ทุกคนต่างยื่นหัวกันไปดูว่าจงจิ่งห้าวจะจัดการสถานการณ์นี้ยังไง เขาจะยอมรับหรือไม่ยอมรับกันแน่
ถ้ายอมรับ มันน่าขายหน้านะเนี่ย ใครมันจะพกของแบบนั้นไปไหนมาไหนด้วย หรือว่าจะเกิดเรื่องอย่างที่คิดไว้ตลอดเวลากันนะ
ประธานหลี่ รู้สึกเปรี้ยวปาก อยากจะทำมากๆ แต่ก็ขำไม่ออก ไม่ทำได้แค่กลั้นมันไว้
ส่วนผู้ช่วยของเขาที่อยู่ด้านข้างเตรียมจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพนี้ไว้ กวนจิ้งกำลังจะลุกขึ้นมาห้าม ถ้าถ่ายออกไป ภาพลักษณ์ของจงจิ่งห้าวคงไม่เหลือแน่
แต่ใครจะรู้ แค่เขาขยับก็โดนจงจิ่งห้าวจับได้เสียแล้ว " นั่งลง "
เขาเอื้อมมือไปหยิบdurexในมือของหลินซีเฉิน ก่อนจะรีบเก็บลงในกระเป๋า " ขอบใจ "
" ...... "
หลินซีเฉินแปลกใจทำไมเขาถึงไม่โกรธเลยล่ะ
ก็เห็นว่าพวกลุงๆ ทั้งหลายกำลังหัวเราะเขาอยู่
เหมือนจะจับได้ถึงความสงสัยของเด็กชาย
จงจิ่งห้าวลดตัวลงไป แล้วขยับเข้าไปข้างหูของเด็กน้อย " ต้องมีคนขึ้นมาแทนนายแล้วแหละ "
หลินซีเฉินจ้องไปที่เขา เขาหมายความว่าอะไรกันนะ
แต่น่าเสียดายจงจิ่งห้าวที่ไม่ได้อธิบายในความสงสัยของเด็กน้อย แม่เขาก็ไม่ได้รู้สึกอับอายในสิ่งที่หลินซีเฉินได้ทำลงไป แต่กลับอารมณ์ดีเสียด้วยซ้ำ
ก่อนจะหยิบแก้วเหล้าที่ประธานหลี่รินให้เมื่อกี้ กระดกเข้าไป
กวนจิ้งบ้าไปแล้ว
ประธานหลี่ที่อยู่ข้างๆ ก็รู้สึกงุนงงไม่แพ้กัน เมื่อเจอสถานการณ์ที่ชวนกระอักกระอ่วนแบบนี้ ไม่ควรจะปกปิดไว้งั้นหรอกเรอะ
ทำไมเขาถึงยอมรับเสียดื้อๆ
นี่หมายความว่าถ้ายิ่งปกปิดจะยิ่งเห็น หรือว่าเพราะมันเป็นความจริงและไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร นี่มันจริงหรือไม่จริงกันแน่เนี่ย
ประธานหลี่มองไม่ออก แต่ก็ไม่กล้าถาม ก่อนจะมองไปที่หลินซีเฉินแล้วหัวเราะอย่างขำขัน " เจ้าเด็กน้อย อยู่กินข้าวกับเราก่อนสิ "
หลินซีเฉินส่ายหัวไปมา แล้วหันไปมองจงจิ่งห้าว ในใจก็สงสัยว่าทำไมเขาถึงไม่โกรธอะไรเลย
เด็กน้อยไม่เข้าใจ แต่ทำได้แค่หันตัวออกจากห้องไป
" เสี่ยวเฉิน.... "
หลินซีเฉินออกมานานแล้วไม่ได้กลับเข้าไป หลินซินเหยียนเลยต้องออกมาตามหาเขา
เมื่อออกมาจากห้องอาหาร หลินซีเฉินก็เห็นหลินซินเหยียน ตะโกนเรียกหาเขาอย่างรีบร้อน ก่อนเด็กน้อยจะวิ่งเข้าไปหา " หม่ามี๊ "
หลินซินเหยียน หันไปตามเสียงเรียก เมื่อเห็นลูกชายก็รีบวิ่งกรูเข้าไปหา ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เธอก้มตัวลงไปแล้วกอดลูกชาย
ถ้าวิ่งหายไปจะทำยังไง
หลินซีเฉินก้มหน้าพูดเสียงเล็กเสียงน้อย " ที่นี่กว้างเกินไปผมหลงทางแล้วครับ "
หลินซินเหยียนไม่เชื่อเลยสักนิด เพราะลูกชายของเธอความจำดีมากจะลงทางได้ยังไง
" พูดความจริงกับหม่ามี๊ซิ " หลินซินเหยียนจับลูกชายเงยหน้าขึ้น ให้เด็กน้อยมองหน้าเธอ
" ห้องน้ำไม่มีโถฉี่เด็กนี่นา ผมชิ้งฉ่องไม่ได้ ต้องลองให้คุณลุงมาช่วยผม ผมก็เลยต้องมาช้านี่ไง "
" แล้วทำไมไม่พูดความจริง "
" ก็มันไม่ใช่เรื่องที่น่าพูดสักหน่อย " หลินซีเฉินบู้ปาก
แล้วทำท่าทีเหนียมอาย
นี่ก็เป็นนิสัยส่วนหนึ่งของเด็กคนนี้
หลินซินเหยียนยืนขึ้นแล้วจูงมือเขากลับไป " ไปเถอะ ไปกินข้าวได้แล้ว "
อาหารถูกเสิร์ฟไว้นานแล้ว
หลินซีเฉินเหมือนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเล็กน้อย ยังคิดไม่ตกว่าสิ่งที่จงจิ่งห้าวพูดหมายความว่ายังไง
มีคนคืนแทนเรางั้นเหรอ
แล้วใครล่ะ
เมื่อกินข้าวเสร็จ จวงจื่อจิ่นก็พาเด็กๆ กลับบ้านไป นั่งเครื่องบินมานานก็ต้องเหนื่อยกันเป็นธรรมดา ต้องกลับไปล้างหน้าล้างตาอาบน้ำอาบท่า แล้วพักผ่อนเสียหน่อย
" เดี๋ยวฉันไปส่งพวกเขาก่อน เดี๋ยวอีกสักพักจะกลับมารับนะคะ "ฉินยาพูด
" ไม่ต้องหรอก เธอกลับไปที่ร้านได้เลย เดี๋ยวฉันกลับไปที่ร้านเอง " LEO เปิดร้าน ยังมีเรื่องมากมายที่ต้องทำ เธอเป็นคนรับผิดชอบ มีเรื่องอีกเยอะที่เธอต้องตัดสินใจเองทั้งหมด
" ถ้างั้นก็โอเคค่ะ " ฉินยาขึ้นรถไป
หลินซีเฉินที่นั่งอยู่บนรถ ก็มองไปนอกกระจกก็เห็นเหอรุ่ยเจ๋อที่ยืนอยู่ข้างๆ หลินซินเหยียน แล้วเด็กน้อยก็ถอนหายใจ
ถ้าเหอรุ่ยเจ๋อรวยแล้วก็หล่อกว่าจงจิ่งห้าวก็คงจะดี
" มีเรื่องอะไรอยากพูดกับฉันเหรอคะ " หลินซินเหยียนพูดพลางมองไปยังรถที่ขับออกไป
" เดินไปคุยไปดีกว่า " เหอรุ่ยเจ๋อ ยื่นมือมายังจะจูงมือเธอ แต่พอยกมือออกมาได้แค่ครึ่งเดียวก็ชักมือกลับไปดังเดิม
พอรู้ว่าเหตุรถชนครั้งนั้นมันเกิดขึ้นเพราะเหอรุ่นหลิน เป็นคนทำ ใจเขาก็ฝ่อขึ้นมาทันที
ทำให้เกิดความละอายใจต่อเธอ
" มีเรื่องอะไรในใจหรือเปล่าคะ " ตอนที่นั่งอยู่บนรถเขาเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่พูด ตอนกินข้าวใจก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เห็นได้ชัดว่าในใจต้องมีเรื่องอะไรอยู่แน่ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม