หลังจากที่นีลนั่งลงไม่นาน พนักงานก็เริ่มเสิร์ฟอาหารให้ออร่า
นีลเอื้อมมือไปหยุดพนักงานที่กำลังเสิร์ฟอาหารให้ออร่าด้วยดวงตากลมโต เขาถามว่า “ขอโทษนะครับ เมนูนี้คือเมนูอะไรเหรอครับ?”
เด็กน้อยคนนั้นน่ารักและมารยาทดีจนพนักงานอดไม่ได้ที่จะหยุดและยิ้มให้เขา “เมนูนี้คือเสต็กเนื้อสันในค่ะ ถ้าหนูอยากกินก็ให้คุณแม่สั่งมาให้นะ!”
นีลมองพนักงานเสิร์ฟด้วยรอยยิ้มและพยักหน้า “ขอบคุณครับ คุณสวยมากเลยครับ!”
พนักงานเสิร์ฟในวัยสี่สิบรู้สึกยินดีกับคำชมของเด็กชายตัวเล็ก ๆ และรู้สึกราวกับว่างานเสิร์ฟของเธอเบาลงไปมาก
“อยากกินสเต็กนั่นไหมล่ะ?” แอนน์ขมวดคิ้วและถาม
นีลยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ไม่ครับ”
“แล้วทำไมถึง…?”
“แม่ทูนหัว” นีลขัดจังหวะก่อนที่แอนน์จะพูดจบ
“มาเดิมพันกันเถอะ”
เด็กชายหยิบโทรศัพท์มือถือของแอนน์ขึ้นมาและเริ่มจับเวลา “ผมพนันได้เลยว่าผู้หญิงคนนั้นจะไม่สามารถกินต่อได้ภายในสิบวินาที”
แอนน์มองเขาอย่างสงสัย “เธอเพิ่งจะเริ่มกินเองนะ”
เธอเหลือบมองนีลด้วยหางตา “อิจฉาที่เธอได้กินสเต็กเหรอ?”
“ห้า สี่ สาม สอง...”
นีลวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะแล้วนับถอยหลังอย่างมีชัยชนะ "หนึ่ง"
ปัง!
ออร่าที่นั่งอยู่ไม่ไกล โยนส้อมลงบนโต๊ะในขณะที่ใบหน้าของเธอกลายเป็นความน่าเกลียด
แอนน์ตกใจ เธอเห็นออร่ารีบวิ่งเข้าห้องน้ำด้วยความอับอาย
“อะไรกัน…?”
เด็กชายก้มหน้าลงและเริ่มกินสปาเก็ตตี้ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
...
ออร่าอยู่ในห้องน้ำเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง
เธอเพิ่งจะกินสเต็กไปได้แค่คำเดียว! ต่อให้กินของเน่า ๆ ก็ไม่มีทางที่อาการจะแสดงออกมาเร็วเช่นนี้!
หญิงสาวเดินเซกลับไปที่โต๊ะและพบข้อความเล็ก ๆ วางอยู่ใต้ส้อมของเธอ
บนนั้นมีประโยคที่เขียนขึ้นอย่างประณีตด้วยตัวอักษรที่ชัดเจนและละเอียดอ่อน ‘ผลของการทำชั่ว’
ออร่าฉีกกระดาษทิ้งด้วยความโกรธ “ไปเรียกผู้จัดการแล้วหาภาพจากกล้องวงจรปิดมาให้ฉัน!”
เธออยากจะรู้ว่าใครกันที่ช่างกล้าทำกับเธอเช่นนี้!
“ฉันขอโทษค่ะ คุณกิบสัน แต่เมื่อกี้ระบบความรักษาความปลอดภัยภายในร้านถูกแฮ็ก และวิดีโอจากกล้องวงจรปิดทั้งหมดก็ยังถูกลบไปทั้งหมดด้วยค่ะ...”
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย!”
เธอยืนอยู่ในห้องควบคุมและโยนแก้วในมือใส่จอคอมพิวเตอร์
เสียงกระแทกระหว่างแก้วกับจอทำให้เกิดเสียงดัง
ต้องเป็นลูน่า กิบสันแน่ ๆ ต้องเป็นเธอแน่นอน!
...
เป็นเวลาสี่ทุม
รถมาเซราติสีดำมาหยุดที่บลูเบย์วิลล่า
โจชัวกดวางสายระหว่างประเทศสายสุดท้าย และลงจากรถอย่างหมดแรง
เขาเดินไปที่ห้องนอนของตัวเองเหมือนเช่นเคย แต่แล้วเขาก็หยุดชะงัก เขาหันหน้าเหลือบมองไปยังห้องนอนของเนลลี่ที่สุดทางเดินก่อนที่จะเดินเข้ามา
ไม่มีใครอยู่ภายในห้องนั้นเลย
“นายท่านกลับมาแล้วเหรอครับ?” เมื่อได้ยินเสียงจากห้องนอนของเนลลี่ พ่อบ้านก็เข้ามาทักทายเขา "คุณกำลังมองหาเจ้าหญิงน้อยอยู่หรือเปล่าครับ?"
โจชัวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "เธออยู่ที่ไหน?"
พ่อบ้านถอนหายใจ “เจ้าหญิงน้อยยืนกรานที่จะนอนกับลูน่า แต่ในห้องของเธอมีเพียงแค่เตียงเล็ก ๆ … เจ้าหญิงน้อยก็เลยขอไปนอนกับลูน่าที่ห้องคนรับใช้ที่ชั้นล่างแทนครับ”
เขาสังเกตดูสีหน้าของโจชัวอย่างรอบคอบ “ผมควรจะไปปลุกลูน่าและให้เธอพาเจ้าหญิงน้อยกลับมาไหมครับ?”
เขาคือพ่อของเธอ พ่อที่เธอเพิ่งจะได้พบกับเขาเมื่อวานนี้!
“อรุณสวัสดิ์” ชายคนนั้นยิ้มและนั่งลงตรงข้ามกับเธอ
เนลลี่จิ้มวาฟเฟิลชิ้นเล็ก ๆ จากจานของเธอแล้ววางมันลงในจานตรงหน้าโจชัว “คุณพ่อลองชิมดูสิคะ คุณน้าทำวาฟเฟิลนี่ มันอร่อยมากเลย!”
โจชัวเหลือบมองวาฟเฟิลที่ยังไม่ถูกแตะสักคำซึ่งอยู่ตรงหน้าของเนลลี่ “ลูกยังไม่ทันได้กินมันเลย แล้วรู้ได้ยังไงว่ามันอร่อย?”
เธอยิ้มอย่างเขินอาย “หนูพอจะเดาออกค่ะ!” จากนั้นเด็กหญิงตัวน้อยจึงจิ้มวาฟเฟิลชิ้นหนึ่งเข้าปากตัวเอง “อื้ม อร่อยจริง ๆ ด้วย!”
ชายคนนั้นมองดูเด็กหญิงแก้มป่องที่กำลังเคี้ยวอาหารอยู่เต็มปาก “ยังเจ็บอยู่ไหม?”
เนลลี่ผงะก่อนที่เธอจะเข้าใจว่าเขากำลังถามถึงแก้มของเธอ
“ไม่เจ็บแล้วค่ะ”
เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ เนลลี่จึงแอบมองไปที่ลูน่าซึ่งยืนอยู่ริมห้อง “คุณพ่อคะ ทำไมไม่ถามคุณน้าบ้างล่ะคะ ว่าเธอเจ็บไหม? อาการบาดเจ็บของเธอรุนแรงกว่าหนูอีก”
โจชัวก้มหน้าลงพลางรับประทานอาหารเช้าและพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “เธอโตแล้ว เธอไม่เจ็บหรอก และต่อให้เป็นอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องของพ่อ”
เนลลี่ก้มศีรษะลงและกัดริมฝีปากเงียบ ๆ
หลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว โจชัวก็ออกไป
พ่อบ้านพาเนลลี่และลูน่าเดินไปรอบ ๆ วิลล่าเพื่อให้พวกเธอได้ทำความคุ้นเคยกับที่อยู่ใหม่
บลูเบย์วิลล่ามีขนาดใหญ่มากอย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับเนลลี่ที่เพิ่งจะมาที่นี่เป็นครั้งแรก ทุกสิ่งทุกอย่างดูแปลกใหม่และเต็มไปด้วยความน่าประหลาดใจ แต่มันเป็นเพียงแค่เส้นทางแห่งความทรงจำสำหรับลูน่า
เธอดูเบื่อหน่ายและไม่ตื่นเต้นใด ๆ ตลอดทั้งเช้า
ทุกหนแห่งจะมีความทรงจำเกี่ยวกับเธอและโจชัวอยู่ และทุกความทรงจำจะย้ำเตือนเธอว่าเธอโง่แค่ไหนที่หลงใหลผู้ชายคนนั้น
มื้อเที่ยง เนลลี่ไม่มีความอยากอาหารมากนัก เธอจึงทานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ลูน่ารู้ดีว่าเนลลี่อาจจะยังไม่ชินกับอาหารที่นี่เพราะเธอเพิ่งจะกลับมาหลังจากที่อยู่ที่ต่างประเทศเป็นเวลานาน ดังนั้นลูน่าจึงออกไปข้างนอกในช่วงพักกลางวันเพราะต้องการออกไปซื้อส้มที่เนลลี่ชอบมาให้เธอ
หลังจากที่ลูน่าเดินออกมาจากบลูเบย์วิลล่า รถเฟอร์รารี่สีแดงก็ขับมาหยุดข้าง ๆ เธอโดยไม่ได้คาดคิด
กระจกรถถูกเลื่อนลงและเผยให้เห็นใบหน้าที่เย่อหยิ่งของออร่า “เราควรคุยกันหน่อยไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ล่าหัวใจ คุณภรรยา(เก่า)ที่รัก
นักเขียนมาโป๊ะตรงที่ทำให้นางเอกและลูกๆเกิดโง่กระทันหัน นึกไม่ออกว่าเช็คดีเอ็นเอได้ ตอนที่มีคนมาสวมรอยเป็นแม่เด็กๆ อ...