เมิ่งลู่เจินที่กำลังถือจานที่ใส่เฉาเหมยมาก็รีบมาดึงแขนของเสิ่นเยี่ยนฟางเอาไว้ เขาไม่อยากให้พี่สะใภ้ไปบ้านใหญ่เขากลัวพี่สะใภ้ถูกตีกลับมา เมื่อวานพี่สามก็ตีพี่สะใภ้ อีกทั้งยังเอาปิ่นปักผมแทงนางอีก พีสามใจร้ายเกินไป เสิ่นเยี่ยนฟางมองหน้าเด้กชายก่อนจะลูบศีรษะของเขา
"เด็กดี พี่จะไม่เป็นอะไร เมื่อวานนี้พี่ไม่ทันตั้งตัวเลยถูกคนชั่วฉวยโอกาศทำร้ายได้ จากนี้ไปพวกเขาไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้วล่ะ"
"พี่สะใภ้ใหญ่ พวกเขาใจร้าย ท่านลุง ท่านย่า ท่านปู่พวกเขาใจร้ายมากเลยนะขอรับ ปิ่นเงินนั่นข้าจะไปรับจ้างหาเงินมาซื้ออันใหม่ให้ท่านนะ ท่านอย่าไปเลย"
เมิ่งลู่เจินนัยย์ตาแดง เมื่อวานพี่สะใภ้ตกน้ำเป็นไข้ตัวร้อนมาก พวกเขายังบอกว่าจะฝังพี่สะใภ้กับพี่ชายเขาด้วยกัน ให้ไปเป็นคู่ผัวเมียในนรก เขาเกลียดบ้านใหญ่
"ภรรยา เจ้าเชื่ออาเจินเถอะ เจ้าตัวเล็กเพียงนี้ ไปก็เสียเปรียบเจ้าโทษข้าเถอะที่ไม่สามารถปกป้องเจ้าได้"
เมิ่งหย่งชวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหดหู่ แต่เสิ่นเยี่ยนฟางฟังออก เขาไม่ได้ป่วยแน่นอน แต่เหตุใดแกล้งป่วยไม่ไปเข้าสอบอันนี้นางไม่รู้ ก่อนจะเอ่ย
"อาเจิน ท่านพี่อย่าห่วงเลย ข้าบอกแล้วว่าเมื่อวานข้าแค่ไม่ทันระวัง แต่วันนี้ไปหาพวกเขาถึงบ้าน ข้าไม่เสียเปรียบแน่นอนพวกท่านคอยดูเถอะ"
จากนั้นเสิ่นเยี่ยนฟางก็เดินไปยังทางเข้าหมู่บ้าน ผ่านบ้านหลายหลังบางคนก็ทักทาย บางคนก็รังเกียจชื่อเสียงนางไม่ดีนัก หากไม่ใช่เพราะว่าดวงนางสามารถแก้ชงให้ซิ่วไฉคนเดียวของหมู่บ้านได้ พวกเขาก็ไม่อยากจะยอมรับนางหรอก เสิ่นเยี่ยนฟางมองไปมองมาก็เจอโจทย์หลายคน เพื่อนของนังเด็กนิสัยเสียเมิ่งจื่อคนนั้น
"เหอะ ผู้หญิงแพศยา กาลกิณีจริงๆยั่วยวนกระทั่งสามีของอาตนเอง สกปรกนัก"
"ใช่ๆ นางช่างเป็นผู้หญิงร่านราคะเสียจริงๆ โอ๊ย"
เพี๊ยะๆๆๆเสียงงตบหน้าสามทีดังตัดกัน เสิ่นเยี่ยนฟางตบจนพวกนางงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น หน้ายังชาอยู่แต่คนจากไปแล้ว เหลือเพียงชายกระโปรงสีซีดที่พวกนางมองทัน
"นังแพศยานั่นตบหน้าข้าหรือ เสิ่นเยี่ยนฟางนังตัวดี กล้าลงมือกับข้าๆไม่ปล่อยเจ้าแน่ๆ"
หญิงสาวหลายคนส่ายหน้า สหายของเมิ่งจื่อถูกตบ แก้มที่บวมนั้นเป็นหลักฐานอย่างดี แต่ว่าเสิ่นเยี่ยนฟางลงมือตอนไหน เหตุใดพวกเขาที่มีกันหลายคนกลับมองไม่เห็น แรงตบไม่น้อยเลยด้วยซ้ำ นางตบเสียหน้าบวมทันที
เสิ่นเยี่ยนฟางเดินมาหยุดที่หน้าบ้านของเมิ่งซุนก่อนจะเรียกหาเสียงดังเรียกชาวบ้านมาดูไม่น้อย เพราะเป็นเวลาพักเที่ยงจากงานในไร่นา
"เมิ่งจื่อ ออกมานะคืนปิ่นปักผมมารดาข้ามาเดี๋ยวนี้ ข้าจะนับแค่หนึ่งถึงสามถ้าไม่ออกมา ข้าจะพังประตูบ้านเจ้าเอง"
เมิ่งจื่อที่กำลังจะเอ่ยปากก็ถูกตบเช่นกัน จากนั้นเสิ่นเยี่ยนฟางก็กระชากเอาปิ่นเงินของมารดานางออกมาจนได้ ก่อนจะทั้งตบทั้งเตะและกระทืบอย่างสะใจ หากใคตรเอ่ยปากคนนั้โดน จนตอนนี่มีแต่เสียงร้องโอดโอยเท่านั้น จากนั้นก็ประกาศเสียงดังฟังชัด
"เมิ่งจื่อ จำไว้ของๆ ข้าถ้าข้าไม่ให้ก็อย่าได้โลภ ส่วนสามีข้าป่วยข้าจะรักษาเขาหายหรือไม่ก็เรื่องของข้า คิดจะฝังข้าให้ไปเป็นเพื่อนกับเขาหรือ ยายเฒ่าเมิ่งเจ้ามันยายแก่แร้งทึ้งเจ้ารักหลานชายคนนี้แต่เมื่อไหร่กัน พอหาประโยชน์ไม่ได้ก็ขับไล่ไสส่ง เงินสินสอดที่แต่งข้ามานั้นผู้นำหมู่บ้านเป็นคนจ่าย อย่าห่วงเลยข้าจะฝังพวกเจ้าก่อนจะได้มีคนรอรับเขาที่ปรโลก ข้าว่าฝังบ้านเมิ่งพวกเจ้าทั้งตระกูลเลยดีไหม อย่ามาพูดว่าเป็นผู้อาวุโสของข้า เจ้าคลอดข้ามาหรือยายเฒ่า หรือคลอดมารดาข้าหรือคลอดบิดาข้าออกมาล่ะ ส่วนเจ้าเป็นสตรียังไม่ออกเรือน กลับพูกคำว่าโสเภณีเอย แพศยาเอยได้คล่องนัก เจ้าเคยขายเหรอ สารรูปอย่างเจ้ามีคนซื้อด้วยหรือ ไม่น่าขายออกนะ"
"กรี๊ดดด เสิ่นเยี่ยนฟางนางสารเลว ข้าจะสู้ตายกับเจ้า นั่งแพศยาตัวดี เจ้ามันเหมาะกับไอ้ขี้โรคนั่น สมควรตายทั้งคู่เลย"
เสิ่นเยี่ยนฟางไม่ทนนางทั้งเตะทั้งกระทืบจนแต่ละคนสภาพดูไม่ได้ หัวบวม ปากแตก กระทั่งพ่อเฒ่าแม่เฒ่าเมิ่งเองก็ยังหน้าบวม ชาวบ้านที่เป็นบุรุษยังไม่กล้าห้าม นางช่างน่ากลัวจริงๆ
หลิวเยี่ยนฟางมองหน้าทุกคน ชาติก่อนเธออยู่หน่วยรบพิเศษ เธอไม่ได้ปฏิบัติภาระกิจ แต่เธอเป็นครูฝึกนาวิกโยธินเหล่านั้น
"ถุย กล้าหือกับเจ๊เหรอ เดี๋ยวแม่จับทุ่มให้หมดเลย มองอะไร เมิ่งซานเจ้าเป็นลุงของพวกเขาแต่กลับไร้ปราณี หากข้ารู้ว่าเจ้าตีลู่เจินน้องสามีข้าอีกข้าจะตัดมือเจ้าทิ้ง หึ มีแต่พวกอยากตายทั้งนั้น "
"เจ้าๆๆๆ พวกข้าเป็นผู้อาวุโสนะเจ้ากล้าดีอย่างไรกัน"

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตกาลบันดาลรัก