แสงแดดสาดส่องลงมากำลังพอดี หล่อนเดินอย่างเชื่องช้าอยู่บนถนน เมื่อรู้สึกว่าเริ่มปวดเท้าเล็กน้อย หล่อนถึงได้เรียกรถไปที่โรงแรม
เมื่อรถแท็กซี่ขับมาจอดที่หน้าประตูโรงแรม หล่อนจ่ายเงินแล้วเดินลงจากรถไป
ทันทีที่เดินมาถึงห้องโถงก็เจอเข้ากับหลิงเวยที่กำลังเดินเข้ามา หล่อนยิ้มออกมา“คุณหลิน”
จงเหยียนซีแปลกใจที่หล่อนมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่
“มาหาฉันเหรอ หรือว่ามีเรื่องเกี่ยวกับงาน?”เธอถามออกไป
หลิงเวยยังคงยิ้มอยู่“ไม่ใช่ ฉันก็แค่อยากจะเชิญคุณหลินไปดูเรื่องสนุกๆเรื่องหนึ่ง”
จงเหยียนซีรู้สึกเย็นวาบขึ้นมาในใจทันที เดิมผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นคนใจดี แถมยังชอบเสแสร้งอีกด้วย ซึ่งเมื่อก่อนหล่อนยังเสแสร้งทำเป็นไร้เดียงสาต่อหน้าเธออยู่เลย
แต่สุดท้ายก็อำมหิตอยากจะเอาชีวิตเธอ!
เธอจะต้องระวังหล่อนไว้!
“ฉันกับคุณไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น”จงเหยียนซีปฏิเสธ
ใครจะรู้ว่านี้เป็นอุบายของหล่อนรึเปล่า?
“เจอกันครั้งแรกก็อาจจะไม่คุ้นเคย แต่พอเจอกันอีกครั้งเดี๋ยวก็สนิทกันเอง อีกอย่างคุณก็ทำงานร่วมกับบริษัทของฉัน เพราะงั้นก็นับว่าเป็น‘คนในครอบครัวเดียวกัน’แล้ว คุณหลินพึ่งมาเมืองBเป็นครั้งแรก คงจะยังไม่คุ้นเคยกับหลายๆอย่าง แถมคงยังหาที่ผ่อนคลายอารมณ์ไม่ได้ ดังนั้นฉันก็เลยอยากจะเชิญคุณ ฉันก็แค่อยากให้คุณหลินผ่อนคลาย”หลิงเวยที่สวมรองเท้าส้นสูงอยู่ก้าวเข้ามาสองก้าว หล่อนห่างจากเธอแค่เพียงครึ่งเมตร“ดูเหมือนคุณหลินกำลังระวังตัวจากฉันอยู่เลยนะคะ”
“ฉันกับคุณไม่ได้มีเรื่องข้องใจอะไรกันสักหน่อย ทำไมฉันจะต้องระวังคุณด้วยล่ะ?”จงเหยียนซียิ้มออกมาบางๆ “แต่ว่าคุณดูอยากเชิญฉันไปขนาดนี้ ไม่ทราบว่าอยากจะทำอะไรกับฉันรึเปล่า?”
“ฉันว่าคุณหลินคงเข้าใจผิดแล้วล่ะ”หลิงเวยอธิบาย“ฉันมาเชิญคุณหลินด้วยความจริงใจ ที่คุณปฏิเสธฉันแบบนี้ ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ไว้ใจฉันเลยนะ”
จงเหยียนซีหัวเราะออกมา“ขนาดตัวฉันเองฉันยังไม่เชื่อเลย”
แล้วจะให้เชื่อคนอื่นได้ยังไง?
แถมนี่ยังเป็นคนที่เคยทำร้ายเธอด้วย?
จู่ๆเธอก็คิดขึ้นมาได้ หรือว่าครั้งนี้หล่อนจะจ้างคนมาทำร้ายเธออีกนะ?
แต่พอมองย้อนกลับไป หล่อนก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องทำนี่นา
อีกอย่างตอนนี้เธอก็เป็นตัวแทนในการเจรจาการร่วมงานระหว่างบริษัทรุ่นเหม่ยกับเหิงคังกรุ๊ปอยู่ด้วย
“ฉันมีธุระ”พูดจบเธอก็รีบเดินไปที่ลิฟต์อย่างรวดเร็ว
“คุณหลิน”
หลิงเวยหันมามองตามเธอ“ฉันอยากจะบอกคุณว่า อย่าคิดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้ล่ะ”
“นี่มันหมายความว่าไง?”จงเหยียนซีไม่เข้าใจ
“อย่าคิดนะว่าคืนนั้นที่งานเลี้ยงการกุศลฉันจะไม่เห็น คุณตั้งใจเข้าหาเจียงโม่หาน”หลิงเวยทำหน้าขรึม
“ใครก็ตามที่อยากจะได้เขา ล้วนมีจุดจบที่ไม่ดีทั้งนั้น”
จงเหยียนซีเข้าใจได้ทันที เดิมที่หล่อนหมายถึงก็คือเรื่องที่เกิดขึ้นตรงประตูหน้างานเลี้ยงวันนั้น หล่อนเห็นว่าเธอตั้งใจแกล้งทำเป็นข้อเท้าพลิกแล้วล้มลงไปในอกของเจียงโม่หาน
“ตอนแรกฉันก็ไม่คิดอะไรหรอกนะ แต่พอเธอเตือนเท่านั้นแหละ ฉันรู้สึกว่าที่จริงประธานเจียงก็ไม่ได้หน้าตาแย่นะ แถมยังมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีด้วย ฉันชอบเลยเชียวล่ะ”เธอยิ้มร่าออกมา“ประธานเจียงก็ไม่ได้แต่งงานกับคุณ ถ้างั้นฉันคงมีเหตุผลในการช่วงชิงความสุขมาแล้วสินะ?”
สีหน้าของหลิงเวยเปลี่ยนไปทันที มันย่ำแย่ถึงขีดสุด“ไม่เจียมตัวเลยนะ!”
“เขายังไม่ได้แต่งงานและฉันก็ยังไม่ได้แต่งงาน แล้วทำไมฉันถึงจะจีบเขาไม่ได้ล่ะ แล้วมันไม่เจียมตัวยังไงเเหรอ?”เธอจงใจหยิบโทรศัพท์ออกมา“ถ้างั้นพวกเราถามประธานเจียงดีไหมว่า ฉันจีบเขาได้รึเปล่า?”
“นี่คุณ……”หลิงเวยชี้ไปที่เธอ เธอลดมาดลงแล้วทำท่าโมโหกระฟัดกระเฟียดออกมา สิ่งที่หลินลุ่ยซีทำมันอยู่เหนือความคาดหมายของเธอ
“ไม่รู้ว่าประธานเจียงจะรู้รึเปล่าว่าคุณทำอะไร”เธอแกล้งทำเป็นกดโทรออก หลิงเวยรีบปรี่เข้ามากดวางสายแล้วปัดโทรศัพท์เธอตกลงไปบนพื้น หน้าจอแตกทันที
จงเหยียนซียืนนิ่งพลางเหลือบมองโทรศัพท์ที่หน้าจอแตกร้าวกองอยู่บนพื้น เธอขมวดคิ้วขึ้น“โทรศัพท์เครื่องนี้ฉันพึ่งจะซื้อมาได้ไม่นานนะ”
“เท่าไหร่”หลิงเวยหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากในกระเป๋า“ฉันจ่ายคืนให้”
“ฉันไม่ต้องการให้คุณชดใช้หรอก แต่ว่าเก็บมันขึ้นมาให้ฉัน”สีหน้าของเธอนิ่งสงบ
“หึ”หลิงเวยทำท่าหยิ่งยโส“ฉันไม่มีทางเก็บให้คุณหรอก!”
พูดจบก็หันขวับกลับไป
จงเหยียนซีก้มลงไปเก็บแล้วมองหน้าจอโทรศัพท์ที่แตกเป็นเสี่ยงๆ เธอไม่แสดงสีหน้าความรู้สึกใดๆออกมาและก็ไม่ได้ขึ้นไปชั้นบน เธอเดินไปที่หน้าเคาน์เตอร์โรงแรม“ห้องโถงของโรงแรมที่นี่มีกล้องวงจรปิดไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม