เมื่อรู้ว่าเจียงสื้อสื้อตื่นแล้ว เสี่ยวเป่าและเถียนเถียนก็วิ่งขึ้นไปที่ห้องนอนอย่างรวดเร็ว
ซ่างหยิงเป็นห่วงจนตะโกนตามหลัง “เดินระวังกันด้วยเด็กๆ”
เด็กน้อยทั้งสองไม่ฟัง รีบวิ่งไปที่ประตูห้องอย่างรวดเร็ว เถียนเถียนหยุดลงกะทันหัน
เถียนเถียนเหลือบมองไปที่ประตูที่ปิดสนิทอยู่ และกระซิบถามเสียงเบา “พี่ชายคะ หม่ามี๊จะยังโกรธหนูอยู่ไหม”
เสี่ยวเป่าเม้มริมฝีปาก และจับมือเธอไว้ “ไม่หรอก หม่ามี๊ไม่โกรธน้องหรอก พวกเราเข้าไปกันเถอะ”
พอพูดจบ เขาก็เปิดประตู และเดินจูงมือเถียนเถียนเข้าไปในห้อง
เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู เจียงสื้อสื้อก็หันศีรษะและมองไปที่ประตู ตอนที่เธอเห็นเด็กสองคน มุมปากของเธอก็ยกยิ้ม
เถียนเถียนเงยหน้าขึ้นพอสบตาเข้ากับเธอ เด็กน้อยรีบก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว ไม่กล้ามองเธอ
เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้วเล็กน้อย
เสี่ยวเป่าพาเถียนเถียนเดินไปที่ข้างเตียง
หม่ามี๊ครับ หม่ามี๊เป็นยังไงบ้างครับ รู้สึกไม่สบายตรงไหนครับ” ใบหน้าที่ยังอ่อนเยาว์ของเสี่ยวเป่าเต็มไปด้วยความกังวลใจ
เจียงสื้อสื้อเอื้อมมือไปแตะศีรษะของเขา และตอบเสียงอ่อนโยนว่า “หม่ามี๊ไม่เป็นไรจ้ะ ไม่มีตรงไหนเจ็บแล้ว”
เสี่ยวเป่าหันกลับ และมองไปยังน้องสาวของเขาที่ยืนอยู่ข้างๆ “เถียนเถียน น้องก็มาคุยกับหม่ามี๊ด้วยสิ”
เถียนเถียนกัดริมฝีปากแน่น เด็กน้อยไม่คิดเลยว่าเป็นเพราะเรื่องของตนเองทำให้หม่ามี๊เธอเป็นลมหมดสติไป ขอบตาของเด็กน้อยแดงก่ำ
เธอเป็นเด็กไม่ดี
“เถียนเถียน” เจียงสื้อสื้อเอ่ยเรียกออกมาอย่างอ่อนโยน
เถียนเถียน “แง”ส่งเสียงร้องไห้โฮออกมา
เจียงสื้อสื้อตกใจมาก เธอรีบเอื้อมมือออกไปเพื่อดึงเข้ามากอดไว้ “เถียนเถียน ร้องไห้ทำไมลูก”
“หนูทำให้หม่ามี๊เป็นลม หนู... หนูเป็นเด็กไม่ดี” เถียนเถียนพูดไปด้วยร้องไห้ไปด้วย หยดน้ำตาไหลรินเหมือนลูกปัดที่สายขาด
ใบหน้าเล็ก ๆ แดงก่ำ
เจียงสื้อสื้อรู้สึกเป็นปวดใจมาก เธออุ้มเด็กน้อยเข้าสู่อ้อมกอด และเช็ดน้ำตาให้ในขณะที่พูด “ที่หม่ามี๊เป็นลมหมดสติมันไม่ใช่ความผิดของลูกเลยนะ สำหรับหม่ามี๊แล้วลูกเป็นในหัวใจของหม่ามี๊เสมอ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เถียนเถียนก็เงยหน้าขึ้น แล้วมองเธอด้วยดวงตาที่มีน้ำตาคลอเบ้า “หม่ามี๊ไม่โกรธจริงๆนะคะ”
“ใช่จ้ะ...” เจียงสื้อสื้อนิ่งคิดอย่างจริงจัง แล้วตอบ “หม่ามี๊ไม่ได้โกรธ ในตอนนั้นหม่ามี๊แค่ร้อนใจ เพราะลูกกินไอศกรีมไม่ได้ ไม่ใช่หรือไง”
เถียนเถียนก้มหน้าลง แล้วทำปากจู๋ “เถียนเถียนรู้ค่ะ แต่เถียนเถียนอยากกินนี่นา”
เจียงสื้อสื้อหัวเราะ “หม่ามี๊ก็อยากกินเหมือนกัน แต่หม่ามี๊รู้ว่าตัวเองกินไม่ได้ก็เลยต้องอดทนไว้ เถียนเถียนของแม่ต้องทำได้แน่นอน จริงไหม”
เถียนเถียนไม่ตอบ
มันไม่ง่ายเลยที่เด็กน้อยจะควบคุมตัวเองได้
แต่เจียงสื้อสื้อเชื่อใจในตัวลูกของเธอ
ผ่านไปสักพัก เสียงเล็ก ๆ ก็ดังขึ้นมา “หม่ามี๊ทำได้ เถียนเถียนก็ต้องทำได้ค่ะ”
พอได้ยินแบบนี้เจียงสื้อสื้อก็ยิ้มออกมาทันที เธอลูบศีรษะของเถียนเถียน “เป็นเด็กดีจริงๆ”
เธอปล่อยเถียนเถียนออกจากอ้อมกอด และมองดูเด็กน้อยทั้งสองคนด้วยสีหน้าจริงจัง “หลายวันนี้พวกลูกต้องฟังที่คุณปู่คุณย่า เข้าใจไหมลูก”
เด็กน้อยทั้งสองคนพยักหน้าและตอบพร้อมกัน “เข้าใจแล้วครับ/ค่ะ”
ในขณะนี้เอง ซ่างหยิงก็เดินเข้ามาพร้อมกับน้ำซุปหนึ่งชามในมือ“กำลังพูดอะไรกันอยู่เด็กๆ”
“คุณยายซ่างหยิงครับ/คะ” เสี่ยวเป่าและเถียนเถียนตะโกนเรียกพร้อมกันเสียงดัง
ซ่างหยิงยกยิ้ม “เด็กดี”
เธอวางชามไว้บนโต๊ะข้างเตียง แล้วมองไปที่เจียงสื้อสื้อ “นี่คือซุปปลาที่น้าเคี่ยวเอง หลานดื่มในขณะที่มันร้อนๆนะลูก”
“ขอบคุณค่ะน้าสะใภ้เล็ก”
เจียงสื้อสื้อรับน้ำซุปมาอย่างเชื่อฟัง พร้อมกับก้มหน้าลงไปดื่มช้าๆ
ซ่างหยิงนั่งลงที่ขอบเตียง มองหน้าเธออย่างละเอียด แล้วถามด้วยความเป็นห่วงว่า “อาการดีขึ้นบ้างหรือยัง”
เจียงสื้อสื้อเงยหน้าขึ้นมา “อืม ดีขึ้นมากแล้วค่ะ”
“ทำไมอยู่ดีๆถึงเป็นลมได้ล่ะ” ซ่างหยิงยิงถามด้วยความรู้สึกงงงวย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!