็พักสักหน่อย”
“ฉันอยากกินหัวไชเท้า”
ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆก็อยากกินขึ้นมา ตอนช่วงที่เพิ่งท้องช่วงแรกๆก็ไม่ได้แพ้ท้อง และก็ไม่มีอะไรที่อยากกินเป็นพิเศษ แต่จู่ๆก็อยากกินหัวไชเท้าขึ้นมา
“อันที่สีเขียว แบบที่มันกรอบๆ” หลินซินเหยียนเอ่ยออกมา
ฉินยา “...”
“เธอจะเอาหัวไชเท้ามากินแทนข้าวเหรอ?” ฉินยากุมหน้าผาก นี่คงไม่ได้ปัญญาอ่อนไปแล้วหรอกมั้งใช่มั้ย?
“ไม่ได้อยากกินมากเป็นพิเศษ ก็แค่จู่ๆก็อยากกินอันนี้ขึ้นมา ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีขายหรือเปล่า” หลินซินเหยียนนั่งไปที่ขอบเตียง ในใจยังคงคิดยุ่งเหยิงไม่แน่ใจอยู่ว่าตนปูเตียงไปแล้วหรือเปล่า
“ตอนนี้อะไรที่ไม่มีขายอีกกัน?” ฉินยาเอ่ยออกมา “ผักผลไม้ตอนนี้ยังแบ่งตามฤดูกาลอยู่เหรอ?”
เทคโนโลยีสมัยนี้มันพัฒนาแล้ว กินสะดวกไปหมดแล้ว เรือนกระจกอะไรบ้างล่ะ แล้วก็ยังมีเทคนิคการรักษาอุณหภูมิให้คงที่อะไรพวกนั้นอีก อะไรที่มันจะปลูกออกมาไม่ได้อีก?
ยิ่งไปกว่านั้นของที่เธออยากกินมันก็ไม่ใช่สิ่งที่แปลกประหลาดอะไร
“เดี๋ยวฉันจะไปลองดูที่ซูเปอร์” พูดจบฉินยาก็เดินออกไป “ฉันกับเด็กๆออกไปกินข้าวแล้วนะ”
“เสี่ยวยา ทำไมเธอถึงไม่ถามว่าฉันจะไปหรือเปล่า?” ปกติจะถามอยู่ตลอด ทำไมวันนี้ถึงไม่ถาม?
ฉินยา “...”
เป็นเธอนี่มันยากเหลือเกิน
“วันนี้ยุ่งไม่ใช่เหรอ? ฉันเห็นเธอเหนื่อยมากแล้ว ฉันซื้อมาให้เธอ เธอจะได้พักอยู่ที่บ้านสักหน่อย” ฉินยาอธิบายออกมาอย่างใจเย็นและพยายามใช้สมองคิดหาวิธีออกมาสุดความสามารถ
เพราะว่าร้านเพิ่งเปิด มีหลายเรื่องที่ต้องจัดการ เธอรู้สึกเหนื่อยจริงๆนั่นแหละ ลุกขึ้นมาจากขอบเตียง เดินเข้ามากอดฉินยาเอาไว้ พลางเอ่ยออกมาด้วยความซาบซึ้งใจ “เสี่ยวยา ขอบคุณเธอนะ ถ้าสองเดือนนี้ไม่ได้เธอช่วย ฉันไม่รู้เลยว่าจะทำยังไง”
จัดนิทรรศการ จัดซื้อวัสดุ ล้วนต้องวิ่งวุ่นไปทั่วเลยทั้งนั้น ช่าวหยุนถึงแม้ว่าสามารถช่วยได้ แต่เขาไม่ได้รู้เรื่องทางด้านนี้ดี วัสดุเองก็แยกไม่ออก ล้วนต้องให้ฉินยาวิ่งวุ่นไปเองทั้งนั้น
“โธ่เอ๋ย พวกเราเป็นอะไรกันห๊ะ เธอพูดมาเสียซึ้งขนาดนี้ คืออยากให้ฉันร้องไห้ให้เธอดูหรือไง?” ฉินยาตบหลังเธอไปเบาๆ “ดูแลบำรุงตัวเองดีๆ คลอดเจ้าตัวน้อยตัวอวบอ้วนออกมาสักคน ฉันเป็นแม่ทูนหัวเอง”
หลินซินเหยียนยิ้มออกมา “ถ้าเป็นลูกสาวล่ะ?”
“ไม่มีทางจะต้องเป็นลูกชายแน่นอน” ฉินยาพูดออกมาอย่างมั่นอกมั่นใจ เหมือนกับว่าเธอเห็นมาแล้วก็ไม่ปาน
“เธอแน่ใจขนาดนี้เลย?” หลินซินเหยียนมองเธอ ยิ้มเย้าแหย่ออกมา “หรือว่าเธอมีตาทิพย์หรือไง?”
“ไม่ใช่ว่าท้องกลมจะเป็นลูกสาว ท้องที่แหลมออกมาจะเป็นลูกชายหรือไง? เธอดูสิท้องเธอมันแหลมออกมา”
วิธีการพูดนี้ของเธอไม่ได้อิงจากหลักวิทยาศาสตร์ แต่ได้ยินมาจากคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้าน ที่เรียกว่าท้องกลมนั้นก็คือขอบเอวทั้งสองข้างจะมีเนื้อส่วนเกินออกมา ท้องมองดูแล้วจะกลมมากๆเลย ส่วนที่แหลมนั้นก็คือขอบเอวจะไม่มีเนื้อส่วนเกินออกมา แต่จะมารวมกันอยู่ที่ตรงกลางทั้งหมด ถูกเรียกกันว่า “แหลม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม