มองแผ่นหลังของพวกเขาเดินจากไป ซ่างหยิงถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก “ในที่สุดเรื่องก็คลี่คลายได้สักที”
“น้าสะใภ้เล็ก พี่เย้นซินจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นจริงๆ เหรอ?”
เจียงสื้อสื้อเกรงว่าฟางเย้นซินจะแค่พูดไปด้วยความโกรธเท่านั้น แล้วจะกลับคำภายหลัง
“น้าชายรองของเธอรักหน้าตาชื่อเสียงเป็นที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เด็กสาวคนนั้นไปหาสื่อเพื่อเปิดโปงเรื่องทั้งหมด ต่อให้ต้องผูกมัดไว้ เขาก็ต้องให้เย้นซินแต่งงานกับเธอแน่นอน”
เมื่อเธอพูดแบบนี้ เจียงสื้อสื้อก็โล่งใจ “ถ้าอย่างนั้นก็ดีค่ะ”
แม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นผู้หญิงที่เธอหามาเพื่อเป็นบทเรียนให้กับฟางเย้นซิน แต่ลูกในท้องของหญิงสาวคนนั้นก็เป็นลูกของฟางเย้นซินจริงๆ ก็นับว่าเธอทำความดีไปก็แล้วกัน
เพียงแต่ว่า ในอนาคตครอบครัวของน้าชายรองคงจะไม่มีทางสงบสุขอีกต่อไปแล้ว
กลับมาถึงที่ห้อง เจียงสื้อสื้อหย่อนก้นนั่งลงบนขอบเตียง หวนนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ และถอนหายใจออกมา “คุณว่าฉันทำเกินเหตุไปหรือเปล่าคะ?”
เมื่อนึกถึงท่าทางโกรธจัดแบบนั้นของน้าสะใภ้รองแล้ว เธอรู้สึกสงสารขึ้นมาเล็กน้อย
จิ้นเฟิงเฉินเดินเข้ามาหา พลางกระซิบเบาๆ “เธอใจดีเกินไปจริงๆ ลองคิดดูสิว่าฟางเย้นซินทำกับเธอยังไง แล้วเธอจะพบว่าที่ตัวเองทำลงไปมันไม่ได้ทำเกินเหตุอะไรเลย เธอก็แค่ทำให้ลูกของเขาได้รู้จักกับบรรพบุรุษของเขาก็เท่านั้น”
เจียงสื้อสื้อยักไหล่ พูดด้วยน้ำเสียงจนปัญญา “ตอนนี้ก็คงทำได้แค่คิดแบบนี้แล้วแหละ”
“เอาล่ะ ไม่ต้องคิดมากแล้ว” จิ้นเฟิงเฉินนั่งลงข้างๆ เธอ ยกมือขึ้นโอบไหล่พลางเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “อยากให้เสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนมาเล่นสักสองสามวันไหม?”
เจียงสื้อสื้อหันมองหน้าเขาอย่างงงๆ “ได้เหรอคะ?”
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า “อืม ได้สิ ฉันวางแผนอยากจะให้กู้เนี่ยนมาดูแลบริษัทใหม่ที่นี่ เลยจะให้เขาถือโอกาสพาเด็กสองคนนั้นมาด้วย”
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ” เจียงสื้อสื้อยิ้มออกมาในที่สุด “ฉันมีเวลาอยู่เล่นเป็นเพื่อนพวกเขาด้วยพอดี”
จิ้นเฟิงเฉินยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้กู้เนี่ยนพาพวกเขามาด้วย”
…
วันรุ่งขึ้น กู้เนี่ยนก็พาสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนมาปรากฏตัวที่บ้านใหญ่ตระกูลฟาง
เมื่อได้เห็นเด็กน้อยสองคน ซ่างหยิงดีใจมากจนปากหุบยิ้มไม่ได้เลย มือหนึ่งอุ้มไว้ข้างละคน “เด็กน้อยทั้งสองยายคิดถึงพวกหนูมากเลยนะ”
“ผมก็คิดถึงยายซ่างหยิง” เสี่ยวเป่าพูดเสียงแจ๋ว
เถียนเถียนรีบตามมาติดๆ “หนูก็คิดถึงเหมือนกันค่ะ”
เจียงสื้อสื้อมองพวกเขาด้วยรอยยิ้ม “น้าสะใภ้เล็ก พวกเขาจะอยู่ที่นี่สักสองสามวัน อาจจะต้องเพิ่มปัญหาให้คุณน้าหน่อยนะคะ”
“จะเป็นปัญหาได้ยังไงล่ะ?” ซ่างหยิงแสร้งทำเป็นถลึงตาใส่เธอ “ฉันแทบทนไม่ไหวที่จะขอให้พวกเขาอยู่ที่นี่ตลอดไปเลย”
เจียงสื้อสื้อหัวเราะอย่างอดไม่ได้ “ไว้พวกเขาอยู่นานๆ เข้า เดี๋ยวคุณน้าก็รำคาญค่ะ”
“ไม่มีทางแน่นอน” ซ่างหยิงกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เธอจูงมือเด็กน้อยทั้งสองคน “ไป น้าสะใภ้เล็กจะพาพวกหนูไปทานของอร่อยๆ”
หันไปมองอีกทีพวกเขาผู้ใหญ่หนึ่งเด็กน้อยสองก็พากันเดินมุ่งหน้าไปยังห้องอาหารแล้ว เจียงสื้อสื้อส่ายหน้าพลางหลุดหัวเราะออกมา
จากนั้น เธอก็ละสายตากลับมา มองไปทางกู้เนี่ยน “ลำบากคุณแล้วค่ะ”
กู้เนี่ยนส่ายหน้าไปมาอย่างประหลาดใจที่ได้รับคำขอบคุณอย่างไม่คาดฝัน “คุณหญิง ไม่ลำบากสักนิดเลยครับ”
เจียงสื้อสื้อยิ้ม หันมองไปทางจิ้นเฟิงเฉิน “พวกคุณคงมีธุระจะต้องคุยกัน ถ้าอย่างนั้นฉันไปหาพวกน้าสะใภ้เล็กก่อนนะคะ”
หลังจากพูดจบ เธอก็เดินก้าวยาวไปทางห้องอาหารทันที
ทันทีที่เธอเดินจากไป สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินเปลี่ยน เอ่ยถามเสียงเข้มว่า “ระยะนี้SAกรุ๊ปมีความเคลื่อนไหวอะไรบ้างไหม?”
“SAกรุ๊ปกับเบอร์เกนได้กลับมาร่วมมือกันแล้วครับ” กู้เนี่ยนกล่าว
จิ้นเฟิงเฉินพึมพำอย่างเย็นชาว่า “จอห์นไม่รู้จักยอมแพ้เลยจริงๆ” แล้วเขาก็ถามต่อว่า “เรื่องยา ตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”
“ฉันได้ส่งคนไปสกัดกั้นที่ท่าเรือแล้ว แต่จะต้องใช้เวลาอีกสักระยะถึงจะเดินทางถึงอิตาลีครับ”
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า “ไม่ว่าอย่างไรก็ตามวัสดุยาพวกนั้นจะปล่อยให้ตกไปอยู่ในมือของจอห์นไม่ได้เด็ดขาด”
“ผมเข้าใจแล้วครับ”
ทันใดนั้นกู้เนี่ยนก็เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “จริงสิ คุณชายครับ ซูหานบอกว่าตรวจพบที่ตั้งของสถาบันวิจัยหลายแห่งของเบอร์แกนแล้ว และให้ถามคุณว่าจะให้ทำอย่างไรต่อไปครับ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!