หลินซินเหยียนไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบและถามขึ้นว่า “ข้างบนตรงไหน?”
“ข้างบนตัวผม” เขายิ้ม
หลินซินเหยียน “…”
“ในสายตาของคนอื่นคุณจะต้องเป็นเทพบุตรสุดเย็นชาที่ไม่สะทกสะท้านต่อผู้หญิงแน่ๆ แต่ที่จริงแล้วคุณน่ะไม่ใช่” หลินซินเหยียนถือว่ามองเขาออกทะลุปรุโปร่ง
ยิ่งผู้ชายที่ภายนอกดูนิ่งๆสง่างาม บุคลิกเงียบขรึมและเก็บตัว อีกด้านหนึ่งที่ไม่มีใครรับรู้นั้นบ้าคลั่งขนาดไหน
พูดมาสิบประโยคแปดประโยคคือไม่ปกติ
เมื่อก่อนเธอทำไมถึงไม่รู้สึกนะ?
จงจิ่งห้าวเอนตัวต่ำลงมา ริมฝีปากชนกับปลายจมูกของเธอ ถามด้วยรอยยิ้ม “ถ้างั้นผมเป็นยังไง?”
หลินซินเหยียนเอียงหน้าหนี ก็ถูกเขาจับให้ตรง “ห้ามหลบ”
สายตาที่มองเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มและสายตาที่ตั้งใจหยอกล้อเขา หลินซินเหยียนทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามตัดสินใจเลือกเป็นฝ่ายกระทำ เธอไม่หลบอีกแล้ว ดวงตาจ้องมองเขาตรงๆ คว้าเนคไทของเขาแล้วค่อยๆไต่ขึ้นไปทีละน้อย สุดท้ายก็หยุดลงตรงคอเสื้อของเขา แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดหนึ่งของเขาออก
นิ้วของเธอสัมผัสกับผิวของเขาเหมือนเจตนาแต่ก็ไม่เจตนา ทำให้เขาถึงกับปากคอแห้ง ลูกกระเดือกขยับขึ้นลง ถามเสียงแหบพร่า “ทำไม อยากจะลองตอนนี้หรอ?”
ริมฝีปากอมชมพูของหลินซินเหยียนเหยียดยิ้ม ราวกับกลีบดอกไม้สองกลีบที่เผยออกมา ริมฝีปากที่นูนออกมาเล็กน้อย แฝงรอยยิ้มเขินอายลางๆ “ได้มั้ย?”
ผู้ชายปกติคงไม่มีใครบอกว่าไม่ได้หรอกมั้ง?
อีกอย่างเขาก็จัดอยู่ในกลุ่มปกตินั้นด้วย
ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?
หลินซินเหยียนลุกขึ้นจากโซฟา เชยคางเขา “คุณเอนตัวลงสิ”
จงจิ่งห้าวเต็มไปด้วยความสงสัย ตอนนี้เธอเปิดกว้างกว่าเมื่อก่อนมาก แต่ว่าเธอเปิดเผยถึงขั้นนี้เลยหรอ?
“เร็วสิ” หลินซินเหยียนผลักคนที่เหม่ออยู่ล้มลงบนโซฟา ท่าทางเหมือนรีบร้อนจนทนไม่ไหวเล็กน้อย
เธอสวมกระโปรง จงใจเผยขาขาวเรียวถูส่วนที่อ่อนไหวง่ายของเขา เธอเอนตัวลงมาแกล้งทำเป็นเหยียดยิ้มเล็กน้อย แสดงความรักต่างๆนาๆ มือเล็กเรียวอ่อนนุ่มพัวพันอยู่ตรงอกของเขา เข้าประชิดข้างหูเขากระซิบอย่างนุ่มนวล “หลับตาลงค่ะ คุณมองฉัน ฉันอาย”
ขณะที่เธอโน้มตัวลงมาเส้นผมช่อหนึ่งก็ตกลงมา ปลายผมร่วงลงมาโดนใบหน้าของเขาเป็นครั้งคราว ราวกับขนนกลอยออกมาจากหัวใจของเขา นุ่มนวลแต่กลับชวนหลงใหล
จงจิ่งห้าวรู้สึกเพียงแค่ร้อนมาก
หลินซินเหยียนเป็นฝ่ายเร่าร้อนกับเขา เทียบได้กับถูกคนวางยา ทำให้เขาต้านทานไม่ไหว
จิตใจแน่วแน่มั่นคงนั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้เขาเห็นหลินซินเหยียนก็สติหลุดแล้ว
หลินซินเหยียนจูบลงบนตาของเขา “ฉันจะถอดเสื้อผ้า คุณรอฉันนะคะ ห้ามลืมตานะ”
จงจิ่งห้าวตอบตกลงอย่างให้ความร่วมมือ ถ้าก่อนหน้านี้ก็แค่สงสัย ตอนนี้เขามั่นใจแล้ว เธอไม่ได้คิดจะทำให้เกิดอะไรขึ้นแต่แรก แค่คิดอยากจะแกล้งเขา
แต่ว่านานๆทีเธอจะสนใจ เขาก็ยินดีให้ความร่วมมือเพื่อให้เธอมีความสุข
ที่จริงเขาเกือบจะเชื่อหลินซินเหยียนแล้วว่าเธอจะเข้ามาจริงๆ สุดท้ายประโยคของเธอที่ว่าให้เขาห้ามลืมตา สติสัมปชัญญะที่เหลืออยู่ก็บอกเขา หลินซินเหยียนไม่ได้คิดจะทำอะไรจริงๆ
หลินซินเหยียนมองผู้ชายที่นอนอยู่บนโซฟาริมฝีปากยิ้มบางๆ จากนั้นก็เดินย่องไปที่หน้าประตู เปิดประตูห้องทำงานเดินออกไปเบาๆ เธอไม่ใช่คนบ้าซะหน่อยที่จะทำเรื่องแบบนั้นกับเขาในห้องทำงานตอนกลางวันแสกๆ
ตอนที่เธอกำลังจะปิดประตู เห็นเลขาที่ถือของกินเดินเข้ามา เลยทำท่าบอกให้เธอเงียบเสียง เลขาเข้าใจไม่ได้พูดอะไร ยื่นของกินให้อย่างเงียบๆ
หลินซินเหยียนรับของที่เธอซื้อมา พูดเสียงเบาว่า “บอกเขาด้วยว่าฉันไปแล้ว”
กลับไม่รู้เลยสักนิดว่าเธอพึ่งจะเดินไป ผู้ชายที่ถูกเธอ‘ยั่วยวน’ก็ลืมตาขึ้น ขณะนี้ยืนอยู่ข้างหลังเธอด้วยเสื้อผ้าที่เรียบร้อย
เลขากำลังจะทักทาย จงจิ่งห้าวก็ยกมือขึ้น ให้เธอแกล้งทำเป็นไม่รู้ ให้หลินซินเหยียนคิดว่าตัวเองชนะแล้วต่อไป
ในใจของเลขามีเครื่องหมายคำถามอยู่ประมาณหนึ่งร้อยอัน สามีภรรยาคู่นี้ทำอะไรกัน?
ทำไมพฤติกรรมแปลกๆ?
เลขาไม่เข้าใจสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น
หลินซินเหยียนถือของและเรียกรถกลับวิลล่า พบเข้ากับกวนจิ้งที่ออกมาจากวิลล่า
“คุณนาย” กวนจิ้งทักทายขึ้นมาก่อน นึกว่าเรื่องที่จงจิ่งห้าวให้ไปหาสาวใช้มาหลินซินเหยียนรู้แล้ว เลยไม่ได้แนะนำอะไร
หลินซินเหยียนมองเขาสองมือว่างเปล่า ก็ไม่ได้มาเอาอะไรนี่นา ถามขึ้นว่า “คุณมาทำอะไรหรอ?”
“คุณไม่รู้หรอครับ?” กวนจิ้งตกใจไปพักหนึ่ง
หลินซินเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย “อะไรคะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม