หลินซินเหยียนอดรู้สึกขำไม่ได้ เขาทำไมถึงไร้สาระได้ขนาดนี้?
“อยากจะหยิบกระจกให้คุณส่องดูจริงๆ ให้คุณเห็นว่าตอนนี้ท่าทางของคุณมันเย็นชาไร้หัวใจแค่ไหน”
จงจิ่งห้าวส่งเสียงฮึออกมา หยิบผ้าขนหนูมาเช็ดเท้าให้เธอ
หลินซินเหยียนหันไปมองเขา “โกรธหรอ?”
ไม่งั้นทำไมไม่พูดเลยล่ะ?
ทันใดนั้น จงจิ่งห้าวทิ้งผ้าขนหนูไปข้างๆ สองมือจับข้อเท้าเธอไว้ ใช้ตัวกดลงไป หลินซินเหยียดขัดขืน พูดเสียงเบาๆว่า “คุณทำอะไร? เด็กสองคนยังอยู่นี่นะคะ เสียงดังจนพวกเขาตื่นแล้ว”
เขายักคิ้วชั่วร้าย พูดเสียงทุ้มต่ำ “คุณร้องเบาๆ ก็ไม่ตื่นแล้ว”
หลินซินเหยียน “…”
“คุณทำไมนับวันยิ่งหน้าไม่อายนะ?” หลินซินเหยียนดิ้นแรงขึ้น กลัวว่าเขาจะคิดทำอะไรจริงๆ ต่อหน้าเด็กๆ ทำพฤติกรรมอะไรที่ไม่ควรทำออกมา
จงจิ่งห้าวงอเข่า ใช้ขาตรึงขาของเธอไว้ ทำให้เธอขยับไม่ได้ สมองของเขาชัดเจนอย่างมาก ต่อให้เขาจะควบคุมตัวเองต่อเธอไม่ได้ ก็ไม่บ้าบิ่นกระทำอะไรแปลกๆออกมาต่อหน้าลูกเด็ดขาด
เขามองหลินซินเหยียนเงียบๆ เธออายุไม่มาก แถมยังหน้าตางดงามยิ่งทำให้ดูเด็กลงไปอีก แก้มก็ขาวเนียนประณีตราวกับเครื่องลายคราม เขาใช้มือลูบเบาๆ “เหยียนเหยียน ผมไม่ชอบที่เขาคิดต่อคุณเลย ไม่ชอบจริงๆ”
เขาไม่สามารถใจกว้างขวางต่อคนที่อยากได้ภรรยาได้
“ผมเป็นคนเลวทรามคนหนึ่ง ผู้หญิงของผมก็ต้องเป็นของผมคนเดียว ใครก็อย่าได้คิด”
หลินซินเหยียนรู้ ถ้าหากมีใครมีใจหนักแน่นต่อจงจิ่งห้าวขนาดนี้ ต่อให้ใจเย็นแค่ไหนเธอก็ไม่มีความสุขหรอก ในใจก็ไม่เป็นสุข
“ฉันรู้ ฉันชอบแต่คุณเท่านั้น สำหรับเขาก็แค่ศีลธรรมก็เท่านั้น” หลินซินเหยียนบอกความในใจของตน ผู้ชายคนนี้นี่นะ บางทีก็ใจแคบซะอย่างกับรูเข็ม ที่ควรอธิบายก็ควรพูดให้เขาฟัง เขาจะได้ไม่คิดมาก
หลินซินเหยียนยิ้มออกมาอย่างกะทันหัน “ยิ่งรู้จักคุณมากขึ้น ฉันก็พบว่า คุณตอนอยู่ข้างนอก กับอยู่ในบ้านแตกต่างกันอย่างมาก”
“อืม? ด้านไหนบ้างล่ะ? พูดให้ฟังหน่อยสิ?” จงจิ่งห้าวรู้สึกสนใจ ออกห่างจากตัวเธอเพื่อหลีกเลี่ยงกดโดนท้องของเธอเลยนอนตะแคง
หลินซินเหยียนพูด “คุณปล่อยขาฉันก่อนสิ”
จงจิ่งห้าวไม่ปล่อย “คุณบอกมาก่อน”
หลินซินเหยียนหันหน้ามา “คุณนี่มันคนไม่มีเหตุผล พนักงานพวกนั้นของคุณเคยเห็นบ้างมั้ยนะ?”
“ความไม่มีเหตุผลของผมแสดงต่อหน้าภรรยาผมเท่านั้น พวกเขาไม่มีสิทธิ์ได้เห็น” เขามีเหตุผลมากพอ ไม่คิดว่าจะมีอะไรเลย
หลินซินเหยียน “…”
“อืม” เธอถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง “คุณเป็นคนเลวทรามจริงด้วย”
จงจิ่งห้าวถือมือเธอขึ้นมา “คุณลองจับดู”
หลินซินเหยียนเลิกคิ้ว เบิกตาโต มองเขาอย่างมึนงงและพูดอ้ำๆอึ้งๆ “ค่ะ คุณ คุณจะทำอะไร?”
“ให้คุณจับดูว่าร่างกายผมยังร้อนอยู่หรือเปล่า หัวใจยังเต้นอยู่หรือไม่ มันไม่ใช่เหล็กไหล และก็ไม่ได้ทำมาจากเหล็ก มันเป็นเลือดเนื้อของร่างกายที่มีอุณหภูมิมีความคิด มันหนีความเป็นความตายไม่ได้เหมือนทุกคนทั่วไป ดังนั้นมันคือฆราวาส อย่าขอให้มันเป็นเหมือนเทพเทวดา ไม่มีอารมณ์ความรู้สึก” เขามองหลินซินเหยียนที่ยังหน้าแดงไม่จางหายไป พูดยิ้มเยาะ “เมื่อกี้คิดไปถึงไหนแล้วใช่มั้ย?”
หลินซินเหยียนกระแอมเล็กน้อย ทำท่าทางขึงขัง “เปล่า”
เธอไม่ได้คิดไปถึงไหนซะหน่อย
ไม่มี!
ต่อให้มีก็จะยอมรับไม่ได้
อยู่ต่อหน้าผู้ชายคนนี้ เธอไม่รู้คำว่า อับอาย สองตัวนี้เขียนยังไงแล้ว
ถูกพาไปไกลเรียบร้อยแล้ว
“สุภาษิตนั้นพูดว่ายังไงนะ? คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล?”
“คุณกำลังพูดถึงผมหรอ?” เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย
“คุยอะไรกันอยู่หรอคะ?” จงเหยียนซีขยี้ตาอย่างงัวเงีย พึ่งตื่นสายตาเลยยังปรับตัวกับแสงไฟในห้องไม่ค่อยได้
“ไม่มีอะไรจ้า นอนเถอะ” หลินซินเหยียนรีบเข้าไปโอบกอดเธอ ตบหลังเธอเบาๆ
“หม่ามี๊คุณบอกว่าพรุ่งนี้จะพาหนูไปร้านสัตว์เลี้ยง อย่าลืมนะคะ” ไปร้านสัตว์เลี้ยงใกล้จะกลายเป็นโรคทางใจของเธอไปแล้ว
ตัวคนยังไม่ตื่นดีเลย ยังไม่ลืมที่จะเตือนอีก
หลินซินเหยียนกล่อมเธอ “ได้จ่ะ พรุ่งนี้พาหนูไป ตอนนี้นอนหลับดีๆนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม