ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 1064

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ซ่างหยิงก็ทั้งตกใจทั้งโกรธ "ใครกันที่มันเลวได้ขนาดนี้? ถึงขั้นฉีดไวรัสเข้าไปในร่างกายของหนูแบบนี้!"

เจียงสื้อสื้อยิ้มออกมา "คนที่เคยมีบุญคุณกับหนูค่ะ"

“ถึงเขาจะเคยช่วยหนูไว้ก็ไม่ใช่เหตุผลที่เขาจะทำแบบนี้ ถ้าหนูเกิดอันตรายถึงชีวิตขึ้นมา เขาจะรับผิดชอบไหวเหรอ?!”

ซ่างหยิงยิ่งคิดยิ่งหวาดกลัว เธอไม่กล้าจินตนาการเธอว่าหลังจากที่เจียงสื้อสื้อติดไวรัสแล้วเธอรอดพ้นจากมันมาได้อย่างไร

“น้าสะใภ้เล็กคะ ตอนนี้หนูก็ไม่เป็นไรแล้วไม่ใช่เหรอคะ? น้าอย่าคิดเรื่องพวกนั้นอีกเลยนะคะ” เจียงสื้อสื้อรู้สึกเสียใจที่บอกเรื่องนี้กับซ่างหยิง ทำให้เธอกังวลเกี่ยวกับตัวเองไปด้วย

“เด็กโง่” ซ่างหยิงจับมือของเธอไว้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความทุกข์ใจ “ทำไมหนูถึงไม่บอกให้เรารู้ล่ะ? หนูตัวคนเดียว ไม่สิ มีเฟิงเฉินอีกคน พวกหนูผ่านมันมาได้ยังไง?”

เมื่อเห็นเธอกังวลมาก เจียงสื้อสื้อก็ไม่กล้าพูดอะไรอีกแล้ว เธอจึงยิ้มและพูดว่า “บางทีร่างกายของหนูอาจจะแปลกไปจากคนอื่นก็ได้มั้งคะ ไวรัสจึงไม่ทำงาน ฉันเลยยังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบายแบบนี้ไงคะ”

“แล้วทุกครั้งที่หนูเป็นลมมันเกิดอะไรขึ้นล่ะ?”

เมื่อเห็นท่าทางที่เบิกบานของเธอ ซ่างหยิงก็ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดี

"เมื่อหนูรู้สึกตื่นเต้น หนูก็จะเป็นลม ไม่มีอะไรเลยค่ะ"

การที่เจียงสื้อสื้ออธิบายมาน้อยแบบนี้มันก็ไม่ได้ทำให้ซ่างหยิงรู้สึกสบายใจขึ้นเลย เธอถอนหายใจ "ทำไมหนูถึงได้มีชีวิตที่รันทดแบบนี้? ถ้ารู้อย่างนี้ฉันน่าจะให้คุณท่านไปตามเธอกลับมาตั้งแต่แรกแล้ว แบบนี้หนูจะได้ลำบากน้อยลงหน่อยหนึ่ง"

“หนูก็กลับมาแล้วไม่ใช่เหรอคะ?” เจียงสื้อสื้อคว้าแขนของเธอและเอนหัวไปหนุนที่ไหล่ของเธออย่างขี้อ้อน

"มันช้าเกินไป" เมื่อซ่างหยิงคิดถึงไวรัส เธอก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาทันที

“ยังไม่สายค่ะ ไม่สายสักนิด” เจียงสื้อสื้อปล่อยมือและมองดูซ่างหยิงด้วยสีหน้าที่จริงจัง “น้าสะใภ้เล็ก ตอนนี้หนูดีมากจริงๆค่ะ มีความรักของน้ากับน้าเล็กแล้วก็พี่อีก หนูเลยมีความสุขมากจริงๆนะคะ”

พอเห็นเธอพยายามปลอบโยนตัวเอง หางตาของซ่างหยิงก็อดไม่ได้ที่จะมีน้ำซึมออกมา เธอยิ้มและตบมือของเจียงสื้อสื้อ “ฉันรู้ ต่อไปเราจะรักหนูมากยิ่งกว่าเดิมอีก จะชดเชยวันที่ผ่านมาด้วย”

“โอเค” เจียงสื้อสื้อเอนหัวไปซบไหล่ของเธออีกครั้ง

…...

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา โม่เหยียกับหานยู่ก็ออกมาจากห้อง

เจียงสื้อสื้อกลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อนเพราะความเหนื่อยล้า มีเพียงฟางยู่เชินกับซ่างหยิงเท่านั้นที่รออยู่นอกห้อง

“ผลเป็นยังไงบ้างครับ?” ฟางยู่เชินถาม

โม่เหยียครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "ผลที่ได้ค่อนข้างแปลก"

เมื่อซ่างหยิงได้ยินแบบนั้น เธอก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที “เกิดอะไรขึ้น? ไวรัสกำเริ่มหรือเกิดอะไรขึ้นกัน?”

“นายหญิงฟาง คุณไม่ต้องกังวลไปนะคะ” หานยู่พูดให้กำลังใจเบาๆ “ไม่ใช่การกำเริบของไวรัส แต่ในเลือดของคุณหญิงมีส่วนผสมของยาที่ไม่รู้จักอยู่ด้วยค่ะ”

ฟางยู่เชินไม่เข้าใจ "คุณช่วยให้ชัดเจนกว่านี้หน่อยได้ไหมครับ?"

“อืม...” โม่เซี่ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่วงนี้คุณหญิงได้ทานยาอะไรบ้างรึเปล่าครับ?”

ฟางยู่เชินกับซ่างหยิงหันมาสบตากัน จากนั้นก็ส่ายหัว "ไม่"

โม่เหยียขมวดคิ้ว “แบบนี้ก็น่าแปลกมาก ถ้าคุณหญิงไม่กินยา แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกัน?”

จู่ๆฟางยู่เชินคิดอะไรบางอย่างขึ้นมา “เดี๋ยวนะ ครั้งก่อนที่สื้อสื้อเป็นลม ผมเคยให้คนมาตรวจช่วยตรวจให้สื้อสื้อ ในเวลานั้นมีแค่เธอกับสื้อสื้ออยู่ในห้องเท่านั้น บางทีเธออาจจะเป็นคนให้ยากับสื้อสื้อก็ได้”

“ซ่างกวนหยวนเหรอครับ?” โม่เหยียถามอย่างไม่แน่ใจนัก

ฟางยู่เชินพยักหน้า "ครับ เธอนั่นแหละ"

โม่เหยียเลิกคิ้วขึ้น "เป็นไปได้ ช่วยถามเธอให้หน่อยได้ไหมครับ?"

"ได้ครับ"

ฟางยู่เชินหยิบมือถือออกมาแล้วโทรหาซ่างกวนหยวน

ไม่นานเธอก็รับสาย "ยู่เชิน มีอะไรรึเปล่าคะ?"

เสียงของซ่างกวนหยวนดังขึ้น ฟางยู่เชินเหลือบมองโม่เหยียและถามไปว่า “หยวนหยวนคุณให้ยาอะไรกับสื้อสื้อรึเปล่าครับ?”

โทรศัพท์ฝั่งนู๊นเงียบไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!