ลิขิตรัก ในกรงแค้น นิยาย บท 37

นายดินนั่งรอลูกสาวเหมือนเช่นในทุกวัน ห้าทุ่มสี่สิบเป็นเวลาที่ลูกสาวต้องกลับมาถึงบ้าน ซึ่งจะตรงกับเวลาเดิมทุกวัน ขณะนี้ชายชราหันมองนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนกว่า ซึ่งเกินเวลาไปเกือบชั่วโมง ยังไม่มีวี่แววว่าลูกสาวคนดีของเขาจะกลับเข้ามา นายดินหยิบโทรศัพท์เพื่อที่จะกดโทรตามด้วยใจที่ร้อนรุ่ม ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นนันทิชาเดินเข้ามาพร้อมกับแทนคุณอย่างเงียบๆ ชายชราจ้องมองแทนคุณอย่างไม่ไว้ใจแต่พยายามเก็บอาการนั้นไว้ เพื่อไม่ให้ลูกสาวคนดีนั้นต้องระแคะระคายเกี่ยวกับเรื่องนี้

“กลับมาแล้วหรือลูก มาหาพ่อสิ” เขาอ้ามือรอรับหญิงสาว ก่อนที่ร่างบางส่งยิ้มแล้วเดินเข้ามาสวมกอด อ้อมกอดของผู้เป็นพ่อนั้นเป็นพลังให้เธอมีกำลังใจทำงานต่อในทุกๆ วัน หากแต่อาจเป็นภาพบาดตาของใครบางคนที่ยืนทำหน้าเอือมระอา จนชายชรานึกขึ้นได้และรีบถอนกอดนั้นออก แต่ไม่ทันที่หญิงสาวจะรู้ตัว ชายหนุ่มจึงพูดประโยคที่กระชากหัวใจของนายดินออกมา

“ไปเก็บเสื้อผ้าสิ” แทนคุณหันไปสั่งนันทิชาด้วยท่าทางที่นิ่งสงบสองมือล้วงกระเป๋ากางเกงอย่างสบายอารมณ์

“หมายความว่าไง” สองเสียงผสานดังขึ้น ชายชราได้สติหันบอกนันทิชาให้เข้าไปในบ้าน ประโยคเมื่อครู่ของชายหนุ่มนั้นเขาแทบหยุดหายใจทันที

“คุณคิดจะทำอะไร” ชายชราเค้นเสียงเบา พร้อมกับแววตากำลังเกรงกลัวความคิดชั่วร้ายที่ฝังอยู่ในหัวของแทนคุณเหลือกำลัง

“ถ้าคุณอยากให้ลูกสาวคุณปลอดภัยและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ก็จงบอกเธอว่าให้ทำตามที่ผมบอก” รอยยิ้มพร้อมกับความต้องการของคนหนุ่มนั้น ทำให้นายดินหัวใจสลายอีกครั้ง นี่แทนคุณเอาจริงหรือที่บอกจะพรากเขาออกจากลูกสาว ชายชราแทบตั้งตัวไม่ติด เขากำมือแน่นน้ำตาเอ่อออกมาคลอเบ้า หากนันทิชาออกไปจากชีวิตของเขา ตามที่ชายหนุ่มต้องการ ชายชราเปรียบเสมือนกลับไปตกนรกทั้งเป็นอีกครั้ง ความอัดอั้นไม่สามารถบังคับน้ำตาได้อีก มันไหลล้นออกมาจนเขาต้องหันหน้าหนีหลบไปเช็ด ภาพของเด็กหญิงนันทิชาเด็กผมยาวตัวเล็กที่เขาเคยอุ้มในอ้อมแขนพาเธอวิ่งเล่นไปมาอย่างมีความสุขแทรกเข้ามาในสมองอย่างไม่ต้องบังคับ ชายชราก้มหน้าเม้มริมฝีปากพยายามข่มน้ำตาเอาไว้

“ผมเคยบอกคุณแล้วไง ว่าผมต้องการให้คุณเข้าใจความรู้สึกผมทุกอย่าง ทิชาจะไปอยู่ที่บ้านผม และผมจะอนุญาตให้เธอกลับได้อาทิตย์ละหนึ่งวัน และหนึ่งวันนั่นคือเวลาของคุณ ผมคิดว่าผมใจดีกว่าคุณมากนะ ที่พรากครอบครัวผมแบบไม่มีวันได้พบเจอกัน” แทนคุณเค้นเสียงพูด ทุกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับชายชรา มันทำให้เขาต้องคอยควบคุมอารมณ์ตัวเองเอาไว้หากปะทุออกมา มันจะทำลายแผนการทุกอย่างที่เขาวางเอาไว้ ความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสของคนชราคือสิ่งที่เขาต้องการ ข้อเสนอของเขาจะเป็นการบังคับให้ชายยอมรับโดยไม่มีข้อแม้

“และถ้าผมไม่ยอมคุณล่ะ” น้ำตาของชายชราหยดลงพื้นเป็นระยะก่อนกัดฟันแน่น หันกลับมาต่อรองกับชายหนุ่มอีกครั้ง

“คุณก็เตรียมตัวดูความพินาศของครอบครัวคุณได้เลย ผมเคยบอกคุณแล้วอำนาจเงินผมมีมากพอที่จะทำให้พวกคุณไม่ได้พบกันอีก ถ้าไม่ทำตามผมไม่รับรองหลอกนะว่าลูกสาวคุณจะเป็นยังไง คุณรู้อะไรไหมตอนนี้ผมอยากเอาปืนมายิงหัวคุณมากแค่ไหน แต่ที่ผมไม่ทำเพราะมันจะทำให้คุณสบายเกินไป” คำขู่ของแทนคุณนั้นช่างดูคุ้นหูเป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายดิน ได้ยินคนรวยมักจะใช้อำนาจพูดจาข่มขู่แบบนี้ ชีวิตที่พังทลายบัดซบได้ขนาดนี้เพราะ

“ถ้าแกไม่ทำตาม ฉันจะทำให้ภรรยาและลูกของนายไม่มีโอกาสหายใจได้อีก” คำพูดจาข่มขู่ในอดีตย้อนกลับมาดังลั่นในสมองอีกครั้ง บ้านเมืองมีขื่อมีแปอย่างนั้นหรือ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเขาคงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในคุกเกือบยี่สิบปีแบบนี้หรอก ชายชรากำมือแน่น เขาต้องกลับมาเจอกับเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้อีกครั้งอย่างนั้นหรือ แม้ตอนนี้ยังไม่พร้อมที่ให้นันทิชาออกจากอกไป อีกทั้งความกังวลยิ่งเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณเมื่อหัวแก้วหัวแหวน ต้องอาศัยอยู่กับแทนคุณซึ่งไม่มีการการันตีว่าเธอจะปลอดภัยจริงตามที่เขาอ้าง แต่เมื่อการเดิมพันคือชีวิตลูกสาวที่กำลังเป็นสาวสะพรั่ง ในขณะที่อีกไม่นานจะเรียนจบมีอนาคตที่สดใส ชายชราครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“ครั้งที่แล้วเรายังรักษาชีวิตภรรยากับทิชาได้เลย ครั้งนี้ก็ต้องได้” เขาพำพึมกับตัวเอง ชีวิตเขานับแต่นี้แทบหาความสุขไม่เจอ นี่คงเป็นสิ่งที่แทนคุณต้องการ แทนคุณต้องการให้เขาตายทั้งเป็นแบบนี้สินะ

“ได้ ผมจะยอม ถ้าคุณต้องการเห็นผมทรมานแบบนี้แล้วมีความสุขผมยินดี แต่อย่าทำร้ายทิชา เธอไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้” น้ำตาไหลเอ่อล้นออกมาหยดเป็นทาง ชายชราเจ็บปวดเกินกว่าจะปิดบังเอาไว้ แววตาเหี่ยวย่นจ้องมองเข้าไปนัยน์ตาของชายหนุ่มอย่างยอมแพ้

“ความเจ็บปวดของคุณในเวลานี้ เทียบไม่ได้กับสิ่งที่ผมเคยเผชิญ ความเจ็บปวดที่คุณได้รับมันไม่ได้แม้แต่เศษเสี้ยวความเจ็บปวดที่ผมเคยได้รับจากการกระทำของคุณ เพราะอะไรคุณรู้หรือเปล่า เพราะยัยเด็กนั่น มันยังไม่ตายจริงเหมือนพ่อกับแม่ผมไง ตอนนั้นผมอายุเก้าขวบ ต้องจำภาพที่พ่อแม่นอนตายต่อหน้าต่อตา ในสมองของผม” แทนคุณชี้ไปที่ศีรษะของตัวเองพร้อมกับน้ำตาที่หยดลงมา

“สมองที่มันไม่เคยลืมภาพพวกนั้น ทั้งที่ผมพยายามอยากจะลืมมันแทบตาย แต่ภาพของพ่อกับแม่มันกับฝังแน่น คุณทำให้เด็กอย่างผมในวันนั้น เป็นเหมือนเด็กบ้า เป็นเด็กที่ถูกเพื่อนล้อว่าไอ้ลูกไม่มีพ่อมีแม่ สายตาของผมต้องคอยแอบมองพ่อแม่ของเด็กคนอื่นกอดหอมกันทุกวัน อ้อมกอดพวกนั้นคุณเอามาคืนผมได้หรือเปล่า ทุกๆ วันผมกลับมาบ้าน คุณรู้ไหมว่าผมรู้สึกอย่างไร ผมอยากจะกระโดดลงจากห้องนอนตัวเองให้ตายๆ ไปซะ ความเจ็บปวดพวกนี้มันอยู่ในสมองของเด็กอายุเก้าขวบอย่างผม คุณเสียอิสรภาพไปยี่สิบปี แล้วผมล่ะ ผมต้องเสียอะไรไปบ้าง คุณชดใช้คืนให้ผมได้หรือเปล่า” คนชราดวงตาแดงก่ำหลังจากฟังความรู้สึกของเด็กหนุ่ม ก่อนจะหันหน้าหนีไปทางอื่น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตรัก ในกรงแค้น