เข้าสู่ระบบผ่าน

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย นิยาย บท 12

เว่ยจื้อโหยวเดินแบกตะกร้าที่เต็มไปด้วยไก่ป่าและกระต่ายป่า ในมือยังถือหน่อไม้มาด้วย 2 หน่อ วันนี้นางใช้เวลาเดินในป่ามากไปหน่อย ตอนนี้ถึงกับหมดแรงไปเลยทีเดียว

เมื่อเดินมาได้ใกล้จะถึงบ้าน นางก็ต้องหยุดยืนขมวดคิ้วแน่นเสียงด่าทอน้องชายน้องสาวดังมาจากหน้าบ้าน คงจะเป็นนังมนุษย์ป้าสะใภ้มหาภัยแน่ ๆ หาไม่แล้วใครจะกล้าและหน้าด้านมาด่าเด็กที่อายุยังไม่ถึง 10 หนาวด้วยซ้ำ จิตใจไร้สำนึกขนาดนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น

เว่ยจื้อโหยวสาวเท้าเดินกลับบ้านทันที นางเข้าด้านหลังบ้าน หลังจากนำตะกร้าเข้าไปวางไว้ในห้องนอนของนางเสร็จแล้วจึงปิดประตูใส่กุญแจเอาไว้ ไม่รอช้านางรีบเดินออกไปด้านหน้าบ้านก็พบน้องชายและน้องสาวยืนมองป้าสะใภ้อยู่ข้างหน้าต่าง

“ข้ากลับมาแล้ว พวกเจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่”

“พี่สะใภ้ท่านกลับมาเสียที ข้าหนวกหูจะตายแล้วเจ้าค่ะ นางจะเข้ามาในบ้านแต่ข้ากับน้องไม่ยอมเปิดประตูเพราะทุกครั้งที่นางเข้ามานางจะมาหยิบฉวยเอาของในครัวไปจนหมด”

“พวกเจ้าทำดีแล้ว ไม่ต้องกลัวข้าจะจัดการเอง”

“เจ้าค่ะ”

“โอ้ย หนวกหูจริง ๆ ผู้ใดปล่อยสุนัขมาเห่าหอนหน้าบ้านผู้อื่นช่างไม่รู้จักเกรงอกเกรงใจชาวบ้านชาวช่อง”

สิ้นเสียงของเว่ยจื้อโหยว นางเฉียนหุบปากสนิททันที หลังจากคิดได้ว่าเว่ยจื้อโหยวด่าว่านางเป็นหมานางก็โมโหเดือดดาลขึ้นมาอีกครั้ง

“เจ้า นังแพศยา นังปีศาจจิ้งจอกเจ้ากล่าวว่าผู้ใดเป็นสุนัข”

"ข้าไม่ได้ว่าผู้ใดนี่เจ้าคะ ข้าเพียงแต่บอกว่าผู้ใดปล่อยให้สุนัขมาเห่าหอนหน้าบ้านผู้อื่นไม่รู้จักเกรงอกเกรงใจเอาเสียเลย"

“นี่เจ้า เจ้าว่าข้าเป็นสุนัขหรือ ไม่รู้จักกตัญญูต่อญาติของสามีนับว่าแย่แล้ว นี่ยังไม่เคารพผู้อาวุโสอีกหรือ พ่อแม่เจ้าคงสอนมาเช่นนี้สินะ”

“ข้าไม่ได้เอ่ยชื่อนี่เจ้าคะ ท่านอยากรับก็รับไปเถอะเจ้าค่ะ แล้วท่านไม่ต้องมานับญาติกับสามีข้า สองครอบครัวตัดขาดกันแล้วเป็นท่านที่บีบบังคับให้พวกเขาแยกบ้านออกมา อีกทั้งยังฮุบเอาทรัพย์สินของพ่อแม่สามีข้าเอาไว้อีกด้วย นี่คือสิ่งที่ผู้อาวุโสในตระกูลกระทำกันหรือ แล้ววันนี้ท่านมาเห่าหอนอะไรที่หน้าบ้านข้า คิดจะมารังแกน้อง ๆ ของสามีข้าเช่นนั้นหรือ หรือเห็นว่าสามีของข้าไม่อยู่คิดจะมารังแกบีบคั้นให้พวกเราต้องตายไปหมดท่านถึงจะพอใจ ทั้งสองบ้านถือว่าตัดขาดกันไปแล้วท่านลืมไปแล้วกระมัง”

“เจ้า … เจ้า นังหน้าด้านไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโส”

“ข้าหรือไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโส แล้วผู้อาวุโสอย่างท่านทำเช่นนี้สมควรแล้วหรือ บ่อยครั้งที่ท่านเข้ามาหยิบฉวยของในบ้าน รังแกน้องสามีข้า ท่านเห็นบ้านเดิมของข้าตายไปหมดแล้วหรือ หรือว่าท่านต้องการจะไปคุยกับข้าในชั้นศาล ก็ได้นะเจ้าคะพรุ่งนี้ข้าจะให้ท่านพ่อของข้านำหนังสือแยกบ้านไปแจ้งกับทางการ แล้วมาดูกันว่าที่ผ่านมาท่านทำอะไรไว้ อย่าคิดว่าไม่มีผู้ใดรู้หากทางการสืบสวนขึ้นมาท่านก็ไปนอนคุกเสียเถอะเจ้าค่ะ”

นางเฉียนได้ยินเว่ยจื้อโหยวจะแจ้งทางการนางตกใจมาก นางไม่คิกว่าเด็กสาวบอบบางเช่นนางจิ้งจอกน้อยคนนี้จะร้ายกาจเพียงนี้ หากมันไปแจ้งกับทางการจริง ๆ นางคงต้องสูญเสียทรัพย์สินและอาจจะติดคุกจริง ๆ

“หึ ฝากเอาไว้ก่อนเถอะพวกสารเลว”

“ไม่รับฝากเจ้าค่ะ แล้วพวกข้าก็ไม่ได้สารเลวเหมือนท่านด้วย หากว่าท่านยังมาระรานบ้านสามีข้าอีกครั้ง ข้าจะแจ้งทางการทันที และข้าก็ทำจริงด้วยเจ้าค่ะ”

เว่ยจื้อโหยวไม่รู้หรอกว่านางเฉียนทำเลวอะไรเอาไว้บ้างเพียงแต่นางพูดออกไปเพื่อขู่นางเฉียนเท่านั้น ไม่คิดว่าคำพูดของนางจะไปจี้จุดนางเฉียนเข้า เมื่อนางเฉียนกลับไปแล้ว อวิ๋นซวนกับอวิ๋นเฟย ต่างถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ข้าคิดว่านางคงไม่กล้ามารังแกพวกเจ้าไปอีกนาน”

“พี่สะใภ้เก่งมากขอรับ”

“นั่นสิเจ้าคะ พี่สะใภ้ตอกหน้าท่านป้าสะใภ้ไปแบบนี้ สะใจข้าจริง ๆ”

“เอาล่ะ ๆ ไม่ต้องพูดแล้ว เข้าบ้านกันเถอะวันนี้ข้าจะทำน้ำแกงไก่ใส่หน่อไม้ให้กิน ก่อนอื่นอาซวนเจ้าเอาไก่กับกระต่ายไปให้บ้านท่านพ่อข้าหน่อย ระวังตัวด้วยรีบไปรีบกลับล่ะ”

“ขอรับพี่สะใภ้”

“พี่สะใภ้เหตุใดจึงได้ไก่กับกระต่ายกลับมามากมายเพียงนี้ ท่านคงไม่ได้เข้าป่าทางด้านซ้ายใช่หรือไม่”

“ไม่ ไม่ ข้าไม่ได้เข้าไปเลย ก็เจ้าบอกว่าไม่มีชาวบ้านคนไหนเข้าไปไม่ใช่หรือไง”

“เจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นเจ้าจุดไฟหุงข้าวก่อน ข้าจะทำความสะอาดไก่ ส่วนที่เหลือจะฝากท่านพ่อกับท่านลุงไปขายพรุ่งนี้เช้า”

“เจ้าค่ะพี่สะใภ้”

อวิ๋นซวนที่รับหน้าที่นำไก่และกระต่ายมาส่งให้ที่บ้านเหลียนก็มาถึงอย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน ตอนมาเขาก็กลัวจะเจอกับป้าสะใภ้อยู่บ้างขากลับให้ท่านลุงไปส่งน่าจะดี

“ท่านยายเหลียน ท่านตาเหลียนอยู่หรือไม่ขอรับ ข้าอาซวนขอรับ เปิดประตูให้ข้าที”

“ท่านแม่เหมือนอาซวนเรียกอยู่หน้าบ้านนะเจ้าคะ”

“พวกเจ้าทำงานครัวไปเถอะข้าออกไปเอง”

“เจ้าค่ะท่านแม่"

เว่ยจื้อโหยวที่กำลังนอนหลับไปด้วยความเหนื่อยล้านั้นนางไม่ได้รับรู้ว่าใครกำลังร้อนก้นจนทนนั่งต่อไปไม่ไหวเพราะคำก่นด่าปนสาปแช่งทุกวัน

ทางด้านอวิ๋นเซียวที่ออกเดินทางมาจากหมู่บ้านที่ตอนนี้กำลังค้างแรมในป่าเช่นเดียวกัน ด้านข้างของเขาเป็นญาติผู้พี่ของภรรยา พวกเขานำอาหารแห้งที่ติดตัวมาด้วยกินกันอย่างประหยัดกว่าจะถึงชายแดนใช้เวลาอีกหลายวัน

ในใจเขาตอนนี้คิดถึงภรรยามากนักไม่รู้นางจะคิดถึงเขาบ้างหรือไม่ นางจะกินอิ่มนอนหลับ นางจะรับมือกับญาติที่น่ารังเกียจของเขาได้หรือไม่

“นี่สหายเซียวเจ้าคิดอันใดอยู่ ยังไม่รับนอนอีก ประเดี๋ยวตอนเดินทางก็ได้เหนื่อยตายกันพอดี” เซี่ยเหิงสหายร่วมรบจากหมู่บ้านข้างเคียง

“คิดถึงภรรยาข้าน่ะ ไม่รู้นางจะเป็นเช่นไรบ้าง ข้าทำผิดต่อนางมาก”

“ข้าไม่ยิ่งกว่าเจ้าหรืออย่างไร แต่งงานตอนเช้า เย็นยังไม่ทันได้เข้าหอ เมียข้ารอบเดือนมาไม่พอเช้าวันต่อมาข้าก็เดินทางมากับพวกเจ้านี่ยังไง ส่วนเจ้าปล่อยภรรยาเอาไว้ทำอะไรตั้งนาน แต่ก็ช่างมันเถอะพูดไปก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เมียเจ้ายังดีนางเตรียมของให้เจ้ามากมาย ข้านี่สิกลับไปไม่รู้นางจะยังรอข้าอยู่หรือไม่”

อวิ๋นเซียวได้แต่เหลือบมองเพื่อนร่วมรบและเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกันกับตัวเอง เขายังดีหน่อยที่ภรรยาเข้าใจ แต่สหายแซ่เซี่ยผู้นี้เห็นทีจะลำบากแน่แล้วไม่รู้จะรักษาภรรยาเอาไว้ได้หรือไม่

ส่วนทางด้านผู้ที่ถูกก่นด่าสาปแช่งตอนนี้ได้ตกลงกันแล้วว่าเทพพฤกษาจะให้ความสามารถในการเพาะปลูกแก่เว่ยจื้อโหยว ไม่ว่าจะปลูกสิ่งใดจะเจริญงอกงามและมีรสชาติอร่อย ส่วนเทพจันทรานั้นให้มิติขนาดเล็กที่มีพื้นที่ 1 หมู่ พร้อมบ่อน้ำแร่ที่ใช้ไม่มีวันหมด

น้ำในมิติมีสรรพคุณรักษาอาการเจ็บป่วยได้ หลังจากที่ตกลงกันได้แล้วเทพทั้งสองก็นำของไปมอบให้เว่ยจื้อโหยวที่กำลังนอนหลับฝันดีอยู่ในห้องของนาง

“นี่นังหนู นังหนู ตื่นมาคุยกันก่อน”

“คนจะหลับจะนอน ใครมาเรียกเรา เอ๊ะ หรือว่าจะเป็นผีพ่อแม่สามีหรือเปล่า”

“พอ พอ เจ้าหยุดเพ้อเจ้อแล้วลืมตาได้แล้ว ข้ามีของมาให้เจ้าจะได้เลิกก่นด่าสาปแช่งพวกข้าเสียที” เทพชะตา

เว่ยจื้อโหยวได้ยินเช่นนั้นนางก็ลืมตาขึ้นมองพร้อมกับถามออกไปด้วยความงุนงง

"พวกท่านเป็นใครเจ้าคะ แล้วมาทำอะไรในห้องข้า แล้วเข้ามาได้อย่างไร หรือพวกท่านเป็นนักย่องเบาหรือเจ้าคะ"

“เจ้าหยุดวาจาเพ้อเจ้อของเจ้าก่อน ข้ารีบ เอาล่ะ ข้าจะมอบมิติจิตให้เจ้า ต่อไปเจ้าจะได้เลิกก่นด่าเสียที ข้าสามารถให้ได้เพียงขนาดเล็กเท่านั้น ในมิติมีน้ำแร่อยู่ใช้ได้ไม่มีวันหมด สรรพคุณบำรุงร่างกายและรักษาโรค เจ้าจงใช้อย่างระมัดระวัง ส่วนการใช้มิตินั้นเพียงแค่เจ้ากำหนดจิตให้เข้าและออกเท่านั้นเจ้าจะสามารถเข้าไปได้ เอาล่ะหมดหน้าที่ของข้าแล้วข้าไปล่ะ ขอให้เจ้าโชคดี”

“ส่วนข้า ข้าขอให้เจ้าเพาะปลูกสิ่งได้ล้วนงอกงามและรสชาติอร่อย ข้าแถมให้อีกนิดพืชที่เจ้าปลูกจะโตเร็วกว่าคนอื่น 1 ส่วน ข้าเองก็ให้ได้เท่านี้หวังว่าเจ้าจะเลิกก่นด่าพวกข้าเสียที”

“อ้าว อะไรเนี่ย ตาเฒ่ากับยายเฒ่าสองคนนี้ คิดจะมาก็มาคิดจะไปก็ไป แล้วมาพูดเรื่องอะไรเนี่ย อะไรก็ช่างเถอะเช้าค่อยลองดูตอนนี้ง่วงจะแย่แล้ว ดันมาปลุกกลางดึกเสียได้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย