ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าวิ่งสะเปะสะปะไปมาอย่างไม่รู้ทิศรู้ทางว่าควรจะไปที่ไหน รู้แค่ว่าเธอต้องหนี ภายใต้ความมืดมิดมีเพียงแสงสีทองจากดวงจันทร์และหมู่ดาวคอยนำทางเท่านั้น
โฮก ~
เงาร่างดำทะมึนกำลังไล่ตามมาพร้อมเสียงคำรามดังลั่น ทำเอาร่างบางตัวสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว
“กรี๊ดดดดดด”
เธอร้องอย่างตกใจเมื่อเงาดำที่ไล่ตามมากระโดดข้ามหัวและดักทางเธอไว้ ลายพาดกลอนสีดำตลอดทั้งลำตัวที่ปกคลุมด้วยขนสีเหลืองส้ม ทำให้เธอหน้าซีดตัวชาและก้าวขาไม่ออก
“อย่าเข้ามานะ”
แม้จะกลัวแต่ก็ยังมองจ้องตาสัตว์ร้ายไว้ตลอด เพราะจะทำให้พวกมันไม่กล้าผลีผลามเข้ามาใกล้ แต่เธอก็ต้องขมวดคิ้วทันทีเมื่อมันมองจ้องกลับอย่างไม่ลดละ มันเดินเข้ามาใกล้และกระโดดเข้าใส่เธอทันที
โฮกกกกก ~
“กรี๊ดดดดดด”
ติ๊ด ติ๊ด
“ฝันเหรอเนี่ย…ทำเอาใจหายใจคว่ำหมดเลย” ฉันพึมพำกับตัวเองหลังจากตื่นขึ้นมาในห้องนอนกว้าง เพราะเสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียง
ฉันเอื้อมมือไปหยิบมือถือข้างเตียงเพื่อเข้าโซเชียล ก่อนจะพบข้อความของใครบางคนที่ทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมา
สายฟ้า : ถึงบ้านแล้ว ฝันดีนะ
เขาไม่ใช่แฟน ไม่ใช่คนรัก แต่เราเป็นเพื่อนสนิทกัน รู้จักกันตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมปลายคนที่ไม่ค่อยอยากสุงสิงกับใคร แต่เป็นเขาที่ก้าวเข้ามาทำความรู้จักกับฉัน
พูดตามตรงว่าตัวฉันเองดูอัธยาศัยดีแต่ก็กับคนรู้จักเท่านั้น ถ้าคนอื่นคงดูเข้าถึงยากแต่ก็ไม่ได้หยิ่งนะ ในช่วงที่เรียนเลยมีแค่สายฟ้านี่แหละที่เป็นเพื่อนสนิท
อ้อ...แล้วยังมีเพื่อนอีกสามคน แต่เราเรียนคนละห้อง มีเรย์และฝาแฝดอิล แอล พวกเขาเป็นเพื่อนของสายฟ้าตั้งแต่มัธยมต้น ฉันเลยได้รู้จักและเป็นเพื่อนกันจนคนในโรงเรียนหมั่นไส้ฉันกันหมด เพราะพวกเขาน่ะถือว่าป๊อปมากในโรงเรียน
ซินเซีย : โอเคตื่นมาแฮ้งไหม?
พิมพ์ตอบกลับหาเขาเสร็จ มองหน้าจออยู่สักพัก เขาไม่อ่านแสดงว่ายังไม่ตื่น เมื่อคืนพวกเพื่อนทั้งสี่คนออกไปเที่ยวผับกันทั้งที่อายุไม่สามารถเข้าสถานบันเทิงได้ แม้จะแปลกใจแต่คงไม่มีอะไรให้คิดมากนอกจากเรื่องเส้นสายประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยเงินและชนชั้น
มีเงิน = ไม่ผิดกฎหมาย
ฉันปิดหน้าจอมือถือก่อนจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัว เพราะว่าเป็นช่วงระหว่างรอเปิดเทอมเข้ามหา’ลัย ฉันเลยว่างต่างกับพวกเฮียที่ไปทำงานและฝึกงานกัน
สายฟ้า : ตื่นสาย
ยังไม่ทันลุกไปทำธุระ เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นทำให้ฉันรีบหยิบมือถือขึ้นมาเปิดอ่านอย่างไว และพิมพ์ตอบกลับตอนนั้นเลย
แชตสำคัญเราจะพลาดได้ไง….
ซินเซีย : ไม่สายเพราะตอนนี้เที่ยงแล้ว
สายฟ้า : พาไปหาข้าวกินหน่อย
ซินเซีย : ที่ไหน มารับได้ไหม
สายฟ้า : ไม่อยากไปบ้านเธอ
ฉันขมวดคิ้วทันทีแต่ก็เข้าใจได้ พี่ชายฉันทั้งหลายค่อนข้างหวงน้องสาวอย่างฉันมาก ดูแลประคบประหงมอย่างดี ตอนเข้ามัธยมปลายฉันต้องโกหกว่ามีเพื่อนสนิทชื่อฟ้าที่เป็นผู้หญิง เพื่อให้พวกเฮียสบายใจ
แม้พวกเขาจะถามว่าทำไมไม่พาเพื่อนมาบ้านหรือพามาแนะนำให้รู้จัก ฉันก็ปฏิเสธไปว่าเพื่อนอายพวกเฮีย หลายปีมานี้ฉันเลยกลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะเต็มตัว
ซินเซีย : แต่วันนี้ทางสะดวกนะ พวกเฮียไม่อยู่
สายฟ้า : ต้องไปรับไอ้เรย์
ซินเซีย : เรย์ก็ไปเหรอ
สายฟ้า : อือ ไอ้แฝดด้วย
อ่านจบฉันถอนหายใจเลย โอ๊ย นึกว่าจะไปเดตกันสองคนกับสายฟ้า ที่ไหนได้เขาดันชวนทุกคน แบบนี้ฉันจะมีโอกาสสมหวังไหมนะ หรือจะแค่แอบชอบต่อไปดี
ใช่!
ความลับหนึ่งเดียวที่ต้องเก็บให้มิดชิด คือความรู้สึกของฉันที่แอบซ่อนมานาน มันนานจนคิดว่าอยู่แบบนี้ก็ดีนะ ถ้าเขายังไม่มีใครฉันก็ยังเป็นคนสำคัญของเขาอยู่เสมอ จนลืมคิดไปว่าคำว่าตลอดไปไม่มีจริง
ไม่ช้าก็เร็วเขาต้องมีคนข้างกาย เมื่อถึงตอนนั้นฉันยังไม่รู้เลยว่าตัวเองต้องรู้สึกยังไง
บทที่ 1 เฮียต้าร์
คฤหาสน์ชวัลกร
ฉันนอนเกลือกกลิ้งไปมาอยู่บนโซฟากลางห้องโถงเพื่อรอเวลาไปรับญาติสาวคนเดียวหรืออีกสถานะหนึ่งคือเพื่อนสาวคนสนิท เราอายุเท่ากันและมีอะไรคล้าย ๆ กัน แต่เพราะครอบครัวอาสามต้องไปดูแลธุรกิจที่ฮ่องกง ทำให้เราเจอกันแค่ช่วงปิดเทอมเท่านั้น
ครอบครัวของฉันเป็นครอบครัวใหญ่มีคุณปู่เตโชที่คุมบังเหียนของบ้านและธุรกิจต่าง ๆ ท่านมีลูกชายสามคน คนแรกลุงใหญ่หรือท่านเตชินท์เจ้าของห้างดังทั่วประเทศ ภรรยาคือป้าภาดามีลูกชายสองคน เฮียติณณ์กับเฮียต้าร์ ต่อมาก็บ้านฉันห้าคน ป๊า แม่ เฮียซัน เฮียโซ่ แล้วก็ฉัน ส่วนครอบครัวอาสามหรือท่านเตวินทร์ มีแค่เฮียรบหรือนักรบที่อยู่ที่นี่ เพราะเฮียเรียนพร้อมกับพวกเฮียต้าร์เฮียโซ่ นอกนั้นอาสามอาซาร่าและยัยไซซีจะอยู่ฮ่องกงเป็นหลัก
แต่เมื่อไม่นานมานี้ไซซีก็ตัดสินใจจะมาเรียนที่ไทยกับฉัน เราเลือกเรียนคณะวิศวะเหมือนกันและสาขาเดียวกัน ตอนแรกที่รู้ฉันดีใจมากเพราะเราสนิทกัน แม้อยู่คนละประเทศก็ยังติดต่อกันตลอด
“หมวยมานอนเป็นแมวป่วยอะไรอยู่ตรงนี้” เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมแรงยวบของโซฟาทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปมอง แค่เห็นสีผมแดงเพลิงแสนโดดเด่นฉันก็รู้แล้วว่าใคร
เฮียต้าร์ลูกพี่ลูกน้องของฉัน
“ชิ! ไปได้แล้วค่ะ หิว!!” ซินเซียลุกจากโซฟาก่อนจะดึงแขนพี่ชายออกจากบ้านทันทีเพราะขี้เกียจต่อล้อต่อเถียง
ทั้งคู่ขับรถมาทานอาหารญี่ปุ่นที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำในย่านนี้
ร่างบางใส่ชุดสบาย ๆ เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นและรองเท้าผ้าใบ ใบหน้าสวยหวานราวตุ๊กตาทำให้หลายคนอดมองแล้วใจกระตุกไม่ได้ ดูบอบบางราวกับจะแตกสลาย ยิ่งผิวสะท้อนแสงยิ่งเสริมให้คนตัวเล็กราวกับมีออร่ารอบกาย
หมับ!
แต่ความหวังของชายหนุ่มแถวนั้นต้องมลายหายไป เมื่อคนตัวเล็กวิ่งไปกอดแขนแกร่งของชายหนุ่มที่ท่าทางดูอันตราย เรือนผมสีแดงเพลิง
“ไปกันเลยไหมคะ”
“มาเร็วมาก บอกให้ขับช้า ๆ เฮียรอได้”
“ไม่ค่ะ ขับช้าก็ไม่ทันกิน”
“ยัยเด็กตะกละ!”
“ยอมรับ วันนี้เลี้ยงหนูด้วยนะ เงินเดือนเอาไปซื้อกระเป๋าหมดแล้ว”
“ไม่เชื่อ”
“แล้วแต่”
ร่างสูงส่ายหัวอย่างไม่เชื่อ ในบ้านนี้คงไม่มีใครรวยเท่าเด็กคนนี้อีกแล้ว เพราะรายรับหลายทางเหลือเกิน ทั้งพ่อ แม่ พี่ชายสองคน และแม้แต่ตัวเขาเอง ไปไหนก็เลี้ยงตลอด เอาเป็นว่าซินเซียแทบไม่ได้ใช้เงินตัวเองเลยละ
ทั้งคู่เดินเข้าไปในร้านอาหารที่เป็นหนึ่งในร้านประจำ อย่างที่บอกว่าทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกันมาก เหมือนเกิดมาจากท้องเดียวกัน ยิ่งของกินยิ่งชอบเหมือนกันจนบางครั้งเธอยังแอบคิดเลยว่า ตัวเองควรเป็นน้องแท้ ๆ ของเฮียต้าร์มากกว่าเฮียโซ่อีก รายนั้นชวนไปกินของอร่อยยากเหลือเกิน
“หมวยเอาอะไร ซาชิมิไหม?” ต้าร์ถามพลางดูเมนูไปด้วยและร่างบางก็พยักหน้าตอบ ไม่ว่าเขาจะเลือกเมนูไหนก็เป็นของที่เธอชอบทั้งนั้น ท่าทางใส่ใจของชายหนุ่มที่มีต่อหญิงสาวทำเอาสาว ๆ หลายคนแอบมองตาเป็นมัน พลางอิจฉาซินเซียอยู่ในใจที่ได้รับการดูแลจากหนุ่มหล่อขนาดนี้
โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่ามีชายหนุ่มสองคนเดินผ่านร้านพอดี เพียงเห็นเส้นผมสีแดงโดดเด่นพวกเขาก็รู้แล้วว่าเป็นใคร ร่างสูงใบหน้าเรียบนิ่งมีรอยสักเต็มแขนขวากำลังจะเดินเข้าไปทักทาย แต่โดนมือหนาของเพื่อนคว้าไว้ซะก่อน
“มีอะไรวะเสือ”
“มันอยู่กับผู้หญิง”
“เออ จริงด้วย...งั้นไม่ไปทักมันหรอก”
“อืม”
เสือพยักหน้าอย่างเห็นด้วยก่อนจะละสายตาและเดินผ่านร้านอาหารไป แม้ไม่เห็นหน้าของผู้หญิงที่เพื่อนพามาด้วย แต่เขาก็มั่นใจว่าต้องสวยแน่นอน แค่เห็นข้างหลังยังดูดีขนาดนี้ข้างหน้าจะขนาดไหน จนเขาต้องสลัดความคิดไร้สาระของตัวเองออกไป
สวยแค่ไหนเขาก็ไม่สนหรอกถ้าของเพื่อน...

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Love Engineerเมียวิศวะ