เมื่อเฉินหยุนได้ยินแบบนั้น เธอก็กรีดร้องออกมาทันที "ที่บ้านเธอไม่ได้พูดแบบนี้นี่! เธอคิดจะทำอะไร? พูดกับฉันแบบที่พูดในบ้านอีกรอบซิ!"
ซานซานก้มหน้าลง ซ่อนแววตาที่เป็นประกายขึ้นมาแวบหนึ่งของเธอเอาไว้ จากนั้นก็พึมพำเบาๆว่า “นั่นคือสิ่งที่คุณบังคับให้ฉันพูด มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการพูดจริงๆ”
พอซ่างหยิงได้ยินก็เข้าใจในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
เธอมองไปที่เฉินหยุนและอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยไปว่า “พี่สะใภ้รองคะ พี่นี่ยอมทำทุกอย่างเพื่อใส่ร้ายสื้อสื้อจริงๆ แม้แต่น้ำสกปรกแบบนี้ยังเอามาราดใส่สื้อสื้อได้ นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะคะ!”
“ตะ…... ตรงไหนที่ฉันทำเกินไป!”
เฉินหยุนโกรธมากจนต้องรีบคว้าแขนของซานซานแล้วด่าทอทันที “นังสารเลว แกจงใจทำให้ฉันต้องอับอายใช่มั้ย?!”
“ฉันเปล่านะ…...” ดวงตาของซานซานแดงก่ำพร้อมกับสีหน้าที่ลำบากใจมาก
เจียงสื้อสื้อรู้ว่าซานซานกำลังแสดงอยู่ แต่เธอก็รู้สึกขอบคุณซานซานมากที่ไม่พูดความจริงออกมา ไม่อย่างนั้นน้าสะใภ้รองของเธอไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่
“พี่สะใภ้รอง ฉันรู้ว่าพี่ไม่ชอบซานซาน แต่พี่ไม่ต้องกดดันเธอถึงขนาดนี้ก็ได้มั้งคะ?”
ซ่างหยิงทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอก้าวไปข้างหน้าและดึงซานซานไปข้างหลังเธอ จากนั้นก็มองไปที่เฉินหยุนอย่างไม่พอใจ
“นังสารเลวนี่ ทั้งๆที่มันบอกฉันชัดเจนว่าเจียงสื้อสื้อส่งมันมาสร้างปัญหาแท้ๆ การที่มาเปลี่ยนคำพูดของแบบนี้นี้ ถ้ามันไม่ได้ตั้งใจ แล้วมันคืออะไร?” เฉินหยุนตะโกนด้วยความฉุนเฉียว
“ฉันไม่สนใจว่าก่อนหน้านี้เธอจะพูดอะไร แต่ตอนนี้เธอบอกว่าไม่ใช่สื้อสื้อ ก็ไม่ใช่สื้อสื้อ!” ซ่างหยิงปกป้องสื้อสื้อด้วยความหนักแน่น
สื้อสื้อเม้มปากแล้วพูดอย่างระมัดระวังว่า “น้าสะใภ้รอง น้าสะใภ้เล็ก อย่าทะเลาะกันเลยนะคะ ไม่ว่าฉันจะส่งซานซานไปสร้างปัญหาหรือไม่ก็ตาม แต่เรื่องที่เธอกำลังตั้งท้องลูกของพี่เย้นซินนั้น มันคงไม่ใช่เรื่องโกหกใช่มั้ยคะ?"
เมื่อเธอถามมาแบบนั้น ซ่างหยิงก็ตั้งสติได้ “ใช่ สื้อสื้อพูดถูก เด็กคนนั้นเป็นลูกของเย้นซินจริงๆ ถ้าอย่างนั้นเย้นซินก็ควรรับผิดชอบ!”
เฉินหยุนถูกกดดันจนพูดไม่ออกพักหนึ่ง ได้แต่จ้องเขม็งไปที่เจียงสื้อสื้อด้วยดวงตาที่ดุร้ายเท่านั้น
เจียงสื้อสื้อแกล้งทำเป็นไม่มองเห็น
อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่ซานซานไม่พูดความจริง เฉินหยุนก็ไม่สามารถทำอะไรกเธอได้
ซ่าหยิงตั้งสติและเกลี้ยกล่อมเฉินหยุนด้วยความเป็นมิตร “พี่สะใภ้รอง พี่กำลังจะเป็นแม่ย่า เป็นคุณย่าแล้ว พี่จะไม่ยอมเก็บอารมณ์บ้างเลยเหรอ?”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เฉินหยุนก็ขำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์และถามย้อนไปว่า “ถ้าเปลี่ยนเป็นยู่เชินต้องมาแต่งงานกับผู้หญิงแอบนี้ เธอจะดีใจได้มั้ย?”
“ก็ต้องดีใจแน่นอนอยู่แล้ว ฉันอยากให้ยู่เชินพาแฟนที่ตั้งท้องกลับมาด้วย ถ้าเป็นแบบนั้นฉันคงยิ้มจนตื่นขึ้นมาแม้จะกำลังฝันอยู่ก็ตาม”
พอได้ยินแบบนั้น เจียงสื้อสื้อก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ดูเหมือนว่าน้าสะใภ้เล็กจะอยากอุ้มหลานจริงๆแล้ว
“นะ…...นั่นเธอมันโง่!” เฉินหยุนไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ
ซ่างหยิง ถอนหายใจและพูดไปว่า “ฉันไม่ได้โง่ ฉันแค่เป็นห่วงเด็กในท้อง ไม่ว่าซานซานจะเป็นคนแบบไหน แต่ตอนนี้เธอท้องแล้ว พี่ควรทำดีกับเธอมากกว่านี้ เห็นแก่เด็กในท้อง พี่ต้องใจกว้างให้มากกว่านี้"
ซานซานแอบสะอื้นอย่างเงียบ ๆ
ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าชีวิตเธอต้องลำบากแค่ไหน
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เจียงสื้อสื้อก็เดินไปตบหลังของซานซานเบาๆ
ซานซานเงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า
“ต่อไปถ้ามีอะไร คุณก็บอกฉันได้เลยนะคะ ถ้าฉันสามารถช่วยได้ ฉันจะช่วยอย่างแน่นอน” เจียงสื้อสื้อกระซิบบอกเธอ
ซานซานพยายามเค้นรอยยิ้มออกมา แต่น้ำตากลับไหลหนักขึ้นกว่าเดิม สุดท้าย เธอก็พูดออกมาเบาๆว่า "ขอบคุณ"
ไม่ว่าการใช้ชีวิตในตระกูลฟางจะยากลำบากแค่ไหน มันก็ยังดีกว่าแม่เลี้ยงเดี่ยวอยู่ดี
“เธอมันคนดี เธอมันใจกว้าง พอใจรึยัง?”
เดิมทีเฉินหยุนตั้งใจจะมาหาเรื่องเจียงสื้อสื้อ แต่ใครจะคิดว่านังสารเลวนั่นจะเปลี่ยนคำพูด ทำให้เธอต้องถูกซ่างหยิงสั่งสอนแบบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!