จากสำนักงานตำรวจถึงเรือนมีระยะห่างอยู่พอตัว ในช่วงเวลานี้หนานเฉิงก็ถามขึ้นมา “หัวหน้าหวู คุณไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ เหรอครับ”
หนานเฉิงรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ ถ้าคนที่อยู่ข้างในดีๆ จะหายไปได้ยังไง?
เธอพึ่งพาเจียงโม่หานมาตลอด นอกจากเจียงโม่หานกับเขาแล้ว ไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้
ห้องขัง เป็นสถานที่ที่จะเข้าออกที่นั่นได้ง่ายๆ หรือไงกัน?
เขาอดที่จะสงสัยไม่ได้ เขารู้สึกว่าคนที่สามารถพาเธอออกไปได้คือหัวหน้าหวูคนเดียวเท่านั้น
หัวหน้าหวูเหลือบมองเขาแต่ไม่พูดอะไร
เพราะเขาไม่อยากจะอธิบายให้เขาฟัง
คนหนีไปแล้ว เป็นเรื่องที่เขาคาดไม่ถึง เขาต้องการที่จะสืบเรื่องราวให้ชัดเจน
หลังจากนั้นไม่นาน รถก็หยุด หัวหน้าหวูแกล้งทำเป็นไม่รู้ บอกว่าจะมาตรวจนักโทษ สั่งให้ผู้คุมไปนำตัวนักโทษมา
พอผู้คุมได้ยินชื่อก็พูดออกมา “นักโทษหญิงคนนี้ป่วย กำลังเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลครับ” หนานเฉิงมองไปทางหัวหน้าหวูทันที ไหนเขาบอกว่าเขาไม่รู้เรื่องไง?
“ทำไมฉันไม่รู้เรื่องนี้” เรื่องนี้ต้องผ่านการรับอนุญาตของเขา ทำไมเขาไม่เห็นเอกสารฉบับนี้เลย?
แล้วป่วยเป็นโรคอะไร ทำไมถึงได้ออกไปรักษาที่โรงพยาบาลข้างนอก?
เขาไม่ได้มองสีหน้าของหนานเฉิง รีบพูดกับหัวหน้าผู้คุมขังทันที “พาฉันไปที่นั่นเดี๋ยวนี้”
“ครับ” พอหัวหน้าผู้คุมได้ยิน จึงรู้สึกแปลกใจ นี่มันเหมือนจะเกิดเรื่องไม่ดีเลย
พวกเขาออกไปเป็นกลุ่ม ระหว่างทางไปโรงพยาบาลผู้คุมขังก็พูดว่า “หัวหน้าหวูครับ คุณไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ เหรอ?”
หัวหน้าหวูหรี่ตามอง “หมายความว่ายังไง”
“ด้วยคำสั่งของคุณ พวกเราควบคุมเธออย่างเข้มงวด ที่เธอสามารถออกไปได้ในครั้งนี้ เพราะเสี่ยวหวางลูกน้องคนสนิทของคุณมาจัดการ ผมนึกว่ามันเป็นความตั้งใจของคุณ”
หัวหน้าหวูเลิกคิ้วขึ้น เมื่อไม่นานมานี้ญาติของเสี่ยวหวางทำผิดจนโดนจับ อยากขอให้เขาช่วยใต้โต๊ะ แต่ว่าความผิดที่กระทำเป็นโทษอาชญากรรมค่อนข้างร้ายแรง หัวหน้าหวูจึงรู้สึกว่าคนคนนั้นควรได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง
หลังจากที่ เสี่ยวหวางพูดขอร้องหลายครั้ง หัวหน้าหวูเริ่มโกรธ จึงด่าออกไป “ในฐานะเจ้าหน้าที่ราชการ เราต้องเป็นแบบอย่างที่ดี สำหรับพวกที่เป็นอันตรายต่อสังคม เราจะเก็บไว้ไม่ได้ ถึงแม้จะเป็นญาติของนาย แต่ก็ทำผิด ในเมื่อทำผิด หรือทำผิด ก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย นายไม่สามารถปล่อยคนร้ายไป เพียงเพราะเขาเป็นญาติของนาย”
หลังจากถูกตำหนิ เสี่ยวหวางก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย
ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีมาโดยตลอด
หรือว่าสีหน้าเชื่อฟัง แต่ในใจไม่ยอม?
หัวหน้าหวูสีหน้าเคร่งเครียด
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงโรงพยาบาล หัวหน้าคุมขังพาพวกเขาไปที่ห้องไอซียู ตามขั้นตอนแล้วนักโทษแบบนี้ ถึงจะป่วยหนักจนจำเป็นต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลก็ต้องมีตำรวจสองคนควบคุมอยู่ข้างๆ เพื่อป้องกันการหลบหนี เรื่องนี้หัวหน้าผู้คุมขังเป็นคนจัดเตรียม เขาเมื่อวานนี้เขายังมาตรวจสอบด้วยตัวเองอยู่เลย
วันนี้มาถึงตรงหน้าประตูห้องไม่มีใครเลย หัวหน้าผู้คุมขังเดินไปถาม พยาบาลบอกว่าคนไข้กำลังอยู่ที่ห้องตรวจ ทั้งกลุ่มจึงย้ายไปที่พวกเขาเดินไปทางโต๊ะพยาบาลหน้าห้องตรวจ แล้วสอบถามว่าหลิงเวยอยู่ในห้องตรวจห้องไหน
พยาบาลตรวจสอบข้อมูลก่อนจะตอบว่าใช่ เธออยู่ในห้องอัลตราซาวนด์ หนานเฉิงถามเพิ่มเติม “เธอป่วยเป็นอะไรครับ”
“ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันค่ะ” มีหลายโรคที่ต้องตรวจโดยการอัลตร้าซาวด์ ในรายงานคนไข้ ก็บอกแค่ว่าต้องตรวจอัลตร้าซาวด์เท่านั้น ไม่ได้บอกว่าสงสัยเป็นโรคอะไร หลังจากตรวจแล้ว นำแผ่นอัลตร้าซาวด์ไปมอบให้คุณหมอดูถึงจะสามารถยืนยันได้
“ไปกันเถอะ” หัวหน้าหวูพูด ตอนนี้ต้องตามหาคนให้เจอก่อน
ป่วยเหรอ ตอนนี้เขาสงสัยว่าที่จริงแล้วหลิงเวยไม่ได้ป่วยอะไรเลย
พวกเขาเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องตรวจอัลตราซาวนด์ ถึงเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายกำลังยืนเฝ้าประตูอยู่ จึงรู้สึกโล่งอกมาก โชคดี ที่มีคนยืนอยู่เฝ้าอยู่ที่นั่น ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
“นักโทษเข้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่ อยู่ในห้องตรวจมานานแค่ไหนแล้ว” หัวหน้าผู้คุมเอ่ยถาม
เจ้าหน้าที่ตำรวจพูด “สักพักหนึ่งแล้วครับ น่าจะใกล้ออกมาแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม