“อ้า!”
เวลาเที่ยงคืนของประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีเสียงกรีดร้องเสียดแทงหัวใจดังออกมาจากโรงพยาบาลสุขภาพแม่และเด็ก
“คุณเฉียว ออกแรง ออกแรงหน่อยค่ะ!”
การคลอดในครั้งนี้กินเวลาติดต่อกันนานสิบสามชั่วโมงแล้ว เฉียวชูเฉี่ยนนอนอยู่บนเตียงนอนผู้ป่วย เธอมีสภาพอ่อนล้าเสียจนลมหายใจแทบจะขาดช่วง เส้นผมเปียกชื้นเหงื่อแนบลู่อยู่ข้างแก้ม บริเวณหางตามีหยดน้ำตาไหลทะลักออกมาเป็นสาย
เธอไม่มีแรงเหลือแล้วจริงๆ
“คุณเฉียว ออกแรงหน่อยครับ! กลั้นหายใจออกแรงขึ้นอีก เจ้าตัวน้อยจะรอไม่ไหวแล้วนะครับ!” สูตินรีแพทย์ร้อนใจจนตาแดงกล่ำ เพราะหากล่าช้าไปมากกว่านี้ เกรงว่าจะกลายเป็นหนึ่งศพสองชีวิตได้
เฉียวชูเฉี่ยนหลับตาปี๋ จับผ้าปูที่นอนให้แน่นขึ้น เธอสูดลมหายใจเข้า จากนั้นก็ออกแรงเบ่งสุดกำลัง——
“อ้า!”
ลูกน้อย ลูกจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปนะ!
……
เจ็ดปีต่อมา ในเมืองซั่นเป่ย สนามบิน——
เด็กน้อยวัยเจ็ดขวบที่มีผิวขาวเนียนละเอียดราวกับหยกขัดเงาชิ้นหนึ่งกำลังยืนอยู่กลางล๊อบบี้ของสนามบิน เขาโบกมือไปมาไม่หยุดให้กับหญิงสาวที่กำลังดันกระเป๋าสัมภาระอยู่ข้างหลังเขา แต่ดูเหมือนเขาจะทนไม่ไหวแล้ว จึงวิ่งกลับไปแย่งกระเป๋าสัมภาระจากมือของหญิงสาวคนนั้นราวกับผู้ใหญ่ตัวน้อยคนหนึ่ง จากนั้นก็ออกแรงผลักกระเป๋าไปข้างหน้า
“หม่ามี๊! หม่ามี๊เดินเร็วๆ หน่อยสิครับ เรามีนัดไปเที่ยวสวนสนุกด้วยกันกับคุณอาลู่ฉีไม่ใช่หรือครับ?” ดวงตาของเด็กน้อยเปล่งประกายขึ้นมายามเอ่ยคำว่า “สวนสนุก” สามคำนี้
เฉียวชูเฉี่ยนอยู่ในชุดทำงานสีแดงกุหลาบ กางเกงยีนส์ยาวเจ็ดนิ้วรับกับช่วงขาอันเรียวยาวของเธอ และสวมใส่รองเท้าส้นสูงสีเบจอย่างลงตัว
เธอถอดแว่นกันแดดสีดำ แล้วอุ้มเด็กน้อยแนบอก พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงที่โอบอ้อมอารีว่า “จิ่งเหยียน! นั่งเครื่องบินมาตั้งนาน หม่ามี๊เหนื่อยแล้ว เราไม่ไปสวนสนุกกันดีกว่าไหม? รอคุณอาลู่ฉีมาแล้ว เราไปทานข้าวกับคุณอาลู่ฉีกันนะครับ?”
“หม่ามี๊!” เด็กชายไม่ยินยอม “คุณแม่ไม่รักษาคำพูดนี่ครับ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลาก่อน คุณสามี