#ลู่หลินไม่อินประวัติศาสตร์ ภาคป๋ายลู่หลิน กับศึกชิงบัลลังก์อาณาจักรฉิน นิยาย บท 3

ภาค 2 ตอนที่ 3 เตรียมตัวออกเดินทาง

เด็กน้อยเสี่ยวฉากวาเบอร์หนึ่งของลู่หลินกำลังงุนงงยามที่มองไปที่พระชายาป๋ายแล้วได้เห็นว่าคนผู้นั้นกำลังนั่งอารมณ์ดียิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ริมระเบียงห้องพักในเรือคล้ายคนสติวิปลาสก็ไม่ปาน

“เสี่ยวเฮยๆ เจ้าว่าหมู่นี้คุณชาย เอ้ย! พระชายาป๋ายดูแปลกๆ ไปรึเปล่า?”

เป็นเพราะจ้องมองอยู่นานระหว่างกำลังนั่งเย็บปักเสื้อผ้า เสี่ยวไป๋ก็ให้สงสัยนักจนต้องเอ่ยถามเสี่ยวเฮยคู่แฝดของตนออกไปจนอีกคนต้องเงยหน้าจากผืนผ้าที่กำลังนั่งตัดอยู่แล้วหันไปมองคนที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าแปลกชั่วครู่หนึ่งก่อนจะก้มหน้าตัดผ้าต่อไป

“อืม… ก็ไม่นะ….”

“ไม่แปลกที่ไหนกัน เจ้าดูสิ พระชายานั่งเหม่อยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวดูมีความสุขนัก จะว่าไม่แปลกได้อย่างไร”

คำถามอย่างคนไม่ค่อยรู้ความจากเสี่ยวไป๋คู่แฝดของตนเองทำให้เสี่ยวเฮยได้แต่ส่ายหัวเบาๆ อย่างจนใจก่อนจะต้องเอ่ยความอธิบายออกมา

“ก็เพราะว่านั่งเหม่อเพราะมีความสุขไง ถึงได้นับว่าไม่แปลก… ตอนนี้เรื่องราวทุกอย่างดูจะคลี่คลายไปได้ด้วยดี อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างท่านอ๋องและพระชายาก็พัฒนาจนดีขึ้นมาก เมื่อรูปการณ์ออกมาน่ายินดีขนาดนี้แล้วเจ้าจะให้พระชายาเอาแต่นั่งนิ่งหน้าบูดอารมณ์ไม่ดีอยู่เช่นเดิมรึไง?”

“หง่า… ไม่ใช่สักหน่อย… ข้าก็แค่สงสัยเฉยๆ เอง…”

“งั้นข้าอธิบายให้ฟังแล้ว ตอนนี้เจ้ายังสงสัยเรื่องที่พระชายาอารมณ์ดีอยู่หรือไม่?”

คำตอบของคู่แฝดตัวดำไม่ได้ช่วยให้เสี่ยวไป๋คลายความสงสัยไปได้ ด้วยความจริงแล้วตนนั้นพอจะคาดเดาเรื่องที่คุณชายป๋ายอารมณ์ดีมากในช่วงนี้ได้แล้ว แต่ที่มันสงสัยจริงๆ คือเหตุใดวันนี้ถึงได้อารมณ์ดีมากขึ้นไปอีกคล้ายกับเพิ่งเกิดเรื่องราวดีๆ มา

“ไม่สงสัยเรื่องนี้แล้ว แต่ตอนนี้สงสัยเรื่องอื่นแทน ถามเจ้าไม่ได้ความแน่ เช่นนั้นข้าถามพระชายาเองเลยดีกว่า”

เมื่อความสงสัยมีมากขึ้นในที่สุดก็อดรนทนไม่ไหว ต้องเอ่ยปากถามคนต้นเรื่องออกไปตามประสาเด็กช่างใส่ใจอยากรู้อยากเห็นนิสัยละม้ายเห็นคล้ายนายตนเองไม่มีผิด

“พระชายาขอรับๆ วันนี้ท่านอารมณ์ดีมากกว่าทุกวันนัก มีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้นหรือขอรับ….”

ลู่หลินที่ถูกขัดจังหวะห้วงความคิดอันเป็นสุขถูกดึงเรียกให้กลับมาอยู่ในโลกปัจจุบันอีกครั้งแทนที่จะโกรธกลับยินดีนักจึงได้หันมาบอกเล่าเรื่องราวอย่างอารมณ์ดี

“เจ้าเองก็สังเกตเห็นด้วยหรือเนี่ย แฮะๆ ดูเหมือนข้าจะอารมณ์ดีมากสินะ _ ถ้าเจ้าอยากรู้มากนัก… งั้นจะบอกเจ้าก็ด้ะ!”

คนช่างฟุ้งซานก็คล้ายรอจังหวะให้ได้บอกเล่าอยู่นาน พอถูกถามก็รีบเปิดปากเล่าเรื่องในทันที ไม่มีลังเลอิดออดแม้แต่น้อย

คู่แฝดเสี่ยวไป๋เสี่ยวเฮยได้แต่จ้องมองภาพนายของตน เตรียมจ้อหน้าระรื่นด้วยดวงตาปริบๆ เริ่มไม่แน่ใจว่าคิดถูกหรือว่าคิดผิดกันแน่ที่ถามออกไป…

“ก็แบบว่า… ท่านอ๋องของพวกเจ้าน่ะ… วันนี้ตอนที่ออกไปเดินตรวจความเรียบร้อยบนหาดนะ… เขาเรียกข้าว่า 'พระชายาป๋ายลู่หลินของข้า' ด้วยล่ะ! งุ้ยยย ///// ยิ่งนึกถึงตอนนั้นก็ยิ่งเขินอ่า ////"

ไม่เพียงแค่พูดปากเปล่าเท่านั้น แต่ลู่หลินยังจิกทึ้งชายผ้าของตัวเองพร้อมทุบมือใส่ตั่งรองนั่งปั้กๆ เสียด้วย บ่งบอกว่าทั้งเขินทั้งฟินจนคู่แฝดได้แต่หันมองหน้าสบตากันปริบๆ … พระชายาป๋าย… สติหลุดไปแล้วสินะ…. -_-

“ไม่ใช่แค่นั้นนะ เขายังบอกว่าห้ามใครลบหลู่ดูหมิ่นเกียรติหรือแสดงอาการไม่เคารพข้าอีก ถ้าใครทำ เขาจะจัดการขั้นเด็ดขาดด้วย ท่านอ๋องของพวกเจ้าน่ะหลงข้าหนักมากเลยใช่มั้ยล่า ก็อย่างว่าล่ะนะ ลู่หลินผู้นี้ฉลาดและน่ารักเป็นที่สุด ไม่ให้เขาหลงข้าและจะให้เขาไปหลงใครกันล่ะ พวกเจ้าว่ามะ”

เมื่อคนเป็นนายเอ่ยปากถามมาด้วยคำถามกึ่งคำบอกเล่าไม่ให้ปฏิเสธได้เช่นนี้แล้ว พวกมันจะพูดอะไรได้อีก นอกจากจะต้องส่งยิ้มโง่ๆ ตอบกลับไปแล้วหัวเราะแหะๆ

“นั่นสิขอรับ… พระชายาป๋ายน่ารักและฉลาดเป็นที่สุด ท่านอ๋องต้องหลงท่านแล้วแน่ๆ …เนอะๆ เสี่ยวไป๋”

“…เห? อ๋า… นั่นสิเสียวเฮย พระชายาป๋ายฉลาดและน่ารักที่สุดเลย!”

เป็นเสี่ยวเฮยที่ฉลาดและรู้งานมากกว่า แม้ปกติจะไม่ค่อยพูด แต่ยามที่ต้องพูด ก็พูดจาสอพลอออกมาได้อย่างไม่มีติดขัด ต่างจากเสี่ยวไป๋ที่ซื่อบื้อกว่า คำพูดคำจาจึงออกมาตามประสาซื่อ สำหรับพวกมันแล้ว พระชายาป๋ายคนนี้ก็ทั้งฉลาดและน่ารักจริงๆ นี่น่า

พอถูกชมซึ่งๆ หน้า ลู่หลินก็ยิ่งหน้าบานหนักกว่าเดิมเพราะอารมณ์ดีจัดจนนึกครึ้มอกครึ้มใจหยิบเงินตำลึงมามอบให้คู่แฝดเป็นรางวัลอย่างถึงใจ

‘นี่ข้าไม่ได้บ้ายอจริงๆ นะ ก็เด็กมันทำดีพูดดี ก็ต้องให้รางวัลบ้างนี่นะ เนอะๆ _…

อีกด้านหนึ่งที่ห้องควบคุมเรือ

ขณะนี้คนที่ถูกกล่าวหาว่ากำลังหลงตัวเองจนหัวปักหัวปำกำลังนั่งเคร่งเครียดขณะฟังคำกล่าวรายงานจากองครักษ์เจิ้งเกี่ยวกับผลการสอบปากคำของเจ้านักบวชลวงโลก ผลที่ได้นับว่าน่าแปลกใจมิใช่น้อย

“ผู้จ้างวานนักบวชนั่นคือขุนนางขั้น 7 กู๋เจี้ยน กรมคลังงั้นรึ? เขาคือใคร ไยข้าไม่คุ้นชื่อ?”

“เขาเป็นขุนนางใหม่พ่ะย่ะค่ะ เพิ่งสอบจอมหงวนได้เมื่อช่วงเดือนสื่อเย่วที่ผ่านมา หลังจากที่ท่านอ๋องเดินทางมาเมืองโจวแล้ว ชื่อนี้จึงอาจจะยังไม่คุณหูสำหรับพระองค์นัก…”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: #ลู่หลินไม่อินประวัติศาสตร์ ภาคป๋ายลู่หลิน กับศึกชิงบัลลังก์อาณาจักรฉิน