ผู้หญิงที่อยู่ในกระจกแสดงสีหน้าดุร้ายออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่ยอมที่ไม่ว่าจะร้องขอมาเท่าไหร่ก็ไม่ได้กลับมาเลย
ผ่านไปนานกว่าเธอจะปรับอารมณ์ให้ดีขึ้นมาได้ จากนั้นก็เดินออกจากห้องน้ำไป
เพียงไม่นานฝีเท้าของเธอก็ได้หยุดลงอีกครั้ง
เพราะว่าตรงกันข้ามเธอมีคนหนึ่งกำลังยืนอยู่
หลิงเวยหรี่ตาลง “คุณหลิน มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?”
จงเหยียนซีที่จากเดิมกำมือทั้งสองข้างแน่น ก็ได้คลายออกไปนิดหน่อย ยิ้มพลางเอ่ยออกไป “มาได้สักพักนึงแล้ว”
สีหน้าของหลิงเวยเปลี่ยนไปทันที
จงเหยียนซียิ้มหยันออกมา “ล้อเล่นน่า ห้องน้ำสถานที่นี้ ไม่มีความจำเป็นใครก็จะไม่มากันหรอก ทำไมสีหน้าเธอถึงได้ดูไม่ดีขนาดนี้?”
หลิงเวยชำเลืองมองเธอไปนิ่ง ไม่ได้พูดอะไร เอี้ยวตัวเดินออกไป
จงเหยียนซียืนอยู่ที่เดิม มุมปากแสยะยิ้มเย็นออกมาเบาๆ
คนที่ต้องการจะกำจัดเธอให้ตายไปนึกไม่ถึงว่าจะเป็นหลิงเวย
นี่เป็นคนที่เธอนึกไม่ถึงอย่างแน่นอน
เธอหันหน้าไปมองเงาร่างเบื้องหลังที่เดินออกไปของหลิงเวย สายตาก็เริ่มดุร้ายออกมามากขึ้น
ความเจ็บปวดบางอย่างมีเพียงเธอเองเท่านั้นที่รู้
เธอเดินเข้าห้องน้ำ มองอ่างล้างมือไปแวบนึง อ่างล้างมือหินอ่อนที่ส่องสว่างออกมา เช็ดจนสามารถสะท้อนเงาคนออกมาได้ ดวงตาค่อยๆเลิกขึ้นมา มองตัวเองที่อยู่ในกระจก เป็นอีกใบหน้าหนึ่งเลย บนใบหน้าของเธอได้รับบาดเจ็บ เดิมทีมันก็สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อยู่ แต่เธอกลับเลือกที่จะเปลี่ยนใบหน้าของตัวเอง
เมื่อก่อนเธอตาบอด
ตอนนี้เธอเป็นตัวเองคนใหม่ จะให้คนที่รังแกเธอ หลอกลวงเธอ ทำร้ายเธอพวกนั้นได้ชดใช้!
เดินออกมาจากห้องน้ำ เธอไม่ได้กลับไปที่งานเลี้ยงอีก แต่ได้เดินไปที่ด้านนอกงานเลี้ยง ยืนอยู่บนขั้นบันได ส่งข้อความไปหากู้เสียน 【ฉันรอนายอยู่ที่หน้าประตู】
อากาศวันนี้ดีมาก พอเงยหน้าขึ้นไป ก็สามารถมองเห็นดวงดาวเต็มไปทั่วทั้งท้องฟ้า เธอมองอยู่นาน ในดวงตาได้ปกคลุมไปด้วยละอองน้ำอยู่ชั้นนึง “ได้ยินมาว่าคนตายไปแล้ว จะได้กลายไปเป็นดวงดาวดวงหนึ่งที่อยู่บนท้องฟ้า หนูเป็นดวงนั้นหรือเปล่า? ในตลอดทุกเวลา หนูเองก็กำลังมองแม่อยู่ด้วยใช่มั้ย?”
เธอกำลังตกอยู่ในความเจ็บปวดจากการที่ได้สูญเสียลูกไปพวกนั้นอยู่ จู่ๆบนบ่าก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา กลิ่นอายที่คุ้นเคยอยู่รอบๆ ใจของเธอบีบรัดแน่นขึ้นมาทันที หันไปก็เห็นเจียงโม่หานยืนอยู่ข้างๆเธอ
“อากาศที่นี่มันหนาว คุณหลินดูแลตัวเองให้ดี”
ในเสื้อผ้ายังคงมีอุณหภูมิจากร่างของเขาหลงเหลืออยู่ ความคุ้นเคยอย่างนั้น เพียงไม่นานเธอก็ได้ปรับอารมณ์ของเธอให้เรียบร้อย พลางเอ่ยออกไปนิ่งๆ “ประธานเจียง นี่กำลังเป็นห่วงฉันอยู่เหรอคะ?”
ตอนนี้พวกเราทำงานร่วมกัน คุณหลินป่วย มันจะทำให้กระบวนการมันล่าช้าไปมาก” บนร่างของเจียงโม่หานสวมเสื้อเชิ๊ตสีดำบางๆอยู่เดี่ยวๆ เนกไทก็ยังห้อยอยู่ที่หน้าอกอย่างพิถีพิถัน มือข้างหนึ่งของเขาล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ มองไปข้างหน้าด้วยสายตาที่จริงจัง รูปลักษณ์ดูหยิ่งยโส
“ฉันก็ยังนึกว่าประธานเจียงจะเป็นห่วงฉันเสียอีก ขอถามละลาบละล้วงหน่อยได้มั้ยคะว่ากับแหวนวงนั้นทำไมประธานเจียงถึงจะต้องอยากจะได้มาเสียให้ได้? ต้องรู้ก่อนว่าราคาของตัวมันเองมันก็ไม่ได้คุ้มค่ากับราคานี้เลยนะคะ”
เจียงโม่หานหันหน้าไปมองจงเหยียนซี เงียบอยู่สักพักหนึ่ง “คุณหลินคิดว่าละลาบละล้วงก็ไม่ควรถามสิครับ”
พูดจบเขาก็เดินลงขั้นบันไดไป เดินไปยังรถคันสีดำคันนั้นที่จอดอยู่ข้างทาง
จงเหยียนซีเงยหน้าขึ้น อดไม่ได้ที่อยากจะยิ้มเยาะออกมา ตอนนี้แสร้งทำเป็นรักมาก?
“ประธานเจียง” จงเหยียนซีเรียกเขาเอาไว้ เธอเหยียบรองเท้าส้นสูงเดินลงบันไดไปอย่างระมัดระวัง หยิบเสื้อสูทบนร่างออกแล้วส่งไปให้เขา “ฉันไม่ชินกับการใช้ของของคนอื่นค่ะ”
เจียงโม่หานยื่นมือออกไปรับมา จงเหยียนซีผันร่างไปก็มองเห็นหลิงเวยที่เดินออกมาจากงานเลี้ยง เธอจงใจแสร้งทำเป็นเท้าพลิก “อ๊ะ!”
เจียงโม่หานรับเธอเอาไว้ทันที เธอถือโอกาสเกาะลำคอของเจียงโม่หานเอาไว้ ใบหน้าตื่นตกใจออกมา
ระยะห่างใกล้กันมากเกินไป ผ้าชุดราตรีบนร่างของเธอก็น้อยชิ้น ส่วนเขาก็สวมเพียงแค่เสื้อเชิ้ตตัวเดียว สัมผัสที่ใกล้ชิดกันมากอย่างนี้ การที่กำลังกอดอยู่ในอ้อมแขนนี้มันได้ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นที่ตะกายขึ้นมาเงียบๆ เขาแทบจะรัดแขนเอาไว้แน่นไปโดยทันที
“เหยียนซี” เขาโพล่งออกมาโดยไม่ทันได้ยั้งคิด
จงเหยียนซีเดิมทีอยากจะสลัดออกไป เห็นเงาร่างที่พุ่งตัวเข้ามาโดยไม่สนใจภาพลักษณ์นั้นแล้ว เธอจึงไม่ได้ขยับ ไม่แม้แต่จะส่งเสียงอะไรออกไปเลย แสร้งทำเป็นตกใจไม่ได้สติกลับมา แอบอิงอยู่ในอ้อมแขนของเขา
เธอเปลี่ยนหน้าตาไปแล้ว แต่กลับเปลี่ยนความรู้สึกให้กับคนอื่นไปไม่ได้ ร่างกายก็ไม่มีจะเปลี่ยน
เจียงโม่หานเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกที่คุ้นเคยที่ได้ห่างหายไปนานของในเวลานี้ เอาหน้าฝังลงไปในอ้อมกอดของเธอไปอย่างถูกครอบงำ เอ่ยไปด้วยเสียงแหบพร่าว่า “ผมคิดถึงคุณมาก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม