งานหมั้นในวันนี้ถูกนายดนัยจัดการไว้เรียบร้อยแล้วทุกอย่าง ภายในโรงแรมหรูมีแขกเหรื่อมากมายนับไม่ถ้วนทยอยเดินเข้ามาร่วมยินดีกับคู่บ่าวสาว ของหมั้นแทนคุณได้ตระเตรียมจัดการหมดแล้ว รวมถึงแหวนเพชรที่ทั้งสองเคยใส่คู่กันนั้น ก็ถอดออกมาวางไว้ในพานที่จัดประดับด้วยใบตองพับแบบไทยๆ คราวก่อนเขาและเธอใส่มันโดยไม่มีใครเป็นสักขีพยาน งานหมั้นครั้งนี้จะเป็นการประกาศอย่างเป็นทางการว่าเขาและเธอได้หมั้นหมายกันแล้ว ม่านฟ้ายืนดูตัวเองในกระจก ชุดไทยที่เธอเลือกนั้นเป็นชุดสีอ่อน รอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุขนั้น เบ่งบานออกมาจนคนรอบข้างสัมผัสได้ เธอพยายามจัดทรงผมของตัวเองอีกครั้ง ก่อนที่ทีภพจะเปิดประตูเข้ามา
“เป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดเลย” ชายหนุ่มเดินเข้ามาหยุดมองดูเธอในกระจก พลางหมุนตัวว่าที่เจ้าสาวหันมามองให้ชัดๆ
“ในที่สุดก็มีวันนี้นะม่าน ผมดีใจกับคุณจริงๆ”
“ขอบคุณมากนะคะที แต่อย่าพึ่งทำม่านซึ้งได้ไหมคะ เดี๋ยวเครื่องสำอางก็เลอะหมด” ชายหนุ่มพยักหน้ายิ้ม
“พี่ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ เดี๋ยวพี่รีบตามไป” มุกพี่สาวม่านฟ้าหันกลับมาบอกน้องสาว ก่อนจะส่งยิ้มให้กับทีภพแล้วเดินออกจากห้องไป
“ทีก็หล่อเหมือนกันนะคะ”
“คุณพ่อคุณ ให้ผมมาตาม ได้เวลาแล้วไปกันเถอะ อย่าผมแต่ชมกัน” ม่านฟ้าหันกลับมาควงแขนทีภพออกไปด้านนอก ทุกสายตาจับจ้องไปยังม่านฟ้าที่สวยไม่แพ้ดาราระดับแถวหน้าของเมืองไทย เพราะทุกคนต่างตะลึงในรูปโฉมของเธอ แสงเฟรชของช่างภาพที่ถูกจ้างมาในงานนั้นรัวเก็บภาพไว้ไม่ขาดระยะ
“คุณม่านสวยจังเลยว่าไหม” พริมยืนยิ้มไม่หุบปากหันมากระซิบกับนันทิชา พลางชะเง้อคอดูอย่างสนใจ
“คุณม่านเธอสวยอย่างกับนางฟ้า ยิ่งแต่งแบบนี้ยิ่งสวยเข้าไปอีก” นันทิชาหันกลับไปยิ้มตอบกลับพริม อย่างรู้สึกยินดีกับภาพความสุขที่ได้เห็น ก่อนที่แทนคุณจะเดินมารับม่านฟ้าออกจากทีภพคราวนี้เสียงฮือฮาดังขึ้นมากกว่าเดิม มีแต่เสียงชมเชยไม่ขาดสาย แทนคุณพาม่านฟ้าเข้ามากราบผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย ซึ่งฝ่ายของแทนคุณนั้น ดนัยเป็นคนอาสาจัดการไว้ก่อนแล้วทำให้พิธีการดำเนินไปอย่างราบเรียบ ของที่แทนคุณนำมาเป็นของหมั้นนั้นได้ถูกยกมากองไว้มากมาย รวมถึงพานแหวนเพชรที่ทั้งคู่พึ่งถอดออกก่อนวันหมั้นเพียงสองวันเท่านั้นเอง ม่านฟ้าหวังว่าจะใช้มันสวมในวันนี้อีกครั้งพร้อมกับพยานอีกหลายร้อยชีวิต ความอิ่มเอิบใจของทุกคนในงานต่างพรั่งพรูออกมายินดีกับทั้งคู่ ก่อนที่เสียงโวยวายของใครบางคนทำให้ทุกคนในงานต่างตกใจ และเริ่มเบนความสนใจหาไปหาต้นเสียง
“ช่วยด้วยค่ะๆๆ คุณมุกหมดสติอยู่ในห้องน้ำ” เสียงของทีมงานผู้หญิงโวยวายเข้ามาขัดพิธีการสำคัญ สิ้นเสียงของทีมงานหญิงคนนั้น เสียงซุบซิบจากแขกในงานพากันดังระงมด้วยความสงสัย
“พี่มุก” ม่านฟ้าตกใจ รีบลุกขึ้นวิ่งตามเจ้าของเสียงนั้นออกไปในทันที ตามด้วยแทนคุณ และดนัย ปล่อยให้พิธีกรในงานทำหน้าที่แก้สถานการณ์คร่าวๆ ไปก่อน
ม่านฟ้ารีบวิ่งนำหน้าทุกคนเข้ามาในห้องน้ำที่เกิดเหตุ ขวดน้ำยาปริศนาวางอยู่ตามพื้นห้อง ใกล้ๆ กันคือร่างของมุก ที่มีสภาพน้ำลายฟูมปากและอยู่ในอาการไร้สติ
“พี่มุก พี่มุก พี่มุกคะ ฟื้นสิคะ” ม่านฟ้าพยายามเขย่าพี่สาวให้ฟื้น แต่ไร้การตอบสนองใดๆ
“พี่มุก ทำไมทำแบบนี้ ม่านไม่สนุกด้วยนะ ฟื้นสิคะ” ม่านฟ้าเริ่มเหมือนคนขาดสติ น้ำตาหลั่งไหลพรั่งพรูออกมา
“ยายม่าน หยุดเขย่าพี่แกเดี๋ยวนี้” ดนัยรีบวิ่งเข้ามาคว้าตัวของลูกสาวคนเล็กเอาไว้ แทนคุณกดโทรตามรถพยาบาลทันทีไม่รอช้า ทีมงานบางส่วนรีบปิดประตูกันคนไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในบริเวณที่เกิดเหตุ
“ไหน พี่บอกม่านว่าจะมาเข้าห้องน้ำแล้วจะตามม่านออกมา ทำไมเป็นแบบนี้ ทำไม” เสียงสะอื้นไห้พร้อมกับการสะบัดตัวออกจากบิดา เพื่อวิ่งเข้าไปหาพี่สาวอีกครั้ง แทนคุณรีบเข้ามาจับม่านฟ้าไว้อีกแรง
“พี่ไม้ล่ะคะ พี่ไม้ไปไหน” ม่านฟ้าถามหาสามีของมุกจากทีมงาน
“คุณไม้ยังมาไม่ถึงค่ะ ติดประชุมกับหุ้นส่วนต่างชาติ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตรัก ในกรงแค้น