เสิ่นเผยซวนดื่มไปไม่น้อย แต่สมองยังคงแจ่มชัด ถึงความสัมพันธ์กับผู้บัญชาการซ่งจะดีแค่ไหน แต่จะให้อยู่บ้านคนอื่นได้ยังไง
อยากจะปฏิเสธ แต่ไม่รู้จะปฏิเสธความกระตือรือร้นของผู้บัญชาการซ่งยังไง
เพราะถึงยังไงเรื่องครั้งนี้ เขาก็ยื่นมือเข้ามาช่วยตน
ไม่ว่าด้วยเหตุอันใด เมื่อคนผู้นี้กรุณาเขาล้วนต้องรับไว้
“เผยซวน ทำไมผมเห็นว่าคุณเหมือนมีเรื่องบางอย่างในใจ” ผู้บัญชาการซ่งมองเขาพลางถาม
สีหน้าของเขายุ่งเหยิงเกินไป แม้แต่ผู้บัญชาการซ่งที่ดื่มมากไปยังดูออก
ขณะที่เสิ่นเผยซวนกำลังกระสับกระส่ายว่าจะตอบผู้บัญชาการซ่งอย่างไร โทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงก็ดังขึ้น เขาพูดว่า “ผมรับโทรศัพท์นะครับ”
พูดอย่างนั้นแล้วเขาก็ล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ซ่งหย่าซินที่นั่งข้างเขาตั้งใจมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเขา เหมือนกังวลว่าซางหยูจะมายุ่งกับเขาอีก
แต่หน้าจอโทรศัพท์มือถือปรากฏเป็นคำว่าพี่สะใภ้ เธอถึงค่อยวางใจ เพียงแต่เขาไม่ใช่คนเมืองB ไม่ได้มีญาติที่นี่ แล้วทำไมถึงมีพี่สะใภ้ อยู่ที่นี่ได้ล่ะ
ซ่งหย่าซินเหลือบมองเสิ่นเผยซวนอย่างแปลกใจ
เมื่อเสิ่นเผยซวนเห็นสายที่โทรเข้ามาก็รีบรับทันที
“ฮัลโหล”
“เสิ่นเผยซวนเหรอ” หลินซินเหยียนถาม
เห็นซูจ้านเดินไปคนเดียว หลินซินเหยียนไม่วางใจ ดังนั้นจึงโทรหาเสิ่นเผยซวน อยากให้เขาคอยดูซูจ้าน
เสิ่นเผยซวนตอบ “ใช่”
“ซูจ้านบอกว่าจะไปหาคุณ คุณคอยดูเขาให้หน่อยนะ” หลินซินเหยียนพูด
เสิ่นเผยซวนขมวดคิ้วถาม “เขาเป็นอะไร”
“เขาเลิกกับฉินยาแล้ว อารมณ์ไม่ปกติ เมื่อครู่เพิ่งเอาเขาออกมาจากสถานีตำรวจ”
“ทำไมเขาถึงไปที่สถานีตำรวจได้” เสิ่นเผยซวนถามอย่างตึงเครียด
เกิดเรื่องร้ายอะไรขึ้นใช่ไหม
ไม่อย่างนั้นจะไปวุ่นวายที่สถานีตำรวจได้ยังไง
“ทะเลาะวิวาทกับคนอื่น ฉันดูแล้วบาดแผลไม่เบา ตอนแรกฉันอยากให้เขาไปวิลล่ากับฉัน แต่เขาไม่เต็มใจไป วันนี้ฉันยังมีธุระอีก เพราะอย่างนั้นรบกวนคุณคอยดูเขาให้หน่อยนะ ฉันกลัวว่าเขาจะทำอะไรโง่ๆ”
ตอนเย็นตกลงไว้ว่าจะเลี้ยงรับรองซ่าวหยุน คืนนี้เธอกับจงจิ่งห้าวจึงต้องอยู่ที่วิลล่า เพราะถึงอย่างไรก็อยากแนะนำซ่าวหยุนให้จงฉีเฟิงกับเฉิงยู่เวินได้รู้จัก
ดังนั้นจึงไม่สามารถติดตามซูจ้านได้
เสิ่นเผยซวนพูดว่า “ผมรู้แล้ว ผมจะไปตามหาเขา”
หลินซินเหยียนส่งเสียงตอบอืม
เมื่อวางสายเสิ่นเผยซวนก็หาเหตุผลที่จะกลับได้แล้ว เขามองไปยังผู้บัญชาการซ่ง “ผมมีธุระ ต้องกลับแล้วครับ”
ผู้บัญชาการซ่งไม่ได้บังคับให้เขาอยู่ เพราะถึงอย่างไรเขาก็มีเรื่องที่ต้องไปทำ “คุณไปเถอะ แต่คุณดื่มไปมาก ไม่สามารถขับรถได้...”
“คุณพ่อคะ ฉันไปส่งเขาเองค่ะ” ผู้บัญชาการซ่งยังพูดไม่ทันจบดี ซ่งหย่าซินก็พลันตัดบท
ผู้บัญชาการซ่งเหลือบมองลูกสาว รู้ความคิดภายในใจของเธอ ถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “เผยซวนดื่มแล้วขับรถไม่ได้ งั้นแกก็ไปส่งเขาเถอะ”
เสิ่นเผยซวนพูดว่า “ผมเรียกแท็กซี่ก็ได้ครับ”
เขาไม่อยากสร้างปัญหาให้คนอื่น ตอนนี้ค่อนข้างเป็นห่วงซูจ้าน จึงมองเจตนาของซ่งหย่าซินไม่ออก
แต่ต่อให้ไม่มีซูจ้าน เสิ่นเผยซวนก็เป็นคนสมองซื่อบื้อ จะไม่มีทางค้นพบความคิดของซ่งหย่าซินได้
ซ่งหย่าซินหยิบกุญแจรถแล้วพูดว่า “เรียกแท็กซี่ที่นี่ไม่ง่าย ให้ฉันไปส่งคุณเองเถอะ คุณดื่มไปมากขนาดนี้ปล่อยคุณไปคนเดียวคุณพ่อคงไม่สบายใจแน่ ถ้าเกิดอะไรขึ้น เราไม่สามารถหนีจากความรับผิดชอบได้ คุณดื่มอยู่ที่บ้านเรานะ คุณอย่าปฏิเสธเลย เราต่างก็สนิทกัน แค่ไปส่งคุณนิดหน่อยมีอะไรหนักหนาล่ะ หรือว่าคุณกลัวฉัน กลัวฉันกินคุณเหรอ”
เมื่อซ่งหย่าซินพูดในส่วนนี้ เสิ่นเผยซวนก็ไม่สามารถปฏิเสธได้จริงๆ ได้แต่ต้องตกลง
ระหว่างทางเขาโทรหาซูจ้าน ไม่นานก็ต่อสายได้ แต่ไม่มีคนรับ
ได้ยินหลินซินเหยียนบอกว่าเขาอารมณ์ไม่ปกติ เพราะฉะนั้นจึงกังวล ต่อสายหาอีกครั้ง แต่ก็ยังคงไม่มีคนรับ
สองครั้งล้วนไม่มีคนรับ เขาจึงค่อนข้างร้อนใจ
ซ่งหย่าซินที่กำลังขับรถอยู่ปลอบเขา “คุณอย่าเพิ่งร้อนใจ รออีกครู่หนึ่งค่อยโทรใหม่”
เสิ่นเผยซวนส่งเสียงตอบอืม
ซ่งหย่าซินเอ่ยถาม “ตอนนี้เราไปที่ไหนดี”
เสิ่นเผยซวนบอกว่ากลับบ้าน
หลินซินเหยียนบอกว่าซูจ้านไปหาตน เวลานี้คงเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่สำนักงาน เช่นนั้นจึงเหลือเพียงที่พักของเขา
สิบกว่านาทีต่อมารถก็มาจอดอยู่ที่หน้าประตูหมู่บ้านคอนโดของเขา
ซ่งหย่าซินจอดรถสนิท เขาเปิดประตูรถลงมา แล้วพูดว่า “คุณขับรถช้าลงหน่อยนะ ระวังเรื่องความปลอดภัยด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม