ฝู้จิงเหวินอยากไปหาข่ายสื้อลินแต่ว่านับจากครั้งก่อนที่เบอร์เกนส่งคนมาคอยจับตาเขามากขึ้น ตอนนี้เขาแทบจะกระดิกตัวลำบาก
เขาอาศัยจังหวะตอนที่ดื่มน้ำ สายตาเหล่มองไปที่ชายชาวต่างชาตอร่างสูงใหญ่สองคนที่ยืนอยู่ภายในห้อง
เขารอต่อไปมาได้อีกแล้ว ไม่เช่นนั้นสื้อสื้อต้องเป็นอันตราย
นัยน์ตาเขาเปล่งประกายระยิบระยับ จู่ๆก็ร้องเสียงออกมาว่า “โอ้ย……เจ็บจัง”
พอชายชาวต่างชาติสองคนได้ยินเข้า ก็รีบพุ่งมาหาเขาทันที
“คุณฝู้ คุณเป็นอะไรครับ”
ฝู้จิงเหวินกุมท้อง ส่งเสียงร้องโอดโอยว่า “ผม……ผมปวดท้องมากเลย”
ชายชาวต่างชาติสองคนสบตากัน “พวกเราส่งคุณไปโรงพยาบาลนะครับ”
“ไม่ต้องหรอก” ฝู้จิงเหวินส่ายหน้า “ช่วยผมหยิบกล่องยาจากในห้องมาให้ผมก็พอ”
พอพวกเขาได้ยิน ก็ส่งเสียงตอบว่า “ได้” คนหนึ่งพยุงฝู้จิงเหวินไปนั่งที่โซฟา อีกคนไปหยิบกล่องยาที่ห้อง
“ช่วยเทน้ำให้ผมแก้วหนึ่ง” ฝู้จิงเหวินเอ่ยพลางมองที่ชายหนุ่มซึ่งพยุงตนเองอยู่
คนผู้นั้นไม่ได้สงสัยอะไรในตัวเขาหมุนตัวเดินไปเทน้ำ เวลานี้เอง บนใบหน้าของฝู้จิงเหวินฉายความดุร้ายล้วงผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในกระเป๋าออกมา พุ่งตัวไปทันที อุดจมูกคนนั้นจากทางด้านหลัง
ไม่ทันที่เขาจะได้ขัดขืน คนนั้นก็ล้มลง
ฝู้จิงเหวินเตะไปหนึ่งครั้ง มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ เขาจงใจวางยาเพิ่มไปอีกหลายเท่า พอคนดมก็จะหมดสติไปทันที
“คุณฝู้ กล่องยาอยู่ที่ไหนครับ”
เสียงของอีกคนดังมาจากในห้อง
ฝู้จิงเหวินสีหน้านิ่งสงบ เดินไป แอบอยู่ข้างประตู
ไม่ได้รับการโต้ตอบ คนคนนั้นก็เลยเดินออกมา
และเหมือนกับเมื่อครู่ ฝู้จิงเหวินอาศัยจังหวะที่เขาไม่ทันได้เตรียมตัว อุดที่รูจมูกเขาเอาไว้
มองเห็นคนร่วงลงไปที่พื้น ฝู้จิงเหวินก็ถอนหายใจโล่งอก หันหน้าไปมองทางออกที่ประตู
ตอนนี้ก็เหลือแค่สองคนข้างนอกนั่นแล้ว
เขาลากสองคนที่ร่วงอยู่บนพื้นเข้าไปในห้องก่อน แล้วปิดประตูแกล้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดินไปทางประตูทางออก
ทันใดนั้น ประตูก็ถูกเปิดจากทางด้านนอกเข้ามา
คือข่ายสื้อลิน
ตอนที่เห็นอีกฝ่าย สองคนต่างก็อึ้งตะลึง
ฝู้จิงเหวินดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ถามด้วยเสียงขรึมว่า “คุณมาได้ยังไง”
ข่ายสื้อลินถูกเสียงของเขาดึงสติกลับมา ริมฝีปากแดงโค้ง “ฉันมาบอก‘ข่าวดี’กับคุณไงคะ”
ทันใดนั้น เธอก็ขมวดคิ้ว สูดจมูก “ทำไมในบ้านคุณถึงมีกลิ่นไดเอทิลอีเทอร์ด้วยคะ”
ฝู้จิงเหวินไม่ได้ตอบ แต่จ้องมองเธออย่างแน่วแน่ มุมปากเหมือนจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ
ลางสังหรณ์ไม่มีบางอย่างพลุ่งพล่านอยู่ในใจ ข่ายสื้อลินหมันตัวเตรียมวิ่งหนีด้วยสัญชาตญาณ
แต่การเคลื่อนไหวของฝู้จิงเหวินเร็วกว่าเธอมาก พุ่งมาจับข้อมือของเธอไว้ ลากเธอเข้าไปในห้อง
“ฝู้จิงเหวิน คุณบ้าไปแล้วเหรอ” ข่ายสื้อลินตะโกนเสียงดัง พยายามใช้เสียงเรียกร้องความสนใจจากคนข้างนอก
ฝู้จิงเหวินลากเธอมาที่ห้องรับแขก ออกแรงผลัก
เธอเซถลา ล้มลงนั่งบนโซฟา
“ฝู้จิงเหวิน คุณคิดจะทำอะไร” เธอเงยหน้าจ้องมองฝู้จิงเหวินด้วยความโกรธ
“สื้อสื้อล่ะ” ฝู้จิงเหวินตะคอกถาม
ข่ายสื้อลินหัวเราะเยาะ “ฝู้จิงเหวิน คุณอ้าปากก็เป็นเจียงสื้อสื้อ ตกลงหล่อนสำคัญกับคุณมากแค่ไหนกันแน่”
“เธออยู่ไหน” ฝู้จิงเหวินบีบเข้าใกล้เธอ เสียงสูงเล็กน้อย “ผมถามคุณว่า เธออยู่ไหน”
ใบหน้าเขาหม่นหมองราวกับหมึก สายตาก็เหมือนกับใบมีดน้ำแข็งพุ่งตรงมาที่เธอ
ข่ายสื้อลินกลืนน้ำลายด้วยจิตใต้สำนึก “ฉัน ฉันเอาตัวเธอส่งให้คุณเบอร์เกนแล้ว”
ได้ยินดังนั้น ในดวงตาของฝู้จิงเหวินก็ฉายแววดุร้าย บีบคอเธอเอาไว้ จับเธอยกขึ้นมา พูดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันว่า “ผมเคยเตือนคุณแล้ว ถ้าสื้อสื้อได้รับอันตรายแม้เพียงนิดเดียว ผมจะฆ่าคุณ!”
“คุณฆ่าเลยสิ!” ข่ายสื้อลินตะคอก เธอยิ้ม ในรอยยิ้มเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยถากถาง “ฝู้จิงเหวิน ต่อให้คุณฆ่าฉัน คุณก็ช่วยเจียงสื้อสื้อไม่ได้ ได้แต่มองดูเธอไปตายตาปริบๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!