หลินซินเหยียนไม่พูด
เพราะว่าไม่รู้จะบอกเขายังไง หรือใช้คำพูดแบบไหนบอกเขา
“พี่สะใภ้ คุณมีอะไรก็พูดออกมาเถอะ คุณยิ่งอ้ำอึ้ง ผมยิ่งไม่สบายใจ” ซูจ้านยิ่งลุกลนนั่งไม่ติดขึ้นไปอีก
ถ้าหากเป็นเรื่องดี หลินซินเหยียนไม่มีทางลังเลอยู่แบบนี้
ถ้าอย่างนั้น ก็มีเพียงคำตอบเดียว บอกความจริงไม่ได้ก็คือเรื่องไม่ดี
หลินซินเหยียนมองเขา “เสี่ยวยาตัดสินใจยังไง ล้วนมีเหตุผลของเธอ นายไม่ต้อง…”
ขณะที่เธอกำลังพูด สายตาของซูจ้านก็จ้องออกไปนอกบานกระจกอยู่ตลอด หลินซินเหยียนมองไปตามสายตาของเขา เลยเห็นภาพของฉินยากำลังควงแขนของช่าวหยุนลงมาจากรถ
หลินซินเหยียนถอนหายใจทีหนึ่ง เธอทำแบบนี้จริงด้วย
“พี่สะใภ้” สายตาของซูจ้านหันกลับมามองหลินซินเหยียน “คุณบอกความจริงไม่ได้ก็คือ จริงๆแล้วเธอมีคนรักใหม่แล้วใช่มั้ย?”
หลินซินเหยียนพูด “นายใจเย็นหน่อย”
ซูจ้านยิ้ม เอนหลังพิงกับเก้าอี้ “เธอเอาชายแก่คนหนึ่งมา จะเอาแสดงอำนาจต่อผมงั้นหรอ?”
“ฉันไม่ได้จะมาแสดงอำนาจต่อคุณ ก็แค่ไม่อยากให้คุณตามรังควานฉันเป็นพลาสเตอร์หนังหมา”
ตอนที่เขาพูดประโยคนี้ ฉินยาและช่าวหยุนก็เดินเข้ามาด้วยกัน ดังนั้นเลยได้ยินที่เขาพูด เลยพูดตอบต่อ
ซูจ้านมองเธอสองวิ แล้วรีบลุกขึ้นคว้าข้อมือของเธอทันที “ผมมีเรื่องต้องพูดกับคุณ”
“มีเรื่องอะไร คุณก็พูดออกมาตรงนี้เลย”
ฉินยาตั้งใจจะแกะมือของเขาออก
ซูจ้านตาแดงก่ำ ไม่สนใจการปฏิเสธของเธอดึงดันลากเธอออกไป
ฉินยาดิ้นตลอดทาง แต่ว่าแรงของผู้ชายผู้หญิงมีความเหลื่อมล้ำ เธอไม่สามารถหลุดพ้นจากการควบคุมของซูจ้านได้ ทั้งทางถูกเขาพามาถึงซอยถนนด้านนอกร้านอาหาร
“ซูจ้าน คุณรีบปล่อยฉันนะ” ฉินยาเพิ่มเสียงดังขึ้น เป็นสัญญาณว่ากำลังจะโมโหลางๆ
ซูจ้านเหวี่ยงเธอไปที่กำแพงข้างในซอย “บอกมาสิ ตกลงคุณจะทำอะไรกันแน่?”
“ก็อย่างที่คุณเห็น” ฉินยามองกลับมาที่เขาโดยไม่ปิดบัง
ราวกับกำลังแสดงให้เห็นว่าตัวเองในขณะนี้ตรงไปตรงมาแค่ไหน
ซูจ้านหรี่ตา “ชายแก่คนนั้นน่ะหรอ?”
“ฉันคิดว่าอายุมากกว่าหน่อย เก่งกว่าคุณที่เป็นแบบนี้เยอะเลย ไม่ใช่ว่ามีประโยคหนึ่งบอกว่า คนอายุมากจะรู้จักดูแลคนหรอ? เขาก็ดูแลคนเก่งมากพอดี ดีกว่าคุณเสียอีก” ฉินยาฉลาดมีไหวพริบ แต่ละคำทิ่มแทงใจคน
สีหน้าของซูจ้านราวกับถูกไฟแผดเผา แดงไปทั้งหน้า
ฉินยาลูบข้อมือที่ถูกเขาบีบจนแดง “เขาทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัย แล้วก็สามารถดูแลปกป้องฉันได้ พวกเรานอกจากอายุที่ห่างกัน ก็ไม่มีความขัดแย้งอะไรกันเลย อีกอย่างนะ ต่อหน้ารักแท้อายุเกี่ยวอะไรล่ะ?”
เธอไม่สนใจใบหน้าที่โกรธจัดของซูจ้าน พูดต่อไป “ที่ฉันเสียใจที่สุดก็คือ ฉันไม่สามารถให้ร่างกายที่บริสุทธิ์แก่เขาได้ แต่ว่าเขาไม่รังเกียจฉัน จุดนี้ทำให้ฉันซึ้งใจมาก…”
ทันใดนั้น ซูจ้านบีบคอของเธอ ดันเธอติดกับผนัง
คำรามใส่เธอ “คุณหลอกผม!”
ฉินยายังคงใจร้ายต่อไป “คุณไม่เชื่อ ฉันเรียกเขามาก็ได้นะ จูบกันต่อหน้าคุณ หรือว่าคุณอยากจะดูภาพที่มันร้อนแรงกว่านี้ล่ะ ฉันสามารถพิสูจน์ให้คุณดูได้นะ…”
ซูจ้านจ้องเธออยู่อย่างนั้น ในขอบตาแดงค่อยๆก่อตัวเป็นน้ำชั้นบางๆ เขาพูดเสียงแหบว่า “ฉินยา คุณเป็นแบบนี้ เราก็จบกันจริงๆแล้วนะ”
“ฉันกับคุณมันจบไปตั้งนานแล้ว คุณเองต่างหากที่มองไม่ชัด” มือที่อยู่ข้างลำตัวของเธอ กำเป็นหมัดแน่น
เล็บเกือบจะจิกเข้าไปในเนื้อของฝ่ามือ ความเจ็บปวดถึงจะทำให้เธอคุมสติไว้อยู่ ความเจ็บปวดถึงจะทำให้เธอรักษาความสงบบนใบหน้าไว้ได้
“ฉัน ฉินยา เดินหน้าไม่คิดถอยหลัง ฉันกับคุณ ไม่มีทางอีกแน่นอน!” เธอพูดคำเว้นคำ ขณะเดียวกันที่ทำร้ายซูจ้าน ก็เหมือนใช้มีดแทงหัวใจตัวเองด้วยเช่นกัน
“ได้ ได้ ได้ ดี” ซูจ้านค่อยๆชักมือกลับ พูดคำว่าได้แต่ละครั้ง เขาก็บอกกับตัวเองในใจ ยอมแพ้เถอะ ยอมแพ้เถอะ ยอมแพ้เถอะ เขารีบเบือนหน้าอย่างรวดเร็ว ไม่อยากให้ฉินยาเห็นความร้อนในตาของเขากลายเป็นน้ำ แล้วหยดลงมา
เขาหันหลังให้ฉินยา “จากนี้ไปผมจะไม่มารังควานคุณอีก ผมกับคุณ…หมดวาสนาต่อกัน!” พูดจบเขาก็ก้าวเท้าเดินจากไป
ฉินยาพิงกำแพงไม่ขยับ มองดูแผ่นหลังของเขา แสบจมูกขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ได้ มีก้อนสำลีจุกอยู่ที่คอ จนหายใจไม่ออก ได้แต่อ้าปากสูดอากาศ น้ำตาก็ไหลท่วมลงมาอย่างไม่อาจต้านทานได้
ซูจ้านไม่ได้จากไปแต่ย้อนกลับมาที่ร้านอาหาร เพื่อพิสูจน์ให้ฉินยาได้เห็น ว่าหัวใจของตัวเองได้ตายไปแล้วจริงๆ เผชิญหน้ากับเธอก็ไม่รู้สึกปั่นป่วนขึ้นมาอีก
ช่าวหยุนกำลังระบายความทุกข์กับหลินซินเหยียน “ฉันไม่มีทางเลือกถึงรับปากเธอ”
หลินซินเหยียนรู้ ฉินยาตัดสินใจแล้ว จะต้องทำทุกวิถีทางขอให้ช่าวหยุนช่วยเธอแสดงละครแน่ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม