เสิ่นเผยซวนเมียงมองเข้าไปข้างในก็ไม่เห็นคนจริงๆ แล้วใบหน้าเขาก็เผยรอยยิ้ม “คุณทำดีที่สุดแล้ว อย่าทำให้เราลำบากอีกเลย รีบส่งคนออกมาเถอะ”
ฉินยากอดอก “จะมอบเจ้าสาวให้ง่ายๆ ได้ยังไง พวกคุณต้องผ่านการทดสอบจากพวกเราก่อน แบบนี้พวกเราถึงจะสามารถเชื่อใจพวกคุณได้ และสามารถวางใจมอบเจ้าสาวให้ได้”
เสิ่นเผยซวน “………..”
“รีบเริ่มเถอะ อย่าให้เลยฤกษ์”
เสิ่นเผยซวนพูดว่า “เพื่อให้พี่น้องได้คนงามมากอด ผมลุยเอง”
เขาถอดรองเท้าก่อนคนแรก สวมถุงเท้าแล้วลองเหยียบบนเปลือกทุเรียน เจ็บ เจ็บมากแม่งเอ๊ย การทดสอบนี้ควรเป็นประสบการณ์ให้ซูจ้านมาสัมผัส
รู้อย่างนี้น่าจะพาซูจ้านมาที่นี่ ให้เขาเอาฉินยาไป เผื่อว่าที่นี่จะไม่ทำร้ายพวกเขา
กวนจิ้งกัดนิ้วพลางมองเสิ่นเผยซวนอย่างระมัดระวัง แล้วถามว่า “เจ็บไหม”
เจ็บไหมเหรอ
ไม่เจ็บได้เหรอ
แต่เขากลับบอกว่าไม่เจ็บ ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่เจ็บสักนิด ทุเรียนต้องสุกแล้วแน่นอน ทุกหนามนุ่มหมดเลย”
ถ้าคุณพูดจริง ทำไมต้องโน้มน้าวให้เขาขึ้นไปล่ะ
กวนจิ้งทำท่าเหมือนไม่เชื่อ “ปกติเวลาถือก็ทิ่มมืออยู่แล้ว นับประสาอะไรกับใช้เท้าเหยียบล่ะ”
ครั้งนี้เสิ่นเผยซวนฉลาด เหลือบมองกวนจิ้งแล้วพูดว่า “ถ้าคุณอยากให้เจ้านายคุณไม่ได้กอดคนงาม งั้นคุณก็ไม่ต้องขึ้นมา”
กวนจิ้ง “………..”
ข่มขู่ นี่มันข่มขู่ชัดๆ เลย
เขาพูดไปพลางถอดรองเท้าไปพลาง “ทำไมคุณทำตัวต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนซูจ้านเลย ก่อนหน้านี้ผมเคยคิดว่าคุณเป็นคนดี ตอนนี้รู้สึกว่าคุณเป็นคนเลวแล้ว”
เสิ่นเผยซวนหัวเราะฮ่าฮ่า “คนเลวก็คนเลวสิ ตราบใดที่มีคนทุกข์ทรมานกับผม อยากพูดอะไรก็เชิญ”
กวนจิ้งทำเสียงจิ๊จ๊ะ “ไม่ใช่คนจริงๆ”
พูดจบเขาก็ขึ้นเหยียบเปลือกทุเรียก มันเจ็บจนแทบแหกปากร้อง
ราวกับมีเข็มทิ่มแทงฝ่าเท้า มันเจ็บจนพาให้คนอยากกรีดร้อง นี่มันคือการทรมานชัดๆ
โชคดีที่มีไม่กี่ชิ้น ทนเอาหน่อยก็ผ่านไปได้
ที่หน้าโต๊ะป้าหยูกับช่างแต่งหน้าพูดกฎว่า “ดื่มน้ำพริกป่นหนึ่งแก้ว ดื่มไวน์หนึ่งแก้ว สลับดื่ม”
กวนจิ้งพูดว่า “ผมอยากดื่มแค่ไวน์”
เทียบกับการดื่มน้ำพริกป่น เขาขอดื่มไวน์ดีกว่า
“ไม่ได้” ฉินยาเดินเข้ามาพูด
กวนจิ้งสูดดมกลิ่น “ถ้าคุณเป็นเพื่อนเจ้าสาว ผมจะทำให้คุณแย่กว่าที่ผมเจอ”
ฉินยายิ้ม “น่าเสียดาย ฉันไม่ใช่เพื่อนเจ้าสาว”
ตอนนี้เธอดีใจที่เธอไม่ใช่เพื่อนเจ้าสาว
แบบนี้ก็ไม่ต้องถูกใครเล่นงาน
“ครั้งนี้ผมเริ่มก่อน” กวนจิ้งอาสาหยิบน้ำพริกป่นแก้วแรกขึ้นมาก่อน รวบรวมความกล้าแหงนเงยศีรษะกรอกลงไป
เขาขมวดคิ้วแน่น หน้าตาเหยเก น้ำพริกไม่เพียงแสบร้อน แต่ยังบาดคอด้วย เป็นการทรมาน
ดื่มยากกว่าไวน์มากนัก
เขาตัดสินใจแล้วว่าในอนาคตจะไม่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวของใครอีก ยังไม่ทันได้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว ก็ถูกทำจนเป็นแบบนี้แล้ว ถ้าถึงตอนเป็นขึ้นมา ไม่ยิ่งเลวร้ายหนักหรอกเหรอ
เขาแอบตัดสินใจในใจ
โชคดีที่มีคนเยอะ
ดื่มคนละสองแก้วก็หมดแล้ว
ฉินยายิ้ม “เห็นแก่ความจริงใจของพวกคุณ ฉันจะให้พวกคุณเห็นเจ้าสาวแล้วกัน”
เธอเดินไปเคาะประตู “ฉุนฉุนเปิดประตู”
ไม่นาน เธอก็ได้ยินเสียงปลดล็อค แล้วประตูก็เปิดออก
เธอเบี่ยงตัวเพื่อให้พวกเขาเข้ามาดูเจ้าสาว
ในห้อง บนโต๊ะหัวเตียงมีดอกกุหลาบสด หัวเตียงถูกปกคลุมด้วยตัวอักษรสีแดง หลินซินเหยียนนั่งอยู่ที่ปลายเตียง ชุดแต่งงานสีขาวแผ่เต็มเตียงขนาดใหญ่ โจวฉุนฉุนหยิบกลีบกุหลาบในขวดโหลมาโปรยลงไปบนนั้นจนกระจายไปทั่ว ชุดแต่งงานสีขาวตัดกับสีแดง เป็นภาพที่ดูดีและโรแมนติกเป็นที่สุด
ทุกคนต่างมีสติหลีกทางให้เจ้าบ่าวเห็นเจ้าสาวของตัวเองก่อนใคร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม