“นี่ เช็คของสามีมุกเซ็นให้เรียบร้อยแล้ว” มุกลูกสาวคนโตของดนัย เดินเข้ามาในบ้านของผู้เป็นพ่อพร้อมยื่นเซ็คที่มีมูลค่าจำนวนหนึ่งให้เขา ดนัยรับมาพร้อมรอยยิ้มอย่างพอใจ ไม่คาดคิดว่าเช็คที่ร้องขอไปเมื่อวันก่อน จะได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ ในเวลาไม่กี่วัน ลูกสาวก็จัดการได้อย่างน่าประทับใจ
“วันนี้ทานข้าวกลางวันด้วยกันก่อนสิ” มุกกวาดสายตามองดูอาหารที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ พร้อมผู้เป็นพ่อกำลังย่างเท้าไปนั่งเตรียมรับอาหารกลางวัน เธอตัดสินใจเดินตามไปอย่างช้าๆ วางกระเป๋าที่ถือมา ลงไว้เก้าอี้ด้านข้าง
“ไปตักข้าวมาให้คุณมุกอีกที่” ดนัยหันไปสั่งแม่บ้านที่กำลังตักข้าวให้เขา
“ทำไมสีหน้าดูไม่ค่อยดี ไม่สบายหรือ” ดนัยจ้องมองหน้าลูกสาวคนโตแวบเดียวแล้วหันไปตักอาหาร
“เปล่าค่ะ มุกแค่เหนื่อยๆ”
“ดูแลตัวเองบ้าง ไม่ได้อยู่กับพ่อแล้ว สามีลูกก็ทำงานหนัก ไม่มีใครดูแลลูกดีเท่ากับดูแลตัวเอง” เป็นคำพูดครั้งแรกของดนัยหลังจากเธอแต่งงาน ที่แสดงถึงความเป็นห่วงอย่างจริงใจ รอยยิ้มเล็กๆ ของหญิงสาวจึงค่อยๆ เผยออกมา เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกถึงความรักความหวังดีที่ได้รับจากบิดา รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
“แล้วเรื่องโซนสินค้าล่ะ เขาตกลงหรือยัง” ยังไม่ทันที่รอยยิ้มนั้นจะสิ้นสุด คำถามของเขาก็พลันทำให้เธอต้องสะดุดอีกครั้ง สีหน้าเปลี่ยนแทบในทันที แววตาเศร้าสร้อยนั้นมองดนัยครู่หนึ่ง
“เขายังไม่ได้บอกอะไรค่ะ” ดนัยพยักหน้าก่อนง่วนอยู่กับการตักอาหาร หญิงสาวมองดูบิดาด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยหลายร้อยความรู้สึก ที่สุดแล้วเธอพยายามกลั้นน้ำตา อดสังหรณ์ใจไม่ได้ว่าเหมือนตัวเองเกิดมาเพื่อเป็นเครื่องมือให้กับธุรกิจของบิดาเพียงอย่างเดียว หญิงสาวที่เติบโตมาพร้อมกับการอยู่ในโอวาทของบิดา ไม่มีปากมีเสียง ไม่เคยได้เรียกร้องความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง เก็บความอัดอั้นเอาไว้ตั้งแต่เล็กจนโต เพียงเพื่อความสุขและความพึงพอใจของคนในครอบครัว
“ม่าน” มุกหันไปเรียกน้องสาวเมื่อเธอเห็นร่างสูงระหงเดินผ่านเข้ามา
“พี่มุกมานานหรือยังคะ” หญิงสาวรีบปรี่เข้ามาหาในทันที
“ไปไหนมา” ผู้เป็นบิดาสวนขึ้น ก่อนที่ม่านฟ้าจะได้รับคำตอบจากพี่สาวที่ดูจะดีใจไม่น้อยเมื่อได้พบเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตรัก ในกรงแค้น