ซ่างหยิงถอนหายใจ “จะทำอะไรก็แล้วแต่ ยังไงฉันก็ไม่เข้าใจเรื่องของวัยรุ่นอย่างพวกแกอยู่แล้ว”
อย่างไรก็ตามเธอยังหันไปพูดกับโม่เหยียว่า "ฉันเชื่อว่าหยวนหยวนจะไม่ทำร้ายสื้อสื้อแน่นอน"
โม่เหยียยิ้มด้วยความจนใจ “นายหญิงฟางครับ ผมแค่พูดไปอย่างนั้นแหละครับ คุณไม่ต้องคิดมากนะครับ”
เห็นได้ชัดว่าเธอชอบซ่างกวนหยวนมาก โม่เหยียจึงไม่ได้พูดอะไรมากอีก
ตอนที่เจียงสื้อสื้อได้รู้เรื่องนี้นั้น เธอก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจนัก
“มันเหมือนพฤติกรรมที่หยวนหยวนจะทำมาก” เธอยิ้ม “แต่ความตั้งใจของเธอก็แค่ต้องการช่วยฉันเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อทำร้ายฉันเลย”
“คุณหญิงคะ ทำไมแม้แต่คุณยังพูดแบบนี้ล่ะคะ?”
สิ่งนี้ทำให้หานยู่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสนใจซ่างกวนหยวนขึ้นมา อยากมากรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนแบบไหน ถึงทำให้พวกเขาพูดแทนเธอแบบนี้ได้
“เพราะความจรรยาบรรณของความเป็นหมอไงคะ” เจียงสื้อสื้อยักคิ้วขึ้น “ถ้าเป็นพวกคุณ ก็คงไม่ยอมปล่อยให้คนตายไปต่อหน้าหรอกจริงมั้ยคะ?”
“พวกเราเหรอคะ?” หานยู่เหลือบมองโม่เหยีย “ฉันไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง แต่ถ้าเป็นฉัน ฉันจะสนใจไวรัสในร่างกายของคุณมากยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ”
“ผมด้วยครับ” โม่เหยียเห็นด้วย
สำหรับนักวิจัยยาแบบพวกเขา ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นไปกว่าการได้พบไวรัสตัวใหม่หรอก
เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา "ตามที่พวกคุณพูด หยวนหยวนก็เหมือนกับพวกคุณใช่มั้ยคะ?"
“มันควรจะเป็นอย่างนั้นค่ะ” หานยู่พยักหน้า “ถ้าเธอไม่สนใจ แล้วเธอจะคิดค้นยาออกมาได้ยังไงคะ?”
โม่เหยียขมวดคิ้ว “จริงด้วย พูดถึงเรื่องนี้ ผมอยากรู้จริงๆ ว่าเธอไปเอาไวรัสมาจากไหน”
ในระหว่างที่พูดอย่างนั้น เขามองไปที่เจียงสื้อสื้อ
เจียงสื้อสื้อสบตากับเขาแล้วกะพริบตาปริบๆ"พวกคุณคงไม่ได้คิดว่าเอาไปจากฉันใช่ไหมคะ?"
โม่เหยียกับหานยู่ไม่ได้ตอบ แต่การแสดงออกของพวกเขาบอกกับเจียงสื้อสื้อว่าพวกเขาคิดอย่างนั้นจริงๆ
“มันไม่น่าจะเป็นไปได้” เจียงสื้อสื้อปฏิเสธ
หานยู่ยักคิ้วขึ้น “ทำไมมันถึงเป็นไปไม่ได้คะ?”
“เพราะถ้าได้มันจากตัวฉันจริง แล้วฉันจะไม่รู้ตัวได้ยังไง?” เจียงสื้อสื้อครุ่นคิด เธอรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้ เธอจำไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
“ถ้าไม่ใช่คุณ แล้วเธอไปเอาไวรัสมาจากไหน?”
กลับไปที่ปัญหาที่แรกอีกครั้ง
เจียงสื้อสื้อส่ายหัว “ไม่รู้ค่ะ”
ทันใดนั้น เธอนึกถึงบางสิ่งเข้า คิ้วบางๆของเธอขมวดเข้าหากัน “เดี๋ยวก่อน ดูเหมือนฉันจะลืมอะไรไปอย่างหนึ่ง”
“เรื่องอะไรเหรอครับ?” โม่เหยียถาม
เจียงสื้อสื้อกัดริมฝีปาก "ฉันเคยเป็นลมครั้งหนึ่งขณะกินข้าวกับเธอ ฉันตื่นขึ้นมาที่บ้านของเธอ หรือว่า..."
เธอไม่กล้าที่จะคิดลึกลงไปกว่านั้น
"ไม่แน่ว่าเธออาจจะแอบดึงเลือดของคุณในขณะที่คุณเป็นลมอยู่ก็ได้"
การคาดเดาอย่างกล้าหาญของหานยู่ ทำให้เจียงสื้อสื้อต้องตกใจ
พูดตามตรง เธอไม่อยากมองว่าซ่างกวนหยวนเป็นผู้หญิงที่เจ้าเล่ห์แบบนั้น แต่เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้ซ่างกวนหยวนก็ไม่ได้ธรรมดาอย่างที่โม่เหยียพูดจริงๆนั่นแหละ
เมื่อเห็นสีหน้าของเธอไม่ค่อยดี หานยู่จึงพูดปลอบใจเธอว่า "คุณหญิงคะ ต่อให้เธอจะแอบเอาเลือดของคุณไปค้นคว้าจริง แต่มันก็ไม่เป็นไรค่ะ ตราบใดที่เธอไม่ได้คิดร้ายกับคุณ ก็ไม่เป็นไรแล้วค่ะ"
“คุณคิดผิดแล้ว” โม่เหยียไม่เห็นด้วยกับเธอ “พวกคุณรู้ไหมว่าทำไมเธอถึงแอบฉีดยานั้นเข้าไป?”
“ทำไมเหรอคะ?” เจียงสื้อสื้อถามด้วยความสงสัย
"เพราะนั่นเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยของเธอ เธอจำเป็นต้องรู้ว่ายาที่เธอค้นคว้ามามันจะทำปฏิกิริยาอะไรกับไวรัส"
คนที่ทำการวิจัยทางการแพทย์เหมือนกัน โม่เหยียรู้ดีว่าซ่างกวนหยวนกำลังคิดอะไรอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!