กู้เสียนก็อยู่โทรศัพท์ออกมา จากนั้นก็ทำตามที่จงเหยียนซีบอก ค้นหาความหมายของตัวอักษรนั้นในป๋ายตู้ ไม่นานนักคำตอบก็เด้งขึ้นมา
เสียน/ความหมาย
เป็นที่ต้องสงสัย ความอาฆาต น่าสะอิดสะเอียน ; ไม่พอใจ
เขาจึงหยิบให้จงเหยียนซีดู " ชื่อของฉันความหมายอันไหนหรอ? "
จงเหยียนซีดูสักพัก สรุปก็คือไม่มีความหมายอันไหนดีเลยซักอย่าง
ชื่อนี้ตั้งดูเรื่อยเปื่อยเกินไปหน่อย
" ความรักของพ่อแม่นายดีไหม? " จงเหยียนซีถาม
" ดีเหรอ? " กู้เสียนเบะปาก " แม้แต่พ่อของฉันเองยังไม่เคยเจอเลย อีกอย่างแม่ของฉันไม่อนุญาตให้พูดถึงพ่อ เธอคิดว่าดีไหมล่ะ? "
จงเหยียนซีรู้สึกว่าตัวเองถามมากเกินไปแล้ว แค่ฟังชื่อ ก็ได้รู้ไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ที่เกิดเขามา
" ถ้างั้น นายก็ใช้นามสกุลเดียวกับแม่น่ะสิ " จงเหยียนซีถาม
กู้เสียนพยักหน้า " ฉันไม่รู้ว่าพ่อตัวเองนามสกุลอะไร "
" นายไม่มีเบาะแสสำคัญอย่างอื่นเลย จะหาเขาเจอได้ยังไง คนตั้งเป็นร้อยเป็นพัน อีกอย่างเจ้าตัวอาจจะไม่ได้อยู่ใน เมืองBก็ได้ "
" หาไม่เจอก็ช่างมันเถอะ เพราะยังไงฉันก็แอบหาลับหลังแม่ฉันอยู่ดี ถ้าแม่รู้แล้วก็คงรู้สึกไม่ดีแน่ๆ " กู้เสียนไม่ใช่คนดื้อรั้น เพียงแค่เขาอยากจะเห็นว่าหน้าตาของพ่อตัวเองเป็นยังไงก็เท่านั้น
ถ้าไม่มีวาสนาต่อกัน ก็คงต้องปล่อยไป
อาการบาดเจ็บของจงเหยียนซีดีขึ้นมาบ้างแล้ว ก็เลยย้ายออกจากเมืองB แล้วไปรักษาตัวที่ต่างประเทศแทน
ณ เหิงคังกรุ๊ป
หลิงเวยเคาะประตูแล้วเดินเข้ามา จากนั้นก็เอาเอกสารหนึ่งชุดยื่นให้กับเจียงโม่หาน " นี่คือผู้รับผิดชอบของบริษัทรุ่นเหม่ยที่จะมาพูดคุยเจรจาในครั้งนี้กับเราค่ะ "
บริษัทรุ่นเหม่ยเป็นบริษัทหนึ่งของต่างประเทศ ที่ร่วมทำโครงการกับเหิงคังกรุ๊ปในครั้งนี้ เพื่อที่จะตีตลาดภายในประเทศ แต่เหิงคังกรุ๊ปก็ได้รับแหล่งทรัพยากรครึ่งหนึ่งจากการร่วมงานในครั้งนี้ และนี่ก็เป็นผลประโยชน์ที่ต่างฝ่ายต่างได้รับจากการร่วมมือกัน
ทั้งสองฝ่ายและให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
เจียงโม่หานพลิกดูข้อมูลของผู้รับผิดชอบงานก็พบว่าเป็นคนในประเทศ สายตาของเขาเลื่อนลงไปสบตากับดวงตาของคนในรูปภาพนั้น ในใจก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปชั่วขณะ มันทำให้เขานึกถึงใครคนหนึ่ง
ใครคนนั้นที่ตายไปแล้ว
สายตาของเขาก็หันไปดูตรงฝั่งข้อมูลข้างๆ ในแฟ้มนั้นข้อมูลทั้งหมดไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับคนนี้เขาเคยรู้จักเลยสักนิด
แค่ดวงตาคู่นั้นมันคล้ายกันก็เท่านั้นเอง
หลินลุ่ยซีไม่เชื่อนั้นก็มีตัวอักษรซีอยู่ด้วย เหมือนกับเธอคนนั้นเลย
" ให้หนานเฉิงไปรับที่สนามบินไหมคะ? " หลิงเวยถาม
" เที่ยวบินตอนกี่โมง? " เจียงโม่หานปิดเอกสารลง
" บ่ายสามโมงค่ะ" หลิงเวยตอบกลับ
" ฉันจะไปรับด้วยตัวเอง " เจียงโม่หานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วต่อสายไปยังห้องของเลขา " จองโรงแรมที่สภาพแวดล้อมโอเคให้หน่อยที่หนึ่ง "
" ได้ค่ะ ประธานเจียง "
ถ้าวางโทรศัพท์แล้ว ก็หยิบเอกสารบนโต๊ะมาเปิด
" ประธานเจียง นี่ไม่จำเป็นต้องให้คุณไปรับด้วยตัวเองเลยนะคะ..... "
" ทำไมล่ะ " เจียงโม่หานเงยหน้าขึ้น น้ำเสียงเย็นชา " เธอจะตัดสินใจเองไหมล่ะ? "
หลิงเวยรีบอธิบายต่อ " ไม่ใช่นะคะ ฉันแค่กลัวว่าการที่คุณลดตัวลงไปแบบนี้ จะทำให้บริษัทรุ่นเหม่ยดูถูกพวกเรา อีกอย่างทางโน้นก็ส่งมาแค่คนรับผิดชอบโครงการ ฉันกับหนานเฉิงใครไปรับก็ดูเหมาะสมกว่า แต่ว่าถ้าคุณไปจะดูไม่เหมาะสมนะคะ "
ตั้งแต่เขากลับจงเหยียนซีหย่ากันไป หนึ่งปีมานี้ เขาก็เอาหัวจิตหัวใจทั้งหมดโฟกัสอยู่แต่กับการทำงาน สองบริษัทที่รวมกันก็เติบโตได้อย่างดีงาม
แน่นอนว่า มันต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เขาพยายามลงทุนกับมัน
" ถ้าฉันไปเองมันก็แสดงถึงความจริงใจของพวกเรามากกว่า เอาตามนี้ เธอไปทำงานเถอะ "
" แต่ว่า.... "
" ไปเถอะ " น้ำเสียงเจียงโม่หานดูเย็นชากว่าเดิม เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากพูดถึงประเด็นนี้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม