บทที่1107 สถานการณ์มันผิดปกติ – ตอนที่ต้องอ่านของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!
ตอนนี้ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่1107 สถานการณ์มันผิดปกติ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ฝู้จิงเหวินไม่คิดว่าข่ายสื้อลินจะได้เบาะแสเร็วถึงขนาดนี้
ตอนที่ได้รับโทรศัพท์จากเธอ เขาจึงแปลกใจมาก “ได้ข่าวแล้วเหรอครับ”
“ใช่ จะให้ฉันไปหาคุณหรือคุณจะมาหาฉัน” ข่ายสื้อลินถามไปที่ปลายสาย
“ผมไปหาคุณเองครับ”
ฝู้จิงเหวินกดวางสาย แล้วรีบหยิบเสื้อแจ็คเก็ต ก่อนจะรีบออกไปทันที
พอทั้งสองเจอกัน ฝู้จิงเหวินก็แทบรอไม่ไหวรีบถามออกไป “เขาอยู่ที่ไหนครับ”
“ฉันจะคุยหลังกินอาหารเย็นเสร็จค่ะ” ข่ายสื้อลินก้มหน้ามองเมนู แล้วพูดโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง
ถึงแม้ว่าเขาจะร้อนใจ แต่เขาก็รู้จักนิสัยของเธอดี ถ้าเขาถามต่อไปไม่หยุด จะต้องทำให้เธอไม่พอใจอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นเธอจะไม่พูดอะไรออกมาเลย
ฝู้จิงเหวินดึงเก้าอี้ออกแล้วนั่งลงตรงข้ามกับเธอ
“คุณอยากกินอะไร” ข่ายสื้อลินเงยหน้าขึ้นมองเขาเล็กน้อย
“ตามใจคุณเลยครับ“
ฝู้จิงเหวินจะมีอารมณ์มาคิดว่ากินอะไรดีได้ยังไงกัน ตอนนี้เขาในหัวเขาเต็มไปด้วยความอยากจะรู้ว่าจิ้นเฟิงเฉินอยู่ที่ไหนเต็มไปหมด
“งั้นฉันจะช่วยคุณสั่ง”
หลังจากสั่งอาหารเสร็จ ข่ายสื้อลินก็ช่วยเขาเทน้ำมะนาวให้เขาหนึ่งแก้ว ก่อนจะยกยิ้ม “คุณอยากจะรู้มากเลยใช่ไหม”
ฝู้จิงเหวินขมวดคิ้วเล็กน้อย “ในเมื่อคุณรู้แล้ว ทำไมถามทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แล้วด้วย”
ข่ายสื้อลินหัวเราะออกมา “ฉันแค่อยากรู้ว่าคุณจะทนได้นานแค่ไหน”
เธอยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบดื่ม “เพราะขอแค่เป็นเรื่องของเจียงสื้อสื้อ คุณก็จะให้ความสำคัญมาตลอด เหมือนกลัวว่าจะลืมมันไป”
จะว่าไปแล้ว เธอรู้สึกอิจฉาเจียงสื้อสื้อมากจริงๆ
ผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง แต่กลับสามารถทำให้ผู้ชายที่โดดเด่นอย่างจิ้นเฟิงเฉินกับฝู้จิงเหวินหลงรักได้ในเวลาเดียวกัน
แต่ครั้งนี้ไม่ว่ายังไง เธอก็จะทำให้ฝู้จิงเหวินไม่สามารถไปเจอเจียงสื้อสื้อได้อีก
“นี่คือสิ่งที่ผมติดหนี้เธอไว้” ฝู้จิงเหวินก้มหน้าลงเล็กน้อย เพื่อปกปิดความเศร้าในดวงตาของเขา
“ติดหนี้เธออย่างนั้นเหรอคะ” ข่ายสื้อลินรู้สึกว่ามันตลกมาก “คุณเข้าร่วมทีมวิจัยของเบอร์เกนก็เพื่อเธอ แค่นี้ก็พอแล้ว คุณไม่ได้ติดหนี้เธออีกต่อไปแล้ว”
ฝู้จิงเหวินมองหน้าเธอเงียบ ๆ นานมากกว่าจะพูดออกมา“เรื่องของผมกับสื้อสื้อ คุณยังไม่มีสิทธิ์จะเข้ามายุ่งวุ่นวายได้”
“ฉันเข้าไปยุ่งวุ่นวายอย่างนั้นเหรอ” ข่ายสื้อลินพูดเยาะเย้ยด้วยความโมโห “ฝู้จิงเหวิน คุณคิดว่าฉันอยากยุ่งเรื่องของคุณจริงๆเหรอ คุณอย่าสำคัญตัวเองไปหน่อยเลย”
พอพูดจบ เธอก็ดื่มน้ำในแก้วจนหมดในอึกเดียวด้วยความโกรธ
แต่ก็ยังยากที่จะดับความโกรธในใจของเธอลงได้
ฝู้จิงเหวินกลัวว่าเธอจะโกรธจนไม่ยอมบอกว่าจิ้นเฟิงเฉินอยู่ที่ไหน เขาก็เลยงรีบช่วยเธอเทน้ำใส่แก้ว
พอเห็นแบบนี้ ข่ายสื้อลินก็พูดถากถาง “ฝู้จิงเหวิน คุณนี่มันจอมปลอมจริงๆ”
“คุณอยากจะด่าก็ด่ามาเถอะ” ฝู้จิงเหวินพูดอย่างเฉยเมย
วันนี้เขายอมให้เธอด่าได้ตามใจ ขอแค่เธอยอมบอกเขาว่าจิ้นเฟิงเฉินอยู่ที่ไหน
ข่ายสื้อลินยิ้มเยาะ “ฉันขี้เกียจจะด่าคุณ”
หลังจากนั้น ทั้งสองคนก็นิ่งเงียบ ไม่มีใครเริ่มพูดขึ้นมาอีก
จนกระทั่งอาหารมื้อนี้จบลง ฝู้จิงเหวินถึงได้ยอมเอ่ยปากพูด “ตอนนี้คุณบอกผมได้หรือยังว่าเขาอยู่ที่ไหน”
ข่ายสื้อลินขมวดคิ้ว แล้วเงยหน้ามองเขา “ฝู้จิงเหวิน คุณรอให้ฉันกินข้าวเสร็จก่อนแล้วค่อยถามไม่ได้หรือไง”
ฝู้จิงเหวินพยักหน้า “ตกลง”
แต่ข่ายสื้อลินกินไม่ลงแล้ว เธอวางช้อนส้อมลง แล้วเช็ดปากด้วยผ้าขนหนูเปียก ก่อนจะพูดช้าๆ “จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ในมือของเบอร์เกนแล้ว”
“ไม่อยู่แล้วอย่างนั้นเหรอ” ฝู้จิงเหวินขมวดคิ้ว “แล้วเขาไปอยู่ที่ไหน”
“ถูกผู้หญิงที่ชื่อว่าซ่างกวนหยวนพาไปแล้ว”
ซ่างกวนหยวนเหรอ
“ทำไมชื่อนี้ถึงคุ้นหูแบบนี้” ฝู้จิงเหวินนิ่งคิดอย่างจริงจัง แววตาของเขาเป็นประกายขึ้นมาทันที “เธอก็เป็นนักวิจัยเช่นเดียวกัน”
ฝู้จิงเหวินขมวดคิ้วแน่น เหมือนคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ
ฟางยู่เชินถามอย่างลองเชิง“คุณฝู้ มีอะไรหรือเปล่าครับ”
ฝู้จิงเหวินได้สติกลับมา หลังจากคิดอยู่สักพัก “เรื่องนี้มันแปลกเกินไป พวกคุณไม่คิดอย่างนั้นเหรอ”
“พี่หมายความว่ายังไงคะ” เจียงสื้อสื้อมึนงงเล็กน้อย
ตอนนี้เธอคิดแต่อยากจะกลับไปประเทศเพื่อไปหาซ่างกวนหยวนให้เร็วที่สุด จึงไม่มีกะจิตกะใจจะคิดเรื่องอื่น
“ลองคิดดูสิครับ จิ้นเฟิงเฉินจะยอมไปกับผู้หญิงคนอื่นอย่างเชื่อฟังได้ยังไงกัน” ฝู้จิงเหวินเอ่ยถาม
ฟางยู่เชินส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้แน่ๆ”
เขารู้ว่าจิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ชอบซ่างกวนหยวน ดังนั้นเขาไม่มีทางไปกับเธอแน่ๆ
เจียงสื้อสื้อเองก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติบาง “พี่กำลังจะพูดว่าเฟิงเฉินไม่ได้ถูกเธอพาไปอย่างนั้นเหรอคะ”
“ไม่ใช่” ฝู้จิงเหวินลังเลอยู่สักพัก ก่อนที่จะพูดออกมา“พี่หมายความว่าจิ้นเฟิงเฉินอาจจะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ไม่เช่นนั้น เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะถูกซ่างกวนหยวนพาตัวไป แล้วนานขนาดนี้ยังไม่ยอมติดต่อพวกคุณเลย เพราะซ่างกวนหยวนเองก็เป็นนักวิจัยทางการแพทย์เหมือนกัน เธออาจจะทำอะไรบางอย่างกับจิ้นเฟิงเฉินก็ได้”
นี่เป็นเพียงแค่การคาดเดาของเขาเท่านั้น
กวนหยวนจะต้องไม่ทำร้ายเฟิงเฉิน”
“สื้อสื้อ อย่าเพิ่งร้อนใจ พี่ไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงคนนั้นจะทำร้ายจิ้นเฟิงเฉิน แต่เธออาจจะทำอะไรบางอย่างกับจิ้นเฟิงเฉิน ให้เขาเชื่อฟังในสิ่งที่เธอพูด”
ฟางยู่เชินขมวดคิ้ว “เรื่องแบบนี้ทำได้ด้วยเหรอครับ”
“แน่นอนครับ” ฝู้จิงเหวินพยักหน้า “เพียงแต่การทำแบบนี้เป็นข้อห้ามครับ นอกจากว่าคนคนนั้นจะมีเจตนาไม่ดี โดยปกติจะไม่มีใครทำแบบนี้”
พอได้ยินในสิ่งที่เขาพูด ฟางยู่เชินก็ยิ่งรู้สึกกังวลใจ
ซ่างกวนหยวนชอบจิ้นเฟิงเฉินมาก แล้วเธอก็เข้ามาตีสนิทกับสื้อสื้อ เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับจิ้นเฟิงเฉิน ผู้หญิงที่เจ้าเล่ห์แบบนี้ มีโอกาสสูงมากที่จะทำอย่างนั้น
“เธอทำอย่างนี้ได้ยังไงกัน” เจียงสื้อสื้อยิ้มอย่างขมขื่น “ฉันไม่เคยคิดเลยว่าการคบเพื่อนจะกลายเป็นศัตรูหัวใจของตัวเอง แล้วยังคิดจะทำร้ายเฟิงเฉินด้วย”
“สื้อสื้อ น้องอย่าคิดมาก รอเรากลับไปที่เมืองหลวง ถ้าได้เจอเธอทุกอย่างก็จะชัดเจนเอง”
เรื่องราวดำเนินมาถึงตอนนี้ ฟางยู่เชินก็ได้แต่ปลอบใจเธอด้วยวิธีนี้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!