“เชิญคุณหลินไปพักก่อนดีกว่า หลังจากนั้นพวกเราค่อยมาเจรจาเรื่องงานกัน” หนานเฉิงส่งกระเป๋าเดินทางของเธอเข้ามา
“ขอบคุณ” จงเหยียนซีลากกระเป๋าเดินทางมา
หนานเฉิงมองเธอไปแวบนึงแล้วผันร่างเดินออกไป จงเหยียนซียืนอยู่ที่หน้าประตู แต่ก็ไม่ได้ปิดประตูลงไปทันที แต่ได้มองดูหนานเฉิงปิดประตูลิฟต์ลง กู้เสียนเดินออกมาจากตรงหัวมุม
“เจ้าตัวเดินไปไกลแล้วใช่มั้ย?”
“รีบเข้ามาเถอะ” จงเหยียนซีลากกู้เสียนเข้ามา
เธอถอดรองเท้าส้นสูงเปลี่ยนมาสวมรองเท้าแตะ เอากระเป๋าเดินทางไปวางข้างๆ นั่งลงไปบนโซฟา พลางเอ่ยถามออกไป “เรื่องที่ให้นายสืบไปเป็นยังไงบ้าง?”
ตลอดหนึ่งปีนี้เขากับจงเหยียนซีได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันโดยที่สามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ในประเทศก็คอยช่วยเธอสืบเรื่องบางอย่างอยู่
“หลังจากที่เธอตายไป เจียงโม่หานก็เอาเจียงต๋ากรุ๊ปกับว่านเยว่มาควบรวมเข้าด้วยกัน และก็ได้เป็นเหิงคังกรุ๊ปในตอนนี้นั่นเองส่วนจดหมายลาตายฉบับนั้นฉันก็ยังไม่เจอว่าใครเป็นคนทิ้งไว้”
จงเหยียนซีหรี่ตาลง จดหมายลาตายที่เธอถูกตัดสินว่าฆ่าตัวตายเมื่อตอนนั้น จะต้องเป็นคนที่ทำร้ายเธอจงใจวางเอาไว้อย่างแน่นอน คนที่ทำร้ายเธอคนนั้น แน่นอนว่าจะต้องเป็นเจียงโม่หาน แต่เธอก็ไม่มีหลักฐาน
เธอจะต้องหาหลักฐานมาให้ได้
“เพิ่งจะกลับมา ผ่อนคลายสักหน่อย ไปกินมื้อเย็นด้วยกันสักหน่อย ฉันจะเลี้ยงต้อนรับเธอเอง” กู้เสียนพูดยิ้มๆออกมา
“เหนื่อยแล้ว ไม่อยากไป ทำอาหารกันนิดๆหน่อยๆกินอยู่ที่ห้องกันก็พอแล้ว” จงเหยียนซีขยับลำคอเล็กน้อย
“ไม่ได้ๆ ออกไปกินกัน” กู้เสียนลากจงเหยียนซี “รีบสวมรองเท้าเร็ว”
จงเหยียนซีทำอะไรไม่ได้ จะปฏิเสธการต้อนรับขับสู้ของกู้เสียนไปมันก็ไม่ดี จึงได้ตอบตกลงไป
เธอสวมรองเท้าและออกไปกับกู้เสียน
“ไปที่ไหน?” ขึ้นมานั่งบนรถจงเหยียนซีก็ถามออกไป
กู้เสียนเอ่ยออกมา “เธอนั่งไปให้สบายใจเถอะ แพลนวันนี้ฉันเป็นคนจัดการเอง”
พูดไปแล้วเขาก็ได้สตาร์ทรถขับออกไป
เพียงไม่นานก็ได้เข้ามาจอดอยู่ตรงหน้าประตูร้านอาหารระดับไฮเอนท์ที่อยู่ใจกลางเมืองร้านหนึ่ง เมื่อก่อนจงเหยียนซีมาเป็นประจำ มันก็ไม่ได้แปลกอะไรเลยเหมือนกัน จึงทำเพียงแค่ยิ้มแล้วมองกู้เสียนไป “ทำให้นายสิ้นเปลืองเงินแล้ว”
“นานๆทีเธอจะกลับมา ก็จะต้องลงทุนหน่อยสิไม่อย่างนั้นแล้วจะแสดงความจริงใจของฉันออกไปยังไง?” กู้เสียนลงมาจากรถ โยนกุญแจรถไปให้บริกรร้าน
ทั้งสองคนเดินเข้าไป เลือกที่นั่งที่อยู่ชิดมุม ตรงนี้ค่อนข้างเงียบเลยทีเดียว
เพียงไม่นานพนักงานก็เดินเข้ามา จงเหยียนซีไม่มีกะจิตกระใจอะไร เลยให้กู้เสียนสั่งเองก็พอ
กู้เสียนยิ้มออกมา “งั้นฉันสั่งอันที่เธอชอบกินมาให้หมด?”
จงเหยียนซียิ้มออกมา “ได้อยู่แล้ว ถึงยังไงนายก็เป็นคนจ่ายเงิน”
ตอนที่พูดอยู่นั้นเอง สายตาของเธอเหลือบมองไปโดยไม่ตั้งใจ เห็นคนทั้งสองคนเดินเข้ามาจากหน้าประตู เจียงโม่หานแล้วก็ยังมีหลิงเวยที่ตามเขาอยู่ข้างๆมาด้วยอีกคน
หางคิ้วของเธอเลิกขึ้นมา ในใจคิดไปว่าโลกมันกลมจริงๆ เพิ่งจะกลับมาแค่วันเดียววันที่สองก็มาเจอกันแล้ว
เพียงไม่นานพวกเขาก็ได้นั่งลงกันไปตรงที่นั่งที่ติดริมหน้าต่าง
หลิงเวยสั่งอาหาร
รอหลังจากที่พนักงานเดินออกไปแล้ว เจียงโม่หานก็ได้ถามออกไป “ตกลงว่าเธอมีเรื่องอะไรจะพูดกับฉัน?”
หลิงเวยยิ้ม “กินมื้อเย็นกันก่อน”
เจียงโม่หานเห็นได้ชัดว่ามีความทนไม่ไหวอยู่บ้าง “ถ้าเธอไม่อยากพูด งั้นครั้งหน้าค่อยพูด”
เขาเหยียดตัวลุกขึ้น
หลิงเวยรีบดึงมือของเขาเอาไว้ เอ่ยเสียงเบาที่ประดับไปด้วยลักษณะการพูดร้องขอออกไป “โม่หาน กินข้าวด้วยกันกับฉันสักมื้อไม่ได้เลยหรือไง?”
“ฉันยังมีธุระ...” เจียงโม่หานยังคงปฏิเสธออกมา
“โม่หาน ฉันชอบคุณ ชอบคุณมานานแล้ว คุณหย่ามาปีนึงแล้ว พวกเรามาลองคบกันดูดีมั้ย?” หลิงเวยเอ่ยออกมาอย่างถ่อมเนื้อถ่อมตัว
เจียงโม่หานขมวดคิ้วออกมาด้วยความประหลาดใจ “หลิงเวย เธอกำลังพูดอะไรอยู่?”
“ฉันบอกว่าฉันชอบคุณ นานมากแล้ว...”
“หลิงเวย!” เจียงโม่หานขัดเธอออกมา “เธอสมองเพี้ยนไปแล้ว”
พูดจบเขาก็สลัดมือของหลิงเวยออก แล้วผันร่างเดินออกไป
“โม่หาน” เธอตามออกไป
“แม่งเอ๊ย แค่มากินข้าวก็ยังมาเจอกันได้อีก นี่เป็นการออกจากบ้านที่ไม่ดูฤกษ์ยามสินะ” กู้เสียนค่อนแคะออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม