จากนั้นไม่นานเขาก็พูดขึ้นอีกว่า “เป็นพืช”
จงเหยียนซีงุนงง รู้สึกว่ามันยากมาก “คุณปู่ซ่าวคะ คุณตั้งโจทย์ง่ายๆ หน่อยสิคะ หนูที่เดาเก่งยังเดาไม่เคยถูกเลยค่ะ” เธอมุ่ยปากเล็ก
“โจทย์นี้ง่ายแล้ว” ซ่าวหยุนลูบศีรษะของเธอ “เธอต้องใช้สมองคิดดู”
“เธอเป็นสมองหมู คิดไม่ได้หรอกครับ คิดได้แต่เรื่องกิน” จงเหยียนเฉินที่อยู่ข้างๆ พูดปลุกปั่น
จงเหยียนซีที่ถูกปั่นโมโหทันที “คุณสิเป็นหมู ทั้งครอบครัวคุณเป็นหมู!”
“………..”
ห้องนั่งเล่นเงียบไปครู่หนึ่งทันที แล้วทันใดนั้นเสียงหัวเราะก็ระเบิดขึ้นมา ซ่าวหยุนกับเฉิงยู่เวินหัวเราะชอบใจเป็นที่สุด
เพราะทั้งห้องนั่งเล่นพวกเขาเป็นสองคนที่ไม่ใช่ครอบครัวจง
จงเหยียนเฉินส่ายหน้าถอนหายใจ น้องสาวโง่เกินจะเยียวยาแล้ว
จงเหยียนซีถูกจงเหยียนเฉินทำให้โมโหจึงโพล่งออกมา เมื่อพูดจบตัวเธอพลันเสียใจภายหลัง เห็นสีหน้าของทุกคนในบ้านแล้วเธอก็รู้สึกอับอายมาก มุดศีรษะเข้าไปในอ้อมแขนของจงจิ่งห้าวแอบซ่อนทันที
จงจิ่งห้าวตบๆ หลังลูกสาวพลางปลอบว่า “ไม่เป็นไรนะ”
สาวน้อยยังคงมุดศีรษะเงียบเชียบ
จงจิ่งห้าวเกลี้ยกล่อมเธอ “พ่อช่วยลูกทายปริศนาเอาไหม”
จงเหยียนซีเงยหน้าขึ้นมาถามทันที “จริงเหรอคะ”
ลักษณะท่าทีของเด็กคนนี้เปลี่ยนปุบปับรวดเร็วไม่มีพักเลย
เขายิ้มอย่างอ่อนใจและพูดว่า “ใช่”
“งั้นคุณพ่อบอกหนูหน่อย ไท่ซ่างเหล่าจวินยื่นพระหัตถ์คืออะไรคะ” จงเหยียนซีมีกำลังใจขึ้นมาเล็กน้อย อยากเดาถูกสักครั้ง
จงจิ่งห้าวให้เธอวิเคราะห์ สอนให้เธอคิด “ไท่ซ่างเหล่าจวินเป็นเซียนถูกไหม”
“ผมรู้แล้วว่าคืออะไรครับ” ทันทีที่จงจิ่งห้าวเพิ่งใบ้ จงเหยียนเฉินก็คิดออก “กระบองเพชรครับ”
เขายิ้มกริ่มพลางอธิบาย “ไท่ซ่างเหล่าจวินเป็นเซียน มือของเซียน ก็คือกระบองเพชรใช่ไหมครับ”
จงเหยียนซีถลึงตาเบิกกว้างใส่พี่ชาย “น่าเกลียดจริงๆ!”
ปล้นเธอตลอดเลย
“คุณปู่ซ่าวออกอีกข้อค่ะ” พูดจบเธอก็ซบลงบนไหล่ของจงจิ่งห้าว และกระซิบข้างหูเขาว่า “คุณพ่อต้องช่วยหนูนะคะ หนูต้องชนะพี่ชายสักครั้ง”
จงจิ่งห้าวยิ้มอย่างทั้งตามใจและอ่อนใจ ลูกสาวขอร้องแล้วจะทำอะไรได้
ทำได้แค่ตอบตกลง
ซ่าวหยุนเข้าใจความคิดของจงเหยียนซี เพื่อปลอบใจสาวน้อยดื้อรั้นเอาแต่ใจคนนี้ เขาจึงคิดอีกหนึ่งโจทย์ (ลิงน้อยปิดประตูโผล่หัว)
“เป็นสิ่งของ”
จงเหยียนซีกะพริบตาปริบๆ ในใจคิดว่าประตูปิดอยู่ แล้วยังโผล่หัวออกมาได้ยังไง อย่างนั้นไม่ใช่ว่าหัวโดนตัดเหรอ
คิดได้อย่างนั้นแล้วเธอก็ขนลุกตัวสั่น คำตอบของปริศนานี้คืออะไรกัน
เดาไม่ง่ายสักนิด
“อ๊ะ กระดุมเสื้อแด๊ดดี้เบียดหนูค่ะ”
จงจิ่งห้าวกอดลูกสาวแน่น จงใจให้กระดุมเสื้อเชิ้ตตัวเองเบียดเธอ แต่ปรากฏว่าสาวน้อยคนนี้ซื่อบื้อมาก
จงเหยียนเฉินกะพริบตาปริบๆ มองสีหน้าของจงจิ่งห้าว แล้วลองพูดออกมาว่า “กระดุมเหรอครับ”
ไม่ช้าในสมองก็เกิดคำตอบที่แน่ชัด “มันคือกระดุม ฮ่าฮ่า ผมเดาถูกอีกแล้ว”
จงเหยียนซีถลึงตาดุใส่เขา “จะเป็นกระดุมได้ยังไง”
ซ่าวหยุนเอาน้ำเย็นเข้าลูบ “มันคือกระดุม เมื่อเธอติดกระดุมเสื้อผ้า ตัวกระดุมก็ต้องโผล่ออกมาข้างนอกใช่ไหมล่ะ”
เมื่อได้ยินคำตอบที่แท้จริง จงเหยียนซีก็พูดทันที “หนูพูดคำว่ากระดุมก่อนนะ หนูต่างหากที่เดาถูก”
“เธอไม่ได้พูดว่าเป็นคำตอบนี่” จงเหยียนเฉินพูด
“หนูเดาถูก หนูพูดก่อน” จงเหยียนซีพูดเสียงดัง ทำเหมือนกับว่าถ้าใครเสียงดัง คนนั้นเท่ากับสมเหตุสมผล
เฉิงยู่เวินที่นั่งอยู่ข้างๆ ซ่าวหยุนพูดว่า “เสี่ยวลุ่ยเป็นคนเจ้าอารมณ์นะ”
ซ่าวหยุนเองก็ยิ้มด้วย
หลินซินเหยียนออกมาเรียกพวกเขาไปทานอาหาร
จงเหยียนซีลงมาจากอ้อมแขนของจงจิ่งห้าว วิ่งไปหาหลินซินเหยียน แล้วฟ้องอย่างคับข้องใจว่า “หม่ามี๊ พี่ชายชอบแกล้งหนูตลอดเลยค่ะ”
หลินซินเหยียนลูบศีรษะของเธอ “พี่ชายแกล้งอะไรหนูอีก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม