เข้าสู่ระบบผ่าน

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย นิยาย บท 4

สามพี่น้องเข็นรถเข็นที่ใส่หมูที่จะนำมาเป็นสินสอดเอาไว้ เมื่อเดินมาถึงบ้านตระกูลเหลียนอวิ๋นเซียวเรียกแม่เฒ่าเหลียนอยู่หน้าบ้าน

“ท่านยายเหลียนขอรับ ท่านยายเหลียนอยู่หรือไม่ขอรับ” อวิ๋นเซียว

“อยู่ ๆ ใครมาล่ะนั่น อ้าวอาเซียวกับน้อง ๆ เองหรือ เข้ามาก่อนสิ แล้วนี่เอาอะไรมาเยอะแยะ” แม่เฒ่าเหลียนมองดูรถเข็นที่มีหมูป่าตัวใหญ่ทั้งยังมีไข่ไก่ป่า กระต่ายป่าและไก่ป่าอีกจำนวนหนึ่ง

“เอ่อ คือ.. คือว่าข้าเองก็ไม่ได้มีเงินทองข้าเลยนำของทั้งหมดนี้มาเป็นสินสอดเพื่อสู่ขอภรรยาขอรับ หวังว่าท่านยายจะไม่รังเกียจ”

“ไม่รังเกียจ ไม่รังเกียจ ยายไม่รังเกียจเลย ขอบใจเจ้ามากนะ หมูป่าไม่ใช่จะล่ากันได้ง่าย ๆ นี่ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของอาเซียวที่มีต่ออาโหยวแล้ว”

“ขอบพระคุณท่านยายมากขอรับ เช่นนั้นวันนี้ข้าสามารถรับตัวภรรยากลับไปได้เลยหรือไม่” อวิ๋นเซียว

“จะดีหรืออาโหยวยังไม่หายดีเลย จะลำบากให้พวกเจ้าต้องมานั่งดูแลนางหรือไม่” แม่เฒ่าเหลียน

“ไม่ลำบากขอรับ ข้าจะดูแลนางอย่างดี”

“เช่นนั้นเข้ามาคุยกันในบ้านเถิด จะได้พูดคุยทำความรู้จักกับพ่อตาแม่ยายและน้อง ๆ ของอาโหยวด้วย”

“ขอรับท่านยาย”

“อี้ปิง เจี้ยนป๋อ มายกของเข้าไปเก็บในบ้านช่วยอาเซียวหน่อย ส่วนพวกเจ้าตามข้าเข้าไปนั่งในบ้านก่อน” แม่เฒ่าเหลียนเรียกลูกชายและลูกเขยออกมาช่วยอวิ๋นเซียวยกของไปเก็บในบ้าน

หลังจากที่ทุกคนมากันครบพร้อมหน้าพร้อมตาแล้วขาดเพียงแค่เว่ยจื้อโหยวที่ยังนอนอยู่ในห้อง พ่อเฒ่าเหลียนที่กำลังวุ่นวายอยู่กับแปลงผักก็มาพร้อมกับเว่ยหย่งหมิงที่วิ่งไปตามผู้เป็นตา

“เอาล่ะทีนี้มากันครบทุกคนแล้ว บ้านสกุลเหลียนของพวกเราเจ้าเองคงรู้จักกันทุกคนอยู่แล้วคงไม่ต้องแนะนำอีก ส่วนทางนี้เว่ยเจี้ยนป๋อเป็นพ่อของอาโหยว แล้วก็แม่ของอาโหยวเหลี่ยนเหมยชิงซึ่งเป็นลูกสาวของยายเอง เด็กสองคนนี้เป็นน้องสาวของอาโหยว คนโตเว่ยหย่งหมิง ส่วนคนเล็กเว่ยหย่งคัง”

“คารวะท่านพ่อตาแม่ยายของรับ สวัสดีน้องชายภรรยา นี่คือน้องชายของข้าอวิ๋นซวนและน้องสาวอวิ๋นเฟยขอรับ” อวิ๋นเซียว

“คารวะท่านลุงท่านป้าเจ้าค่ะ” อวิ๋นเฟย

“คารวะท่านลุงท่านป้าขอรับ” อวิ๋นซวน

“เจี้ยนป๋อ เหมยชิง อาเซียวอยากจะรับอาโหยวไปวันนี้พวกเจ้าจะว่าอย่างไร” แม่เฒ่าเหลียน

“พวกเขาไม่ขัดข้องขอรับท่านแม่ยาย” เจี้ยนป๋อ

“ข้าเองก็เห็นด้วยกับท่านพี่เจ้าค่ะ” เหมยชิง

“เช่นนั้นเจ้าไปเรียกอาโหยวให้ลุกขึ้นอาบน้ำผลัดผ้าเสีย เดี๋ยวแม่กับพี่สะใภ้ของเจ้าจะช่วยกันเตรียมของให้อาโหยว ส่วนตาเฒ่ากับอาปิงช่วยกันยกไปวางใส่รถเข็น” แม่เฒ่าเหลียนแจกแจงหน้าที่ของแต่ละคน

ใช้เวลาไม่นานสินเดิมที่เตรียมเอาไว้อย่างเร่งด่วนก็ถูกนำไปวางในรถเข็น เว่ยจื่อโหยวถูกผู้เป็นแม่ปลุกให้ลุกขึ้นอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบเร่งด่วน ถึงแม้ว่านางจะยังสับสนและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ยังทำตามคำของมารดาคือไปอาบน้ำและผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่ที่ท่านแม่และป้าสะใภ้ของนางเร่งมือตัดเย็บขึ้น

“เอาล่ะอาโหยว สามีของลูกมารับแล้ว ต่อไปนี้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ของลูกให้มีความสุข หากต้องการให้พ่อแม่ช่วยเหลืออันใดก็สามารถบอกกล่าวพ่อกับแม่ได้”

“เจ้าค่ะท่านแม่” เว่ยจื้อโหยวได้แต่รับคำของผู้เป็นแม่ในใจพลันก่นด่าอวิ๋นเซียวจะรีบอะไรขนาดนั้นนางยังไม่หายดีเลยด้วยซ้ำไป

“ท่านแม่ท่านพ่อ ท่านพี่ ข้าพาอาโหยวมาแล้วเจ้าค่ะ ข้าวของเตรียมครบหรือยังเจ้าคะ”

“เรียบร้อยแล้วเหมยชิง ไปพวกเราไปส่งอาโหยวกัน” แม่เฒ่าเหลียน

“ส่งนางให้ข้าเถอะขอรับท่านยาย” อวิ๋นเซียว

รอก่อนเถอะรอให้ถึงเวลาที่พี่ชายของพวกมันถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารเสียก่อนเถอะ ส่วนเมียที่เพิ่งแต่งเข้ามาของมันนางจะจับขายไปเสียด้วยกัน ยิ่งคิดนางเฉียนซื่อก็ยิ่งแค้น ใครใช้ให้พวกมันเกิดมาเป็นลูกของผู้หญิงที่นางเกลียดสุดหัวใจกันล่ะ

เว่ยจื้อโหยวนั่งมาในรถเข็นแบบงง ๆ ถึงตอนนี้ยังคงไม่เข้าใจการแต่งงานมันง่ายขนาดนี้เลยหรือ ไม่ต้องมีแม่สื่อมาสู่ขอ ไม่ต้องจัดงานเลี้ยง เพียงแค่เอาสินสอดมาแล้วก็รับเอาภรรยากลับไปเช่นนี้ก็ได้หรือ แถมยังสายตาและคำนินทาของชาวบ้านตลอดทางที่ผ่านมาอีกล่ะ

แต่ช่างเรื่องของคำนินทาไปก่อนเถอะ ร่างนี้อายุเพิ่งจะ 17 ยังไม่ถึง 18 เลย แต่ว่าสามีก็หล่อจริง ๆ นะ ถึงแม้ว่าจะยากจนไปหน่อยก็ไม่เป็นไร ไหน ๆ ก็มีสามีหล่นใส่หัวแล้วนางก็จะเต็มใจรับเอาไว้ก็ได้ เด็กสองคนก็ถือว่าหน้าตาดีมากเพียงแต่ผอมไปหน่อยหลังจากนี้ก็ถึงเวลาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ได้รับมา

เว่ยจื้อโหยวที่นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนมาถึงถึงบ้านของอวิ๋นเซียว เขาจอดรถเข็นและอุ้มนางเข้าบ้าน หลังจากที่อุ้มภรรยาไปนอนบนเตียงในห้องนอนอันคับแคบของเขาแล้ว เขาก็ออกมาช่วยน้องชายน้องสาวขนสินเดิมของภรรยาเข้าบ้าน

“อดทนหน่อยนะอาโหยว ที่นี่ออกจะคับแคบไปหน่อย แต่ข้าสัญญาว่าจะดูแลเจ้าให้ดี ตอนนี้เจ้าไม่ต้องคิดอะไรมากเจ้านอนพักผ่อนก่อน ตื่นมาจะได้กินข้าว”

“เจ้าค่ะ”

“เจ้าพักผ่อนเถอะข้าจะออกไปตุ๋นน้ำแกงไก่เอาไว้ให้เจ้าบำรุงร่างกาย”

“ขอบคุณท่านพี่เจ้าค่ะ”

“ข้าเต็มใจ” อวิ๋นเซียวตอบออกไปพร้อมกับหน้าแดง เขาไม่คิดว่าภรรยาของเขาจะงดงามปานนี้ ในใจก็กลัวว่านางจะไม่ยินดีและรังเกียจที่เขายากจนแต่ดูแล้วนางคงเต็มใจแต่งให้เขาจริง ๆ หาใช่โดนบังคับหรือจำใจแต่งให้เขาเพื่อที่จะได้ไม่ต้องตกไปเป็นอนุของเศรษฐีเฒ่า

อวิ๋นเซียวปล่อยให้ภรรยาหมาด ๆ ได้นอนพักผ่อน จากนั้นเขาเข้าครัวนำไก่ป่าที่ล่ามาได้ไปตุ๋นเป็นน้ำแกงไก่บำรุงร่างกายภรรยา เขาได้แต่หวังว่าจะหาเงินได้เพียงพอที่จะจ่ายให้กับทางการจะได้ไม่ต้องถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร แต่เงินตั้ง 10 ตำลึงทอง เขาจะไปหาทันได้ยังไงกัน

เว่ยจื้อโหยวหลับไปจนถึงพลบค่ำนางตื่นขึ้นมาเพราะอวิ๋นเซียวเรียกให้นางลุกขึ้นมากินข้าวหลังจากที่นางกินน้ำแกงไก่บำรุงร่างกายแล้วอวิ๋นเซียวให้นางดื่มยาต่อทันที จากนั้นเขายกน้ำเข้ามาให้นางเช็ดตัวแล้วค่อยปล่อยให้นางนอนต่อ

เวลาผ่านไปแล้ว 7 วันนับตั้งแต่เว่ยจื้อโหยวแต่งเข้ามาเป็นภรรยาอวิ๋นเซียว ตอนนี้ร่างกายของนางหายดีแล้ว ทุกวันอวิ๋นเซียวจะเข้าป่าล่าสัตว์และนำสัตว์ป่าที่ได้มาไปขายแลกเงิน

จากนั้นก็ซื้อข้าวสารและเครื่องปรุงต่าง ๆ กลับมา ส่วนน้องชายน้องสาวทำงานบ้านและดูแลแปลงผักเล็ก ๆ หลังบ้าน นางได้รับการเอาใจใส่จากอวิ๋นเซียวและน้องสาวน้องชาย เขาดูแลนางอย่างดีดังเช่นที่เขาได้ลั่นวาจาเอาไว้กับครอบครัวของนาง แต่ผ่านมาแล้ว 7 วัน นางยังไม่ได้เข้าหอเลยแล้วแบบนี้จะเรียกว่าเป็นสามีภรรยากันได้อย่างไร

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย