เข้าสู่ระบบผ่าน

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย นิยาย บท 11

เว่ยจื้อโหยวที่วันนี้ว่างมาก งานพลิกหน้าดินก็ทำเสร็จแล้ว ในระหว่างที่ต้องใช้เวลาตากหน้าดินหลายวัน ในระหว่างรอนางจึงคิดว่าสมควรจะเข้าป่าเพื่อหาของป่านำไปขายเหมือนกับชาวบ้านคนอื่น

ไม่แน่ว่านางที่มาจากอนาคตอาจจะพบเจออะไรที่กินได้แต่ชาวบ้านที่นี่ไม่รู้จักก็เป็นได้ ป่ายังคงความอุดมสมบูรณ์มากขนาดนี้นางมั่นใจว่าจะต้องมีของกินมากมายในป่าที่สามารถทำเงินให้กับนางได้แน่นอน

เมื่อคิดได้ว่าจะเข้าป่ามันก็ต้องมีการเตรียมตัวกันสักนิด ก่อนอื่นต้องหาเสียมเล็ก ๆ หรือพลั่วเล็ก ๆ ติดตัวไปด้วย ต่อมาก็เป็นมีด กระบอกใส่น้ำดื่ม แล้วอาวุธล่ะจะเอาอะไรติดตัวไปด้วย ธนูสามีของนางก็เอาติดตัวไปด้วยแล้ว ลองหาในห้องเก็บของดูเผื่อจะมีหลงเหลืออยู่บ้าง

เว่ยจื้อโหยวค้นหาของในห้องเก็บของนางพบธนูอันใหญ่ที่มีสภาพเก่าแล้วแต่ยังอยู่ในสภาพดี พร้อมทั้งลูกธนูอีก 1กระบอกมีประมาณ 15 ลูกได้ นี่อาจจะเป็นสมบัติตกทอดมาจาดพ่อสามีก็เป็นได้

นอกจากธนูแล้วนางยังเอาเชือกสำหรับกับดักสัตว์ไปด้วย หลังจากหาของที่ต้องการครบแล้วนางก็นำไปใส่ตะกร้าไม้ไผ่อันใหญ่ยกขึ้นสะพายหลังเตรียมเข้าป่าตามที่ตั้งใจเอาไว้

เว่ยจื้อโหยวสะพายตะกร้าออกจากบ้านอย่างอารมณ์ดี จากนั้นเดินไปบอกน้องชายน้องสาวที่แปลงผักหลังบ้าน หากว่านางเข้าป่าไปโดยไม่บอกกล่าวเด็กทั้งสองคงได้ตกใจคิดว่านางหนีไปแน่ ๆ

“อาซวน อาเฟย พี่สะใภ้จะขึ้นเขา หากใครมาเรียกอย่าได้เปิดประตูให้เข้ามาในบ้านเข้าใจหรือไม่ ยกเว้นคนที่บ้านเดิมของข้าเข้าใจหรือไม่ หากเป็นป้าสะใภ้มหาภัยของพวกเจ้ายิ่งไม่ต้องเปิดและไม่ต้องไปฟังในสิ่งที่นางพูดหากนางกล้ารังแกพวกเจ้าข้าจะไปจัดการนางเอง เข้าใจหรือไม่”

“เข้าใจขอรับ”

“เข้าใจเจ้าค่ะ พี่สะใภ้อย่าเข้าไปในป่าลึกนะเจ้าคะ แล้วก็ ป่าด้านซ้ายห้ามเข้าไปเด็ดขาดเจ้าค่ะ พี่ใหญ่บอกว่ามีสัตว์ป่าดุร้ายมาก”

“ได้ ๆ ข้าเข้าใจแล้ว อาหารกลางวันทำเอาไว้ให้แล้วพวกเจ้าอุ่นกินได้เลย แล้วก็ถ้าแดดแรงกว่านี้พวกเจ้าอย่าออกมาถอนหญ้าตากแดดเข้าใจหรือไม่ประเดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้”

“ขอรับ”

“เจ้าค่ะ”

“ดีมาก ข้าไปล่ะ ประเดี๋ยวจะหาของอร่อยมาฝาก”

หลังจากสั่งความเด็กทั้งสองคนแล้วนางก็เดินเข้าป่าไปด้วยความเบิกบานใจ “รอข้าก่อนนะไม่ว่าอะไรที่สามารถกินได้ข้าจะขนให้เกลี้ยงป่า หึ ไม่ว่าใครก็ตามที่ส่งนางมาในที่แห่งนี้อยากจะให้นางมาอดตายอีกรอบใช่หรือไม่ ไม่เห็นเหมือนนิยายที่เคยอ่านเลย อะไรก็ไม่ให้ช่างใจดำอำมหิต แถมยังเกิดศึกสงครามอีกด้วยมันจะเกินไปแล้วจริง ๆ หึ หากเป็นชายส่งข้ามาข้าก็ขอให้ไอ้นั่นใช้การไม่ได้ หากเป็นหญิงส่งข้ามาข้าก็ขอให้ไม่มีสามี โทษฐานที่ส่งให้ข้ามามีสามีแต่ยังไม่ทันได้แซ่บก็ต้องโดนเกณฑ์ไปเป็นทหารเสียแล้ว”

เว่ยจื้อโหยวเดินไปบ่นไป นางไม่รู้หรอกว่าคำพูดของนางและคำสาปแช่งนั้นกระทบกระเทือนต่อใครหลาย ๆ คนในเบื้องบน ที่ตอนนี้กำลังมองลงมาที่นางด้วยใบหน้าดำคล้ำเป็นตับหมู

“ฮ่า ฮ่า ดูท่าว่านังหนูนั่นจะแค้นใจพวกเจ้าสองคนมากนะ ใครให้พวกเจ้าทะเลาะกันแล้วสะดุดเส้นชะตานางขาดก่อนวัยอันควรกันเล่า แถมยังส่งให้นางไปยังโลกคู่ขนานที่ไม่มีในหน้าหนังสือประวัติศาสตร์โลกอีก นางไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์อะไรได้ ก็สมแล้วที่นางก่นด่าสาปแช่งพวกเจ้าอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน” เทพโอสถ

“หุบปากของท่านไปเลย ก็ใครใช้ให้ตาเฒ่าจันทรามาพูดจาล่วงเกินข้าก่อน” เทพพฤกษา

“หนอย ยายเฒ่าต้นไม้ ข้าไปพูดล่วงเกินอะไรเจ้าหรือข้าแค่บอกว่าเจ้าอายุมากนับแสนปีอะไร ๆ มันก็คงเป็นไปตามกาลเวลาที่ข้าพูดไม่ถูกหรือ”

“ข้าว่าพวกเจ้าเลิกทะเลาะกันเถอะประเดี๋ยวก็เกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยหรอก ดีนะท่านมหาเทพไม่อยู่ไม่เช่นนั้นล่ะก็พวกเจ้าได้ลงไปชดใช้แน่ ๆ แล้วพวกท่านสองคนจะปล่อยให้นางก่นด่าไปเช่นนี้เรื่อย ๆ รึ” เทพโอสถ

“จะทำเช่นใดได้ข้าเองก็ไม่มีอะไรจะให้นาง ความรู้ความสามารถแต่เดิมของนางก็ติดตัวมาจากภพชาติที่แล้วก็น่าจะพอแล้วนี่ ยังจะต้องการอะไรอีก” เทพจันทรา

“โอ ตาเฒ่านี่นอกจากไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีแล้วยังไม่คิดชดใช้ข้าล่ะเชื่อเขาเลย” เทพพฤกษา

“เหอะ ข้าเป็นแค่เทพจันทราตัวเล็ก ๆ จะไปมีอะไรให้นางกัน ข้าก็ให้สามีกับนางแล้วยังไง ยังจะต้องการอะไรจากข้าอีก”

เดินมาได้ไม่เท่าไหร่สายตาของนางก็ปะทะเข้ากับเจ้าขนปุกปุยตัวใหญ่อวบอ้วนที่กำลังแทะรากหญ้าจนไม่สนใจว่าคนอยู่ด้านหลังของมัน เพราะในป่าแห่งนี้ไม่เคยมีชาวบ้านเข้ามาหาของป่า การระแวดระวังภัยของสัตว์ป่าจึงลดลง

เว่ยจื้อโหยวยกธนูในมือขึ้นแล้วก็เล็งไปที่กระต่ายอ้วน จากนั้นก็ปล่อยลูกธนูในมือยิงออกไป กระต่ายอ้วนจบชีวิตลงทันที นางเดินไปเก็บกระต่ายใส่ลงในตะกร้าไม้ไผ่ จากนั้นก็ออกเดินต่อ

หลังจากนั้นนางยังล่ากระต่ายป่า ไก่ป่า ได้อีกหลายตัว เมื่อดูเวลาแล้วก็เป็นเวลาที่นางสมควรจะกลับออกจากป่าแล้ว นางจึงรีบเดินกลับมาดูกับดักที่นางวางเอาไว้ จากที่วาดฝันว่าจะเจอเห็ดหลินจือ โสมคน หรืออะไรต่อมิอะไรก็เป็นเพียงแค่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ เท่านั้น

กับดักที่วางเอาไว้นับ10 อัน มีไก่ป่าและกระต่ายป่า มาติดทุกอัน อย่างน้อยก็ยังดีที่ไม่ต้องกลับบ้านมือเปล่า ไก่ป่ากับกระต่ายป่าที่ล่ามาได้รวมกับที่มาติดกับดัก นับรวมกันได้ 18 ตัวนับว่าเป็นการเก็บเกี่ยวที่ไม่เลวนางไม่รู้ราคาสัตว์ป่าคงต้องให้ท่านพ่อกับท่านลุงนำไปขายในเมืองพร้อมกับปลาในวันรุ่งขึ้น

ขากลับออกจากป่าเว่ยจื้อโหยวสะพายตะกร้าที่เต็มไปด้วยไก่ป่าและกระต่ายป่า เมื่อเดินมาถึงชายป่าก่อนจะถึงบ้านนางยังแวะไปยังป่าไผ่ที่มองเห็นอยู่ไม่ไกลเพื่อดูว่ามีหน่อไม้หลงเหลืออยู่หรือไม่ หากมีนางจะได้ขุดมาต้มน้ำแกงใส่ไก่

บ้านตระกูลเฉียน

ตอนนี้นางเฉียนกำลังคิดหาทางกำจัดพี่น้องกำพร้าบิดามารดา ถึงแม้ว่าจะบีบบังคับให้แยกบ้านออกไปแล้ว แต่นางกับสามีกลัวว่าสักวันอวิ๋นเซียวจะรู้ความจริงว่านางและสามีจงใจปล่อยให้พ่อแม่ของพวกเขาตาย

นางไม่ได้ไปตามหมอมารักษาน้องชายสามีและน้องสะใภ้และยังให้อดอาหารจนตาย มันช่วยไม่ได้พ่อสามีและแม่สามีอยากลำเอียงรักบ้านรองมากกว่าบ้านใหญ่ทั้ง ๆ ที่สามีของนางเป็นบุตรชายคนโต ก็สมควรแล้วที่จะตาย ๆ ไปเสียที

แต่ตอนนี้ลูกชายหญิงของทั้งสองคนกลับเป็นเสี้ยนหนามที่ปล่อยเอาไว้ไม่ได้ต้องกำจัดเสียให้หมด ตอนนี้พี่ใหญ่ของพวกมันออกไปนอกหมู่บ้านแล้วไม่แน่ว่าอาจจะตายในสนามรบ ส่วนน้องชายและน้องสาวของมัน นางจะเอาไปขายเป็นทาสส่วนภรรยาของมันนางจะขายเข้าหอนางโลม

หากเว่ยจื้อโหยวมาได้ยินความคิดของนางเฉียน คงไม่แคล้วรีบลงมือจัดการนางเฉียนก่อน นางเองก็มีลูกสาวไม่ใช่หรือจับลูกสาวนางไปโยนเข้าป่าให้เสือกินก็สิ้นเรื่อง ไม่ต้องลำบากเดินทางนำนางไปขายที่หอนางโลมให้เสียเวลา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย