ลำนำยอดหญิงจอมพิษ นิยาย บท 72

บรรยากาศภายในท้องพระโรงในวังจริงจังและหนักแน่น จวินฉีเซิ่งสวมชุดสีเหลืองทั้งตัว ไม่เหมือนกับชุดสีฤดูใบไม้ร่วงในวันปกติที่เขาใส่ ถึงแม้ว่าครั้งนี้จะเป็นต้าเหยียนที่เป็นเจ้าภาพ แต่ว่าอวี้ฉือกงอายุยังน้อย ถึงแม้จะใส่เสื้อคลุมมังกร ก็ไม่ได้ดูน่าเกรงขามเหมือนดั่งจวินฉีเซิ่ง แต่กลับต่างกันเหมือนองค์ชายคนหนึ่งกับฮ่องเต้คนหนึ่ง

เพียงแต่ว่า นี่เป็นเพียงสถานการณ์ตอนที่อวี้ฉือจ้านยังไม่มาเท่านั้น

จวินฉีเซิ่งพูดด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม "งานเลี้ยงแห่งแคว้นครั้งที่แล้วฝ่าบาทกับข้ายังเป็นแค่องค์ชาย ครั้งนี้เป็นการร่วมสัมพันธมิตรระหว่างสองแคว้น ช่างมีวาสนาจริง "

อวี้ฉือกงไม่ได้ใส่ใจคำพูดสื่อความหมายอื่นของจวินฉีเซิ่ง แค่พูดว่า "จำได้ว่างานเลี้ยงแคว้นครั้งที่แล้ว ตอนฮ่องเต้ฉีมายังเป็นท่านอ๋อง ส่วนข้าก็เป็นแค่องค์รัชทายาท ไม่ทราบว่าองค์รัชทายาทในปีนั้นตอนนี้เป็นอย่างไรแล้ว?"

ในหน้าของจวินฉีเซิ่งไม่มีรอยยิ้มทันที แต่พูดว่า "เกรงว่าฮ่องเต้ต้าเยียนจำผิดแล้ว แคว้นของข้ามาในครั้งนั้น ไม่ได้มีองค์รัชทายาท"

อวี้ฉือกงแค่ยิ้มเท่านั้น พูดว่า "ถ้าเช่นนั้นก็เป็นข้าที่จำผิด เพราะว่าครั้งที่แล้วที่พบกับข้า เหมือนจะเป็นอ๋องหวากระมัง? ข้าก็ไม่ได้เจออ๋องหวามานานแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้อ๋องหวาสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?"

จวินฉีเซิ่งหรี่ตาลง พูดว่า "ในปีนั้นพี่อ๋องหวาทำการกบฏ ถูกเนรเทศแล้ว เกรงว่าต่อไปฮ่องเต้ต้าเยียนไม่ได้เห็นอีกแล้ว"

บนหน้าของอวี้ฉือกงมีแววเจ้าเลห์ชั่วขณะ เขาไม่ชอบจวินฉีเซิ่งตั้งนานแล้ว ตอนนี้ก็แค่พูดไปอย่างนั้น และฉวยโอกาสรื้ออดีตของจวินฉีเซิ่งเท่านั้น

ใครๆก็ดูออกว่าในปีนั้นจวินฉีเซิ่งที่บังคับก่อการกบฏ เพียงแค่หลังจากนั้นจวินฉีเซิ่งได้เป็นฮ่องเต้จริง ทุกคนก็เลยปิดปากไม่พูดถึงเรื่องนี้ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่จวินฉีเซิ่งได้ยินคนพูดถึงเรื่องในอดีตตั้งแต่ขึ้นครองราชย์มาสามปี มิหนำซ้ำยังอยู่ต่อหน้าคู่แข่งประเทศคู่ปรปักษ์ ในใจต้องไม่พอใจอย่างมากอยู่แล้ว

จวินฉีเซิ่งพูด "ได้ยินมาตลอดว่าเซ่อเจิ้งหวางของแคว้นท่านเป็นเทพแห่งสงครามของต้าเยียน ไม่มีวาสนาได้เจอเสียที ไม่ทราบว่าวันนี้เซ่อเจิ้งหวางอยู่แห่งใด?"

อวี้ฉือกงจับแหวนหยกบนนิ้วเล่นไปมา พูดว่า "แต่ไหนแต่ไรมาเสด็จอาก็งานยุ่ง เพียงแค่ช่วงนี้มีมือสังหารปรากฏตัวอยู่บ่อยๆ เสด็จอาก็จัดการเรื่องการงานไปด้วย จัดการนับศพไปด้วย คิดว่าอีกสักครู่ก็คงจะมา"

พูดถึงนับศพ สีหน้าของจวินฉีเซิ่งยิ่งไม่ดีขึ้นมาอีก เมื่อก่อนเขาคาดการความสามารถของอวี้ฉือจ้านต่ำไป คิดมาตลอดว่าอวี้ฉือจ้านเป็นเพียงท่านอ๋องที่มีอำนาจ และเป็นวิชาการต่อสู้เท่านั้น แต่ว่าครั้งนี้ หน่อยกล้าตายที่เขาส่งไปวอดวายทั้งกอง แม้กระทั่งศพก็ไม่เห็น อวี้ฉือจ้านไม่ได้โดนพิษกู่บนศพก็แล้วไป ยังสามารถเอาคืนกลับเขาได้

ตอนนี้จวินฉีเซิ่งยิ่งอยู่ยิ่งเชื่อแล้ว ครั้งที่แล้วคนที่ล้อมฆ่าเขานอกเมืองก็คืออวี้ฉือจ้านเซ่อเจิ้งหวางแห่งต้าเยียน

จวินฉีเซิ่งรู้สึกว่าร่องรอยการเดินทางถือว่าซ่อนเร้นแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้เข้าสู่ขอบชายแดนเมืองหลวงต้าเยียน ก็ถูกคนของอวี้ฉือจ้านจับตาอย่างสนิท กระทั่งได้รับบาดเจ็บสาหัส

พูดถึงตรงนี้ จวินฉีเซิ่งจะไม่เกลียดได้อย่างไร?

ขณะที่จวินฉีเซิ่งกำลังคิดอยู่ อวี้ฉีเซิ่งก็ตะโกนเรียกไปคำหนึ่ง "เสด็จอา"

จวินฉีเซิ่งเสมือนหันหน้าไปโดยสัญชาตญาณ เห็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งในชุดเสื้อคลุมสีม่วงเดินเข้ามา สายตาดุจมีดคมกริบ เปล่งประกายกลิ่นสาบเลือดและแรงสังหารไปทั้งตัว

"เข้ามา ยกศพเข้ามาให้หมด"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลำนำยอดหญิงจอมพิษ