อวี้ฉือจ้านโยนเสื้อผ้าไว้ในมือของกู้ชิวเหลิ่ง สายตาไร้แววไม่พอใจและไอสังหารแล้ว ที่ปรากฏแทนที่คือใบหน้าที่เรียบเฉยและสีหน้าคลุมเครือ
กู้ชิวเหลิ่งรับเสื้อผ้ามา วางไว้ข้างๆโดยไม่มองเลยแม้แต่แวบเดียว พูดขึ้นว่า "ของก็ส่งคืนแล้ว เซ่อเจิ้งหวางยังจะดูว่าข้าอาบน้ำอย่างไรอีกหรือ"
"วันนี้สิ่งที่เจ้าพูดบนเรือ ช่างน่าตกใจจริงๆ แต่หญิงสาวอายุแค่สิบสี่ปี ทำไมจึงรู้ถึงความคิดของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉีได้ แม้ว่าเจ้าจะใช้วาจาอันชาญฉลาดอุดปากของฝู้จื่อโม่ไว้ได้ แต่สำหรับปัญหานี้ เจ้ายังไม่ได้ให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลแก่ข้า"
อวี้ฉือจ้านไม่เหมือนกำลังคุยอยู่กับสาวน้อย แต่เหมือนกำลังอธิบายเกี่ยวกับข้อเท็จจริง รอให้อีกฝ่ายตอบคำถาม ไม่แฝงความรู้สึกใดๆ แต่ก็ไม่สามารถปิดบังน้ำเสียงที่แฝงไอสังหารของเขาไว้ได้
ไอสังหารของอวี้ฉือจ้านนั้นมาพร้อมกับตอนที่กำเนิดมา แม้อยากจะซ่อนเร้น ก็ซ่อนไม่มิด แม้ว่าตอนนี้เขากำลังคุยกับกู้ชิวเหลิ่งด้วยจิตใจที่สงบเยือกเย็นก็ตาม แต่ถ้าหากกู้ชิวเหลิ่งเผยให้เห็นถึงช่องโหว่หรือข้อพิรุธใดๆออกมาก็ตาม อวี้ฉือจ้านก็จะฟันคอของกู้ชิวเหลิ่งโดยไม่ปรานีเลยแม้แต่น้อย
"ข้าเคยบอกแล้ว นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของข้า สิ่งที่ข้ายินดีเล่าให้ท่านฟัง กับสิ่งที่ข้าไม่ยินดีจะพูดมันเป็นคนละเรื่องกัน เซ่อเจิ้งหวางคงไม่ใช่คนที่ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องส่วนตัวของผู้อื่นกระมัง"
แววตาของอวี้ฉือจ้านเปลี่ยนไปเล็กน้อย กู้ชิวเหลิ่งรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายไม่มีกลิ่นอายแห่งเจตนาดีหลงเหลือแล้ว
ทันใดนั้นจูเอ๋อร์ที่อยู่หน้าประตูก็เปิดประตูห้องเข้ามา พูดว่า "คุณหนู บ่าวเผาเสื้อผ้าทิ้งหมดแล้ว ท่าน......"
จูเอ๋อร์เห็นว่าตรงฉากกั้นนั้นมีเงาร่างของคนสองคน ตกใจจนต้องหยุดพูด แต่วินาทีต่อมา บนฉากกั้นเหลือเงาร่างของกู้ชิวเหลิ่งเพียงคนเดียวเท่านั้น
จูเอ๋อร์ขยี้ตาตนเอง มองฉากตรงหน้าอย่างคาดไม่ถึง กู้ชิวเหลิ่งได้เดินออกมาจากอ่างอาบน้ำแล้ว บนร่างยังมีหยดน้ำที่ยังไม่แห้งเกาะอยู่
ที่ไม่เหมือนเดิมคือ บนร่างของกู้ชิวเหลิ่งมีเสื้อคลุมสีดำประกายแดงคลุมอยู่หนึ่งตัว ถูกแช่ในน้ำจนเปียกไปครึ่งหนึ่ง
จูเอ๋อร์ถามขึ้นอย่างประหลาดใจว่า "คุณหนู เสื้อบนร่างท่านไปเอามาจากที่ใด"
กู้ชิวเหลิ่งถอดเสื้อคลุมบนร่างออกมา เรือนร่างที่เปลือยเปล่ายืนอยู่ใต้แสงเทียน ท่วงท่างดงามอย่างที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้ นางโยนเสื้อทิ้งไปบนพื้น พูดเสียงเรียบเฉยว่า "เผาซะ"
จูเอ๋อร์พยักหน้ารับด้วยความนิ่งอึ้งเล็กน้อย มือเพิ่งจะแตะต้องถูกเสื้อคลุมที่อยู่บนพื้น กู้ชิวเหลิ่งก็เปลี่ยนคำพูดเสียงเย็นว่า "ซักให้สะอาดแล้วตากให้แห้งดีกว่า"
จูเอ๋อร์พูดอย่างงงงวยว่า "บ่าวจะไปทำเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ"
แววตาของกู้ชิวเหลิ่งเย็นชาลงเล็กน้อย เมื่อครู่ก่อนที่อวี้ฉือจ้านจะจากไป เหมือนพูดอะไรบางอย่าง เพียงแต่นางถูกเสียงของจูเอ๋อร์ดึงดูดความสนใจไป ไม่ทันเห็นชัดเจนว่าปากของอวี้ฉือจ้านกำลังพูดอะไร
เป็นเวลาค่ำมากแล้ว ในขณะที่จูเอ๋อร์กำลังยกกับข้าวสองจานที่กำลังร้อนกรุ่นอยู่ กู้ชิวเหลิ่งได้นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงแล้ว ในฝันนางไม่มีมู่หรงอี๋ที่สีหน้าอำมหิต ไม่มีพ่อกับพี่ชายที่ถูกตัดศีรษะ ยิ่งไม่มีจวินฉีเซิ่ง นี่เป็นการนอนหลับที่ดีของนางที่หาได้ยากยิ่ง
อวี้ฉือจ้านได้กลับไปถึงจวนเซ่อเจิ้งหวางแล้ว ฝู้จื่อโม่กำลังนอนเล่นอย่างสบายใจอยู่บนตั่ง กินองุ่นม่วงที่ได้รับบรรณาการจากหนานเจียง เผยให้เห็นหน้าอกกึ่งหนึ่ง เป็นความเกียจคร้านที่ทรงเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก
"เจ้าเชื่อสิ่งที่เด็กสาวคนนั้นพูดจริงหรือ หญิงสาวอายุสิบสี่ที่ยังไม่แต่งงาน ยังเป็นลูกของอนุ ข้าได้ให้คนไปสืบแล้ว สิบสี่ปีมานี้นางแทบไม่เคยก้าวเท้าออกจากเรือนเลย กู้หนานเฉิงก็ไม่ได้สนใจไยดีในตัวลูกสาวเมียรองคนนี้เลยสักนิด นางจะรู้เรื่องของจวินฉีเซิ่งได้อย่างไร ตามความคิดข้า นางก็แค่อยากจะยกระดับฐานะของตนเองให้สูงขึ้น เพราะตอนนี้นางก็ขายไม่ออกอยู่แล้ว"
อวี้ฉือจ้านนั่งอยู่กลางโถงใหญ่ มือลูบมีดสั้นที่เหน็บอยู่ที่เอว พูดว่า "เจ้าเอาจริงหรือ"
ฝู้จื่อโม่ส่งองุ่นเข้าไปในปากของตนเอง พูดว่า "ไม่ ข้าล้อเล่น"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลำนำยอดหญิงจอมพิษ
เสียดายได้อ่านแค่ 102 ตอน ขอแอดมินมาช่วยอัพเดทตอนเพิ่มได้ไหมคะ...