หกปีต่อมา ณ ประเทศA
แสงสีนวลจากหลอดไฟส่องสว่างไปทั่วทั้งห้อง
ร่างที่บอบบางร่างหนึ่งกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารเย็นให้กับครอบครัวอยู่ในครัว
เหอรุ่ยเจ๋อนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นพร้อมกับมองหลินซินเหยียนที่กำลังยุ่งอยู่ในครัวหลินลุ่ยซีปีนขึ้นมาบนตัวเขา“คุณลุง คุณลุงชอบหม่ามี๊หนูหรอคะ?”
เหอรุ่ยเจ๋อเลิกคิ้วขึ้น เขาแทบคลั่งทุกครั้งเมื่อถูกเรียกแบบนี้ หลินซินเหยียนไม่ยอมรับความรู้สึกดีๆของเขาที่มีต่อเธอ เธอเอาแต่พูดว่าเขาเป็นเพียงพี่ชายเท่านั้น
เด็กทั้งสองก็เลยเรียกเขาว่าคุณลุง
ทว่าเด็กสองคนนี้น่ารักมากจริงๆ
ผิวพรรณขาวนวล ดวงตากลมโตใสแป๋วราวกับแอ่งน้ำแร่ ส่วนขนตาก็งอนเด้งสวยงาม ตอนกระพริบตานี่เหมือนกับตุ๊กตาเซรามิกเลย
เหอรุ่ยเจ๋อยื่นมือออกไปอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาแล้วเดินไปที่ห้องครัว
เขายืนอยู่หน้าประตูห้องครัว “เหยียนเหยียน”
หลินซินเหยียนหันหลังไปมองพวกเขาพร้อมกับฉีกยิ้มร่า “หิวแล้วหรอคะ?เดี๋ยวก็เสร็จแล้วค่ะ”
เหอรุ่ยเจ๋อเอาแต่จ้องแผ่นหลังที่กำลังทำนู่นทำนี่ของเธอโดยไม่พูดอะไรออกมา
หกปีก่อน หลินซินเหยียนยืนกรานว่าจะไม่ฉีดยาชาเพื่อเก็บเด็กเอาไว้ เหอรุ่ยเจ๋อจึงตอบตกลงออกไปอย่างจนปัญญา
แต่เขามีเงื่อนไขก็คือต้องออกไปจากประเทศ และกลับไปใช้ชีวิตที่ประเทศA
หลินซินเหยียนตอบตกลง และภายใต้การช่วยเหลือของเหอรุ่ยเจ๋อ จวงจื่อจิ่นจึงได้มาที่นี่ด้วย
นี่มันก็ผ่านมาหกปีแล้ว
“อีกสองวันพี่จะกลับไปประเทศนะ”
หลินซินเหยียนที่กำลังใช้ช้อนคนซุปหยุดกึกลงครู่หนึ่ง ราวกับว่าความเจ็บปวดเมื่อหกปีที่แล้วมันยังคงหลอกหลอนอยู่ในใจเธอ
เธอแสร้งทำเป็นไม่สะทกสะท้าน จากนั้นก็พูดขึ้นโดยไม่หันไปมอง “ไปทำธุระหรอคะ?”
“อื้ม น้องสาวของพี่กำลังจะหมั้นน่ะ”เหอรุ่ยเจ๋อจ้องไปที่แผ่นหลังของหลินซินเหยียน
หลินซินเหยียนหันกลับมา ตอนที่เธอคลอดหลินซีเฉินกับหลินลุ่ยซี เหอรุ่ยเจ๋อบอกว่าเขาเจอตัวน้องสาวที่หายตัวไปแล้ว
เธอดีใจกับเขามาโดยตลอด
“นี่เป็นงานมงคลนี่นา พี่กลับไปน่ะถูกแล้ว”หลินซินเหยียนพูดออกมาจากใจจริง
เหอรุ่ยเจ๋อมองเธอไม่ละสายตา“คู่หมั้นก็คือจงจิ่งห้าว”
เพล้ง!
ช้อนในมือร่วงลงบนพื้น แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆทันที
เธอรีบก้มลงไปเก็บพลางหลบสายตา “ฉันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาแล้ว”
เวลาหกปีมันนานมาก เธอจำไม่ได้แล้วว่าเคยมีผู้ชายอย่างเขาเข้ามาในชีวิต
ตอนนี้เธออยากจะดูแลเด็กสองคนนี้ให้ดีเท่านั้น
แต่เธอก็ไม่เข้าใจ เขาควรจะแต่งงานกับไป๋จวู่เวยตั้งแต่หกปีที่แล้วไม่ใช่หรอ?
ทำไมถึงเป็นน้องสาวของเหอรุ่ยเจ๋อได้ล่ะ?
เธอมองไปที่เหอรุ่ยเจ๋อเหมือนกับจะถามอะไรบางอย่าง
เหอรุ่ยเจ๋อหันมาสบตาพร้อมกับเม้มปากลง “พี่ขอโทษที่ปิดบังเธอ”
หลินซินเหยียนขมวดคิ้วขึ้น “พี่ปิดบังอะไรฉันหรอ?”
ทันทีที่พูดออกไป เธอก็เหมือนจะคิดอะไรออก เธอเบิกตาโพลงและพูดสิ่งที่เดาไว้ออกมา “ไป๋จวู่เวยคือน้องสาวของพี่หรอ?”
“อื้ม” ในปีนั้นตอนที่เขาไปสืบเรื่องคืนนั้นให้หลินซินเหยียน เขาได้ฟังเรื่องราวของคืนนั้นจากปากของพนักงานที่โรงแรม เขาจึงสืบลึกเข้าไปและขุดคุ้ยประวัติของผู้หญิงที่ชื่อไป๋จวู่เวยออกมาด้วย
หล่อนเป็นผู้หญิงเจ้าเล่ห์ แน่นอนว่าเขาเกลียดจนเข้ากระดูกดำเลยเชียว แต่บังเอิญตอนนั้นไป๋จวู่เวยอยู่ที่ประเทศA ทั้งสองจึงได้เจอกันพอดี
ความจริงก็ไม่ได้คุยอะไรกันหรอก แต่วันนั้นไป๋จวู่เวยสวมเดรสสายเดี่ยว รอยปานสีเขียวบนไหล่ของเธอดึงดูดสายตาเขาไว้
เนื่องจากที่ไหล่ของน้องสาวที่หายตัวก็มีรอยปานสีเขียวนี้เหมือนกัน
ดังนั้นเพื่อให้ได้คำตอบที่แน่ชัด เขาจึงสืบเรื่องไป๋จวู่เวยลึกเข้าไปอีก หล่อนโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ไม่มีพ่อแม่ ตอนแรกเขาก็แค่สงสัยว่าทำไมไป๋จวู่เวยผู้หญิงคนนี้ถึงมีรอยปานเหมือนกับน้องสาวของเขา เขาเลยอยากจะรู้จักหล่อนมากขึ้น
แต่พอสืบเจอว่าหล่อนอยู่บ้านเด็กกำพร้า เหอรุ่ยเจ๋อก็ผุดคิดขึ้นมาว่าหรือหล่อนจะเป็นน้องสาวที่หายตัวไปของเขา เพราะงั้นเขาก็เลยสะกดรอยตามไป๋จวู่เวย แล้วเก็บตัวอย่างผมและน้ำลายของหล่อนมาตรวจดีเอ็นเอ
สุดท้ายผลออกมา หล่อนเป็นน้องสาวของเขาจริงๆด้วย
เขารู้ความลับของน้องสาว รู้ว่าหล่อนชอบจงจิ่งห้าว
เพราะงั้นเขาก็เลยไม่เคยพูดเรื่องนี้กับหลินซินเหยียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม